WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 10, 2008

เจ๊ง!สมพรปากฟ้องพธม.5หมื่นล.

ที่มา ประชาทรรศน์

* นปช.จี้สำนึกปชป.ตะเพิด‘สมเกียรติ’พ้นพรรค

เจ๊ง! จริงอย่างปากพันธมิตรฯ ทอท.ฟ้องเรียกค่าเสียหายปิดสนามบินอีก 3.5 หมื่นล้านบาท หลังจากที่การบินไทยฟ้องไปก่อนหน้า 2 หมื่นล้าน ยังไม่รวมสายการบินต่างชาติที่เข้าคิวรอฟ้องเรียกค่าเสียหายอีกบานตะไท ขณะที่แกนนำออกอาการด้านปัดความรับผิดชอบ อ้างไม่มีเงินจ่าย ส่วน นปช. ดาหน้าทวงถามความรับผิดชอบพรรคประชาธิปัตย์ ที่ปล่อย ส.ส. ลูกพรรค “สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” เป็นตัวตั้งตัวตียึดสนามบินทำชาติเสียหาย จี้ตะเพิดให้พ้นจากพรรค ด้านทำเนียบ เฉพาะปรับภูมิทัศน์ไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน แถมฐานข้อมูลสภาความมั่นคงฯ ถูกโจรกรรม

* ทำเนียบเละ!ฮาร์ดดิสก์สมช.ถูกโจรกรรม

ปรับภูมิทัศน์ทำเนียบ100ล้าน

ภายหลังการยุติการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาล สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ได้สำรวจพบว่ามีความเสียหายเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งมูลค่าทรัพย์สินและมูลค่าทางธุรกิจ ตลอดจนเรื่องของความเชื่อมั่นที่จะส่งผลในระยะยาวเกินกว่าจะประเมินค่าได้

นายนที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเข้าตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ภายในอาคารสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ภายในทำเนียบรัฐบาล ว่า ได้มีการตรวจสอบพร้อมเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เพื่อซ่อมทั้งในส่วนของการปูหญ้าใหม่ ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ

"ได้นำเอกสารความเสียหายต่าง ๆ ภายในทำเนียบรัฐบาลเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อของบประมาณในการปรับปรุงสถานที่ ซึ่งจะต้องเปิดซองประมูลเพื่อหาบริษัทเอกชนเข้ามาซ่อมแซม"

ทรัพย์สินข้าราชการสูญหายเพียบ

นายนที ยังกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ แต่เนื่องจาก อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานและข้าวของส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย และสูญหาย คาดว่าจะมีการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีเพิ่มกับกลุ่มพันธมิตรฯ

ด้านนายวชิระ เพ่งผล ผู้ตรวจการสำนักนายกฯ กล่าวว่า จากนี้จะให้แต่ละหน่วยงานของสำนักงานปลัดฯ รวบรวมความเสียหายเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดี รวมถึงทรัพย์สินส่วนบุคคลที่สูญหายด้วย ทั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า ข้าราชการสำนักงานปลัดฯ บางส่วนจะทยอยเข้ามาทำงานได้ แต่จะเริ่มเปิดทำการอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ธันวาคมนี้

ทั้งนี้ตำรวจประจำทำเนียบได้ตรวจพบปะทัดยักษ์ 2 ลูก ซึ่งมีการนำก้อนหินมาผูกติดไว้เป็นสะเก็ดระเบิด ซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของข้าราชการประจำสำนักนายกฯ ที่บริเวณชั้น 1 ตึกบัญชาการ 2 นอกจากนี้ที่บริเวณหลังเวทีภายในตึกสันติไมตรี ก็ตรวจพบระเบิดปิงปองอีกจำนวนหนึ่ง และภายในวันเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร เข้ามาพ่นยากันยุงลายตามท่อระบายน้ำภายในทำเนียบทั้งหมดด้วย

ทองคำ-แหวนเพชรไม่เหลือ

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้าสำรวจความเสียหายภายในสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นครั้งแรก ภายหลังได้ตรวจสอบความปลอดภัยและเก็บกู้วัตถุระเบิดไปแล้ว โดยพบร่องรอยการงัดและรื้อค้นสิ่งของตามลิ้นชักโต๊ะต่างๆ ไม่เว้นกระทั่งห้องผู้อำนวยการส่วนงาน ถึงแม้ว่าจะล็อกประตูห้องไว้อย่างแน่นหนา แต่ก็ถูกงัดฝ้าเพดานเข้าไปกวาดทรัพย์สินทั้งหมด

โดยเฉพาะห้องนายเยี่ยมศักดิ์ คุ้มอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนงานวินิจฉัยอุทธรณ์ สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่อยู่ชั้น 2 มีทรัพย์สินสูญหายกว่า 4 แสนบาท ซึ่งเป็นพระเครื่อง สร้อยคอทองคำ แหวนเพชร และทองคำแท่ง

โจรชั่วงัดฝ้าเพดานขโมยของ

ขณะที่ห้องรองปลัดสำนักนายกฯ อีก 2 ห้อง ก็มีร่องรอยงัดฝ้าเพดานเข้าไป แต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบความเสียหายภายในได้ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝง และจดรายละเอียดทรัพย์สินที่เสียหายเบื้องต้น ก่อนให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าอาคารสำนักงานปลัด สำนักนายกฯ ได้รับความเสียหายน้อยกว่าอาคารอื่นๆในทำเนียบ โดยข้าราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ บางคนที่ได้รับอนุญาตจากการ์ดพันธมิตรฯให้เข้ามาเก็บสิ่งของ เปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่เข้ามาเอาสิ่งของในช่วงที่พันธมิตรฯยังชุมนุมในทำเนียบ พบว่าสิ่งของตามห้องทำงานต่างๆ กระจัดกระจายมากกว่านี้ จึงเชื่อว่าน่าจะมีการเข้ามาเก็บความเรียบร้อยก่อนที่พันธมิตรจะเคลื่อนย้ายออกจากทำเนียบ

สมช.ถูกโจรกรรมซอฟต์แวร์

ทางด้าน พล.ต.ต.สุรพล พินิจชอบ ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยสรรพาวุธ สตช.กว่า 10 นาย เดินทางมาตรวจสภาพความเสียหายและเก็บหลักฐานทางนิติเวช ที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่อยู่ทำเนียบรัฐบาล พบกล้องวงจรปิดบริเวณประตูหน้าสำนักงาน สมช. บางตัวถูกทุบทำลาย รถของ สมช. เกือบ 10 คัน ทุกคันถูกปล่อยลมยางทั้ง 4 ล้อ

ส่วนการสำรวจความเสียหายที่ชั้น 4 พบประตูอัตโนมัติของศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ระดับชาติถูกเปิดออก จากการตรวจสอบพบว่า ฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ของเซิร์ฟเวอร์กลาง 6 ชุด ถูกถอดออกไป ซึ่งภายในฮาร์ดดิสก์มีความจุสูงหลายเทราไบต์ (1 เทราไบต์ เท่ากับ 1 ล้านเมกะไบต์) นอกจากนี้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหลายสิบเครื่องถูกถอดฮาร์ดดิสก์ออกจนหมด ก่อนจะปิดฝาให้อยู่ในสภาพเดิม

ฮาร์ดแวร์ถูกขโมยค่ากว่า40ล.

ทั้งนี้ ข่ายงานของศูนย์บริหารวิกฤตการณ์ระดับชาตินั้น เป็นหน่วยยุทธศาสตร์ในการบริหารวิกฤตการณ์และสถานการณ์ฉุกเฉิน อาทิ สาธารณภัย ภัยพิบัติ การก่อการร้าย ขณะที่ภายในศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศที่อยู่ติดกันก็ถูกงัดฮาร์ดดิสก์ขนาดใหญ่ของเซิร์ฟเวอร์กลางออกไปเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด

นายเทิดไท ศรีอุประ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สมช.กล่าวว่า จากการประเมินคร่าวๆ ถึงความเสียหายทั้งระบบฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ที่ถูกขโมย มีมูลค่าสูงถึงเกือบ 40 ล้านบาท

สำหรับฮาร์ดดิสก์ภายในเซิร์ฟเวอร์ของศูนย์มีข้อมูลภายในของ สมช.บรรจุอยู่ตั้งแต่ปี 2544 ทั้งเรื่องการบริหารจัดการภายในสำนักงาน หนังสือเวียน ข้อมูลโทรทัศน์วงจรปิด รวมถึงระบบอินเตอร์เน็ต อินทราเน็ต ที่เป็นระบบเฉพาะใช้กันภายในทำเนียบ และข้อมูลที่เกี่ยวกับด้านความมั่นคงที่แต่ละสำนักคัดสรรมาเก็บไว้ที่เซิร์ฟเวอร์กลาง

ทอท.เรียกค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล.

นอกจากนี้ ด้านของ พล.ต.ต.คำรบ ปัญญาแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้แถลงข่าวเปิดศูนย์บริการรับคำร้องทุกข์และรวบรวมพยานหลักฐาน กรณีเหตุชุมนุมเรียกร้อง และปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกลุ่มพันธมิตรฯ

โดย พล.ต.ต.คำรบ กล่าวว่า การเปิดศูนย์ดังกล่าว เพื่อให้บริการประชาชนในการแจ้งความร้องทุกข์ โดยได้ระดมพนักงานสอบสวนจาก ตำรวจภูธรภาค 1 จำนวน 33 นาย มาคอยรับแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร ราชาเทวะ เพื่อให้คำปรึกษากับผู้เสียหาย ซึ่งในขณะนี้มี บริษัท ท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้แจ้งความร้องทุกข์เรียกค่าเสียหายกับ 13 แกนนำพันธมิตรฯ แล้ว จำนวน 3.5 หมื่นล้านบาท

อนึ่ง การฟ้องเรียกค่าเสียหายของ ทอท. มีขึ้นหลังจากที่การบินไทยเคยฟ้องร้องไปแล้วก่อนหน้านี้ 2 หมื่นล้านบาท รวมกันแล้วเป็นเงินกว่า 5 หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมรายเล็กๆ กว่านี้ และยังไม่รวมสายการบินนานาชาติที่จ่อคิวฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายประมาณว่าจะมีตัวเลขอีกหลายหมื่นล้านบาท

ครม.มีมติเอาผิดทั้งแพ่งและอาญา

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา มีมติให้ดำเนินการเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ทั้งทางแพ่งและทางอาญา โดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้แต่ละส่วนราชการที่ได้รับความเสียหายมอบหมายให้นิติกรประสานกับอัยการสูงสุด และพนักสอบสวนเพื่อลงรายละเอียดความเสียหายให้ชัดเจนครบถ้วนแล้ว เพื่อป้องกันการตอบโต้ของกลุ่มพันธมิตรฯ

ส่วนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปทำงานในทำเนียบรัฐบาลได้เมื่อใด ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะวัสดุอุปกรณ์ในการปฏิบัติงานเสียหายหมด โดยค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมวัสดุอุปกรณ์ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 แต่หากไม่เพียงพอให้ขอใช้งบประมาณกลางปี 2552 มาดำเนินการ

ปชป.ต้องออกมาร่วมรับผิดชอบ

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นได้มีเสียงเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ได้ร่วมแสดงความรับผิดชอบ เนื่องจากนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.ของพรรค ได้มีส่วนร่วมในการนำคนไปยึดสถานที่สำคัญต่างๆ จนประเทศชาติได้รับความเสียหาย

นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวว่านายสมเกียรติเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง แต่เป็นส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากหาความรับผิดชอบจากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่แล้ว แต่พรรคดังกล่าวก็ต้องออกมารับผิดชอบ ต้องการเรียกร้องเพียงแต่ว่าจะให้พรรคที่ยึดสนามบินมาเป็นรัฐบาลและมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้อย่างไร

ส่วนกระบวนการยุติธรรม ดีเอสไอ พนักงานอัยการ และองค์กรตรวจสอบข้อเท็จจริงความเสียหายและดำเนินคดี จะต้องเคลื่อนไหวไปข้างหน้า ต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ เพื่อพิสูจน์ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับสถานที่ต่างๆ ให้เป็นไปอย่างถูกต้องและเที่ยงธรรม

เชื่อว่าการนำตัวคนที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นแกนนำ และคนที่ร่วมสร้างความเสียหายนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ไม่ยาก

จะเป็นรัฐบาลต้องรับผิดชอบก่อน

ด้านนายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับรถแท็กซี่ และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่าต้องทำความเข้าใจว่านายสมเกียรติไม่ได้หมายถึงสมาชิกพรรคธรรมดา แต่เป็นส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

พรรคดังกล่าวต้องมีระเบียบกฎเกณฑ์ที่ดำเนินการดังกล่าว ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้ พรรคจะต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ อย่างน้อยต้องออกมาชดใช้สิ่งของที่เสียหายของรัฐบาล

“ตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์อยากเป็นรัฐบาล คุณก็ควรจะรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นเสียก่อน แล้ววันหนึ่งคุณไปตั้งรัฐบาล คุณจะมาบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เพราะเขาเป็นส.ส.พรรคคุณ”

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้พันธมิตรฯ เองก็จะปฏิเสธไม่ได้ในสิ่งที่ทำความเสียหายขึ้น คดีอาญาก็ต้องยอมรับ คดีแพ่งที่สร้างความเสียหายให้ทำเนียบรัฐบาลก็ต้องยอมรับผิดโดยดี ไม่เช่นนั้นต่อไปจะเป็นตัวอย่างให้คนอื่นมาสร้างความเสียหายต่อบ้านเมือง และของสถานที่ราชการ

แนะตะเพิด “สมเกียรติ”พ้นพรรค

ทั้งนี้ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย และแกนนำคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า สิ่งที่นายสมเกียรติกระทำลงไปนั้นเป็นนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นการไปยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยึดสนามบินดอนเมือง และกระบวนการขับไล่นายสมัคร สุนทรเวช ออกจากนายกรัฐมนตรี รวมทั้งขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน

พรรคประชาธิปัตย์ต้องตอบให้ชัดว่า เป็นนโยบายของพรรคด้วยหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการขับไล่นายสมเกียรติออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงนายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. ของพรรคดังกล่าวนี้ด้วย เนื่องจากนายวัชระมีส่วนร่วมในการนำกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมสถานที่ราชการ