ที่มา ประชาทรรศน์
โฆษกรัฐบาล เผย ครม.มีมติเรียกเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ จากกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมเตรียมดำเนินคดีทางแพ่งและอาญา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีวานนี้ว่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการรมว.คมนาคม เสนอว่าควรจะมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ หรือผู้ชุมนุมเพื่อให้เป็นแนวทางการปฏิบัติและไม่ให้เกิดเป็นเยี่ยงอย่างสำหรับผู้ชุมนุมกลุ่มใดก็ตามหลังจากนี้ที่จะเข้ายึดสถานที่สำคัญของบ้านเมืองโดยผิดกฎหมายและเกิดผลกระทบวงกว้างอีก ทั้งนี้ทางครม.ก็รับทุกข้อสังเกตไปพิจารณา
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ครม.ยังให้ความเห็นชอบรายงานความเสียหายของทำเนียบรัฐบาลจากคณะกรรมการสำรวจทรัพย์สินของส่วนราชการในทำเนียบ ที่มีนายนัที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และได้รับรายงานจากรองผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.) และรองผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ว่า ตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้บุกยึดทำเนียบฯ ทางรัฐบาลก็ได้แจ้งไปยัง กฟน. และกปน.ว่าไม่มีส่วนราชการในทำเนียบฯเข้าไปทำงาน แต่ปรากฎว่าในช่วงเวลาดังกล่าวมียอดรวมค่าน้ำประปาเป็นเงินทั้งสิ้น 880,000 บาท ส่วนค่าไฟฟ้ามียอดรวม 2,270,000 บาท โดยในส่วนของค่าน้ำนั้น กลุ่มพันธมิตรฯ ได้จ่ายให้กับกปน.แล้ว 425,000 บาท ส่วนที่เหลือยังไม่สามารถเรียกเก็บได้ ส่วนค่าไฟฟ้านั้นยังไม่สามารถเรียกเก็บได้เลย
“ทั้งนี้ทางนายสุพล ฟองงาม รักษาการรมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้ตั้งคำถามว่าถ้าเป็นประชาชนทั่วไปหากไม่จ่ายค่าไฟใน 1 เดือน อีกครึ่งเดือนต่อมามิเตอร์ไฟก็จะถูกยกเลิกทันที แต่ทำไมกรณีนี้ถึงปล่อยให้พันธมิตรฯใช้ไฟได้ถึง 3 เดือน ซึ่งทางรองผู้ว่าฯกฟน.ชี้แจงว่าทางกฟน.ได้รับแจ้งจากทำเนียบฯว่าไม่มีหน่วยงานในทำเนียบฯเข้าไปทำงานเท่านั้น แต่ไม่ได้ระบุว่าให้ตัดไฟด้วย ขณะที่นายลอยเลื่อน บุญนาค รองเลขาธิการนายกฯ ได้ชี้แจงว่าระบบสายไฟฟ้าในทำเนียบฯได้ถูกนำมาไว้ใต้ดินตั้งแต่เมื่อครั้งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปค ซึ่งสายไฟได้โยงใยไปกับบ้านเรือนของประชาชนโดยรอบทำเนียบฯด้วย ถ้าตัดไฟในทำเนียบฯก็จะทำให้ชาวบ้านโดยรอบเดือดร้อนไปด้วย เราจึงไม่ได้ดำเนินการในเรื่องนี้”นายณัฐวุฒิกล่าวและว่า ท้ายที่สุดแล้วทางรองผู้ว่าฯกฟน.และกปน.ที่เข้าชี้แจงต่อครม.ก็ยืนยันว่าจะไปเรียกเก็บค่าน้ำและค่าไฟทั้งหมดจากกลุ่มพันธมิตรฯต่อไป
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯนั้น ที่ประชุมครม.มีมติให้แต่ละส่วนราชการมอบหมายให้นิติกรเป็นผู้ดำเนินการฟ้อง ดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญาต่อไป โดยให้หารือกับทางอัยการสูงสุด และพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ก่อนแจ้งความดำเนินคดีให้ทำรายละเอียดของทรัพย์สินที่เสียหายทั้งหมดอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการโต้แย้งจากกลุ่มพันธมิตรฯ
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ครม.ยังมีมติให้แต่ละส่วนราชการนำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2552 ของแต่ละหน่วยงานมาเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับจัดซื้อและซ่อมแซมพัสดุอุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหายหรือสูญหายไปจำนวนมาก เช่นคอมพิวเตอร์ แต่หากไม่เพียงพอก็ให้ขอจากงบประมาณรายจ่ายกลางปีต่อไป