ที่มา thaifreenews
บทความ โดย ปูนนก
หลังจากที่ พธม. ได้ยุติการยึดครองทำเนียบรัฐบาล ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทำเนียบเข้าไปสำรวจความเสียหายที่เกิดขึั้นภายในทำเนียบ ข่าวทีวีทุกช่องแสดงภาพความเสียหายอย่างรุนแรงตรงกันว่า เป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทำเนียบรัฐบาลชนิดที่เรียกว่า “ย่อยยับ” ไม่เหลือภาพแห่งความสง่างามของทำเนียบรัฐบาล สถานที่ทำงานอันทรงเกียรติ์ยิ่งของชาิติอีกเลย ความเสียหายที่เกิดจากความเสื่อมโทรม, การรื้อทำลาย, การหยิบฉวยทรัพย์สินอันมีค่าออกไปมากมาย แต่ที่น่ากลัวที่สุดและถือเป็นความเสียหายอันประเมินค่าไม่ได้เลยก็คือ ข้อมูลที่อยู่ในส่วนของ “สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ” ที่ถูก “โจรก่อการร้ายพันธมิตร” ขโมยเอาเซิร์ฟเวอร์ และฮาร์ทไดร้ฟ ไปทั้งหมด
“สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ” มีหน่วยงานประกอบด้วย
1. ส่วนงานกลาง
2. สำนักงานเลขานุการกรม
3. กองอำนวยการข่าวกรอง
4. สำนักความมั่นคงกิจการชายแดนและการป้องกันประเทศ
5. สำนักความมั่นคงกิจการภายในประเทศ
6. สำนักความมั่นคงกิจการภายนอกประเทศ
หน่วยงานเหล่านี้รวมตัวกันอยู่ในภายสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ภายในชั้นที่ 1 ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล หน้าที่หลักก็คือเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็น “ชั้นความลับ ถึงความลับสุดยอดของประเทศ” เอาไว้ในเซิร์ฟเ้วอร์ ของสำนักงานฯ ซึ่งข้ัอมูลความลับเหล่านี้ก็จะแยกประเภทกันตามลักษณะของหน่วยงานต่าง ๆ แต่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงาน, นโยบายทางการเมือง, รวมถึงกิจการสำคัญ ๆ ต่าง ๆ มากมาย โดยสรุปรวมเิพื่อความมั่นคงของชาติทั้งสิ้น ซึ่งรวมถึงทางด้านสังคม, เศรษฐกิจ, การทหาร, และการดำเนินการทางการเมืองทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ.........
ข้อมูลที่เป็นชั้นความลับเหล่านี้เป็นตัวกำหนดแผนงานของประเทศที่จะำดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อการค้าระหว่างประเทศ, การกำหนดแนวทางการตกลงเรื่องยุทธศาสตร์ความมั่นคงของชาติ, การวางแผนงานเพื่อจะทำพาประเทศไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นเสมือน “พิมพ์เขียว” ของประเทศ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของประเทศทั้งสิ้น
พธม. ที่นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายจำลอง ศรีเมือง และแกนนำอีกหลายคน ต่างกล่าวอ้างอยู่เสมอว่า การชุมนุมของ พธม. เป็นการใช้สิทธิ์ของประชาชนตามกฎหมาย และด้วยการใช้ลีลาการพูดชั้นเทพ ของนายสนธิ ทำให้สามารถหลอกให้ประชาชนไทยเข้าใจผิดและยอมออกไปตายแทนได้อย่างง่ายดาย ส่วนจำลอง ก็มีกองกำลังสาวกชาวอโศก ที่ยอมทำทุกอย่างตามแต่ศาสดาจะสั่งอยู่แล้ว โดยมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเพื่อทำลายประเทศของตนเอง พฤติกรรมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดว่าการชุมนุมของ พธม. ก็คือ “โจรก่อการร้าย” ดี ๆ นี่เอง
การโจรกรรม “พิมพ์เขียว” ที่เป็นข้อมูลชั้นความลับสุดยอดของประเทศไปทั้งหมดอย่างนี้ ทำให้คิดไปเป็นอื่นไม่ได้เลยนอกจากว่า พธม. คือกระบวนการทำลายประเทศไทยให้ย่อยยับ และหายไปจากแผนที่โลก ต้องการให้ประชาชนไทยทุกคนตกเป็นทาสของประเทศใดก็ตามที่จะสามารถเข้ามายึดครองทางเศรษฐกิจ และสังคมได้โดยง่าย ซึ่งจะไม่มีทางต่อสู้ได้เลย พธม. พวกนี้ไม่ใช่คนไทย พวกเขาเป็น “โจรก่อการร้ายที่เข้ามาทำลายชาติ”
ดัีงนั้นใครก็ตามที่กล่าวอ้างถึงการสนับสนุน พธม. ว่าเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญตามระบอบประชาธิปไตย จึงเป็นเพียงข้ออ้างของโจรก่อการร้ายที่มีความมุ่งหวังที่จะทำลายความมั่นคงของชาติเท่านั้นเอง พวกเขาเหล่านั้นจำเป็นต้องรับรู้ถึงความเลวร้ายนี้ และถ้ายังคงเชื่อว่า พธม. ทำเพื่อชาติอยู่โดยไม่ยอมเปิดหู เปิดตา ดูความจริงใด ๆ เลย ผู้ที่่สนับสนุน พธม. เหล่านี้ก็ไม่สมควรได้ชื่อว่าเป็น “คนไทย” ไม่สมควรที่จะอาศัยอยู่ใน “แผ่นดินประเทศไทย” เพราะนี่คือความชั่วร้ายที่ไม่อาจจะบรรยายหรือนับได้
“เซิร์ฟเวอร์ ไม่กี่ตัว ฮาร์ทดิส ไม่กี่อัน” สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจอาจจะไม่รู้สึกถึงความสำคัุญใดเมื่อเทียบกับการปิดสนามบิน แต่สำหรับผู้ที่เข้าใจอย่างทุก ๆ ท่านที่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นแล้ว จะเข้าใจได้ดีว่า มันไม่ใช่แค่ฮาร์ทแวร์ ธรรมดา ๆ ที่หาซื้อได้ทั่วไปเท่านั้น แต่ข้อมูลที่อยู่ภายในนั้นต่างหากที่คือ “ความลับสุดยอด” ของประเทศและเป็นทุกอย่างที่ประเทศนี้เป็น และสิ่งเหล่านี้แหละที่ “ไอ้โจรร้าย พธม.” มันโจรกรรมไป......
เราจะใช้เพียงแค่ “คำสาปแช่ง” เพียงอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไปแล้ว แต่ต้องใช้ทุกกระบวนการ ทุกวิธีการที่จะทำลายล้างพวก พธม. โดยเฉพาะแกนนำให้หายไปจากประเทศนี้ให้จงได้ มิฉะนั้นประเทศไทยนี้จะไม่มีอีกต่อไปในแผนที่โลกตราบเท่าที่ พวก พธม. ยังคงอยู่ในประเทศไทย