ที่มา ไทยรัฐ
ไม่แน่ใจว่า “กระจง” ตัวที่ถูกนำไปปล่อยให้วิ่งเพ่นพ่านอยู่ในป่าเขต สปก.ที่จังหวัดภูเก็ต จะโตขนาดไหน หรือว่าตายไปแล้ว
แต่ถ้าอยู่คงได้หัวร่องอหาย
เพราะวันนี้ตัวละครเอกที่เคยห้ำหั่นกันอย่างเอาเป็นเอาตายในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ สปก.4-01 เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว อย่าง “เดอะห้อย” นายเนวิน ชิดชอบ กับ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่คิดว่าชาตินี้ผีจะไม่เผาเงาไม่เหยียบกันแล้ว
กลับมาจูบปากกันดูดดื่มเลย
ตอกย้ำสัจธรรมที่ไม่มีวันล้าสมัย “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร”
ภายใต้อำนาจและผลประโยชน์บนเงื่อนไขการสลับขั้วแหกค่าย “เนวิน” ทรยศ “นายใหญ่” หักดิบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาจับมือศัตรูคู่อาฆาตอย่างพรรคประชาธิปัตย์ อุ้มนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมี “เทพเทือก” เป็นล็อบบี้ยิสต์ประสาน สิบทิศ
โดยแนวโน้มการ “คบชู้สมสู่” จะลงตัวเร็วๆนี้
ล่าสุดตัวแทน 4 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม ประกอบด้วย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย นำโดย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นตัวแทน 4 พรรคการเมืองแถลงจุดยืน
การตัดสินใจใดๆ ต่อจากนี้ 4 พรรคร่วมจะมีมติร่วมกัน และย้ำจุดยืนเดิมที่เคยแถลงไว้เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ว่าจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดการจัดตั้งรัฐบาล โดยจะชูนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
ท่ามกลางตัวเลข ส.ส.ที่ยังแกว่งไปแกว่งมา
แต่ที่แน่นปึ้กก็คือเสียงหนุนนอกสภา โดยเฉพาะท่าทีจากกองทัพที่สะท้อนผ่าน พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พูดกันตรงๆเลยว่า ขณะนี้กำลังจะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ส่วนตัวเห็นว่าน่าจะเปิดโอกาสให้กับพรรคการเมือง ที่เคยเป็นพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลองเข้ามาบริหารประเทศ
เพราะหลังการเลือกตั้งที่ผ่านมาได้นายกฯมาแล้ว 2 คน จากพรรคพลังประชาชน แต่จะเห็นได้ว่า ค่อนข้างจะมีอุปสรรคในการบริหารงานค่อนข้างมาก
พูดกันชัดๆไม่กลัวเสียงครหา “ปฏิวัติซ่อนปืน”
ขณะที่สวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนทั่วประเทศหนุนให้เปลี่ยนขั้วจัดรัฐบาล เปิดทางให้นายอภิสิทธิ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี
ยังไม่นับเสียงจากนักธุรกิจที่เชียร์สุดลิ่มทิ่มประตู สัญญาณตอบรับจากตลาดหุ้นที่ดีดขึ้นต่อเนื่อง รับข่าวการพลิกขั้วรัฐบาล
แต้มนอกสภาของประชาธิปัตย์ชนะขาดลอย
ที่แน่ๆโดยอาการที่เริ่มรับสภาพตกเป็นรอง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ออกมายุส่งเลยว่า ภายใต้สถานการณ์ 2 ขั้วการเมืองยังมีเสียงก้ำกึ่งกัน
หากมีการจัดตั้งรัฐบาล แต่สังคมยังไม่สงบสุข ก็ควรยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน
แบไต๋ ทิ้งไพ่ใบสุดท้าย
สู้ไม่ได้พาลล้มโต๊ะมันซะเลย
แต่ก็ดักทางรอไว้แล้วเหมือนกัน
โดยอาการขยับของหัวขบวนม็อบพันธมิตรฯในนามภาคีเครือข่ายประชาชนเพื่อฟื้นฟูชาติและพัฒนาการเมือง เดินหน้าล่ารายชื่อยื่นถวายฎีกาขอรัฐบาลพระราชทาน รัฐบาลเฉพาะกาล อ้างเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย
โดยชื่อในบัญชีผู้ถวายฎีกาก็ล้วนแต่เจ้าเก่าขาประจำ อาทิ นายชัยอนันต์ สมุทวณิช นายกราชบัณฑิตยสถาน นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน อดีตรองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำม็อบพันธมิตรฯ
พร้อมๆกับการเดินแต้มของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว. “ลากตั้ง” สายม็อบพันธมิตรฯยื่น กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานภาพของนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ในฐานะ ส.ส.สัดส่วนอดีตพรรคพลังประชาชน ยังมีอำนาจทำหน้าที่ประธานรัฐสภาได้หรือไม่
เหมือนเคลียร์ทางให้นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา รับไม้แทน
ม็อบพันธมิตรฯเปิดช่องทางด่วนรอรัฐบาลพิเศษ
โดยการเก็งสถานการณ์ล่วงหน้า นักเลือกตั้งเปิดเกมยื้ออำนาจ ยากที่จะเคลียร์กันลงตัว
ดันนายกฯ “ลากตั้ง” เสียบได้ทุกจังหวะ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน