ที่มา ประชาทรรศน์
ความเคลื่อนไหวฝุ่นตลบทางการเมืองยังเป็นที่จับตาและเป็นที่สนใจของหลายๆ ฝ่าย โดยเฉพาะตัวบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคการเมืองที่จะช่วงชิงการนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งยังคงเป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง
อภิสิทธิ์มั่นใจการเมืองไม่พลิก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แสดงความมั่นใจจะเป็นแกนนำในการรวบรวมพรรคการเมืองเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ถึงแม้ความเคลื่อนไหวในการจับขั้วตั้งรัฐบาลยังไม่หยุดนิ่ง เพราะกลุ่มขั้วการเมืองเดิมที่มอบหมายให้นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน
"เป็นธรรมดา เป็นสิทธิที่ทุกคนจะแสดงความคิดเห็นได้ แต่เชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้าทุกอย่างจะชัดเจน ผมเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมมีความหนักแน่น เห็นได้ชัดว่าคุยกันอย่างไรแนวทางก็จะเป็นอย่างนั้น"
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้สึกสบายใจ และเชื่อว่ากรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลเดิมเปลี่ยนขั้วมาสนับสนุน ปชป.จัดตั้งรัฐบาลจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และยอมรับความรู้สึกของประชาชนที่มีกระแสต่อต้านการที่พรรค เปลี่ยนท่าทีไปรับการสนับสนุนจากกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งอยากจะชี้แจงว่าได้คุยกันแล้วมีแนวทางเดียวกันที่จะทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า การเข้าไปทำหน้าที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องยอมรับภาระอันหนักหน่วง และกำไรทางการเมืองมีน้อย อีกทั้งไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และหากตนเองได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็จะเดินสายไปพบปะกับผู้ประกอบการทุกกลุ่มทุกองค์กร เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ
เพื่อนเนวินยันไม่ไปเพื่อไทย
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ยืนยัน ไม่เคยได้รับการทาบทามจาก นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ให้กลับมาร่วมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ แต่หากนายเสนาะ ติดต่อมาทางกลุ่มก็พร้อมที่จะพูดคุย ในฐานะที่นายเสนาะ ถือเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง และทางกลุ่มก็ให้ความเคารพนายเสนาะเสมอมา แต่คงไม่อาจเปลี่ยนใจให้ทางกลุ่มพลิกขั้ว กลับไปให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลแน่นอน
นายบุญจง ยังยืนยันว่ากลุ่มเพื่อนเนวินที่สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ยังคงมีตัวเลขสูงถึงกว่า 30 คน และไม่รู้สึกหวั่นไหวต่อแรงกดดันจากกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ออกมาเรียกร้องให้สมาชิกในกลุ่ม กลับไปจับขั้วกับพรรคเพื่อไทย และเชื่อมั่นว่าจะอธิบายให้กลุ่มผู้สนับสนุนในการเลือกตั้งสมัยหน้าได้อย่างแน่นอน
เพื่อแผ่นดินจับขั้วปชป.แน่น
ร้อยตรี(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อแผ่นดิน ยืนยันว่า พรรคจะจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งการที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคไม่ไปร่วมรับประทานอาหารเย็นกับ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เมื่อเย็นวานนี้ เป็นคำตอบชัดเจนแล้วว่า ไม่เห็นด้วยที่จะร่วมกับพรรคเพื่อไทย และไม่มีแนวคิดรัฐบาลเพื่อชาติรวมถึงข่าวที่ว่า ส.ส.จะออกไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย ก็ไม่เป็นความจริง มีแต่ ส.ส.จากพรรคอื่นจะมาขออยู่กับเพื่อแผ่นดินมากกว่า
ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ กล่าวว่าตามที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะแถลงข่าวจับมือกับพรรคร่วมในวันนี้ คงไม่มี ส.ส.ในพรรคเพื่อแผ่นดินไปร่วม เพราะ 4 พรรคร่วมเคยย้ำแล้วว่า จะดำเนินการอะไรจะต้องมีมติร่วมกัน ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ทาบทามเพื่อแผ่นดินบ่อยครั้งหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประชา น่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าตนเอง
รช.เชื่อรัฐบาลเพื่อชาติไปไม่ได้
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงแนวคิดการจัดตั้งรัฐบาลของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช โดยให้นายกรัฐมนตรีมาจากพรรคการเมืองเล็กที่ร่วมรัฐบาลอยู่ในปัจจุบัน ว่า ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคภูมิใจไทย ที่ตั้งขึ้นใหม่หลังการยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ไม่สนับสนุนแนวคิดนี้ จึงไม่ส่งตัวแทนพรรคไปร่วมงานเลี้ยงที่บ้านนายเสนาะ เมื่อเย็นวานนี้ โดย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่มีความสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับนายเสนาะ ต้องการไปร่วมงาน แต่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และตน ไม่เห็นด้วย จึงแจ้งแก่ พล.อ.เชษฐา ว่าไม่ควรไป เพราะอาจทำให้เกิดความสับสน จึงทำให้ พล.อ.เชษฐา ยกเลิกการไปร่วมงานเลี้ยง
ขณะที่มีรายงานจากพรรคชาติไทยพัฒนาเช่นกันว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของนายเสนาะ เช่นเดียวกัน
"เสนาะ"มั่นใจตั้งรัฐบาลเพื่อชาติได้
นายกมล จิระพันธุ์วาณิช อดีตกรรมการบริหารพรรคชาติไทย และอดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคชาติไทย เปิดเผยว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ และไม่เสียกำลังใจแต่อย่างใด หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา 4 พรรคร่วมรัฐบาลไม่ตอบรับคำเชิญรับประทานอาหารค่ำ เพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่เดินทางเข้าเยี่ยมเป็นการส่วนตัว โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย แต่อย่างใด
นอกจากนี้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้เดินทางเข้าหารือกับนายเสนาะ แล้ว โดยกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า มาเยี่ยมเยียนในนามส่วนตัวเท่านั้นไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
พผ.ชี้นายกฯไม่ควรมาจาก2ขั้ว
นายรณฤทธิชัย คานเขต ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงการจับขั้วตั้งรัฐบาลว่า จนถึงขณะนี้ตนและผู้แทนในพรรค ยังไม่ตัดสินใจว่าจะสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมทั้งเสนอว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ควรยึดประเทศชาติเป็นหลัก ผู้ที่สมควรเป็นนายกฯ คนต่อไป ไม่น่าจะมาจากทั้ง 2 พรรคการเมือง เพราะเชื่อว่าหากพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล คนเสื้อแดงก็คงออกมาเคลื่อนไหว เช่นเดียวกัน หากให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ คนเสื้อเหลืองก็ต้องออกมาชุมนุมกันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ที่เสนอ ไม่ใช่ต้องการให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เป็นนายกรัฐมนตรี
ฟ้องกกต.ปชป.จับขั้ว"เนวิน"
เพื่อไทยเตรียมนำหลักฐานซีดีภาพถ่าย"เนวิน"จับขั้วประชาธิปัตย์ฟ้องกกต.เอาผิดฐาน เป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเข้ามายุ่งการเมือง โดยนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ สมาชิกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนเตรียมหลักฐานซีดี ภาพถ่ายจำนวน 12 รูป รวมทั้งคำสัมภาษณ์ต่างๆที่มีการจับขั้วตั้งรัฐบาล ต่อกกต. กรณีพรรคประชาธิปัตย์ ให้นายเนวิน ชิดชอบ อดีต111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นผู้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 96 และ 98 ก่อนหน้านี้กกต. เคยระบุว่าหากอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองถือเป็นความผิด ทั้งนี้จะดูว่ากกต.เป็นธรรมเพียงพอหรือไม่ หรือว่าเป็นพวกใคร ดังนั้นกกต.ต้องให้ความเสมอภาคกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจยื่นฟ้องกลับ เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและแกนนำคนอื่นที่ถูกตัดสิทธิได้มาประชุมพรรคเพื่อไทยเหมือนกัน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่กลัว แต่กรณีพรรคประชาธิปัตย์เรามีหลักฐานชัดเจนเป็นภาพถ่ายที่นายเนวินและนายอภิสิทธิ์กอดกันเหมือนเป็นแฝดอิน-จัน ส่วนกรณีพรรคเพื่อไทยก็ต้องเอาหลักฐานมาดูว่ายุ่งเกี่ยวกับการเมืองจริงหรือไม่
เมื่อถามว่าที่ต้องการให้ดำเนินการกับพรรคประชาธิปัตย์หรือนายเนวิน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การ ไปดึงเขามาทำความผิดมันผิดทั้งคู่ มันเหมือนโจร ถ้าอยู่เฉยๆเขาอาจไม่อยากร่วมก็ได้ แต่ไปดึงเขามา จึงขอเรียกร้อง กกต. ให้เรียกร้องให้ปฏิบัติเหมือนกันด้วยความเป็นธรรม
เมื่อถามว่าที่ยื่นเพราะพรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตนทำหน้าที่ที่ตนเป็นส.ส. อย่าเอามาโยงกัน
อภิสิทธิ์เป็นรัฐบาลจะยิ่งวุ่น
ด้านนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ไม่มีตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลเดิมไปร่วมหารือกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ถึงการตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่า ไม่ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรอง ไม่มีพรรคร่วมมาร่วมแถลงข่าวก็ไม่เป็นไร แต่ได้ตัวมาก็พอแล้ว ขณะนี้มีส.ส. อดีตพรรคมัชฌิมาธิปไตยมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย 3 คน คือ นางกรรณิการ์ เจริญพันธ์ ส.ส.สุรินทร์ นายอารยะ ชุมดวง ส.ส.สุโขทัย และนายสมนึก เฮงวาณิชย์ ส.ส.บุรีรัมย์ ส่วนพรรคชาติไทยจะมา 3 คน พรรคร่วมใจไทยชาติพัฒนา 3 คน และพรรคเพื่อแผ่นดิน 7 คน ซึ่งจะเปิดเผยตัวในวันโหวตเลือกนายกฯ วันโหวตจึงห้ามกะพริบตา ว่าจะมีป่วย
ส่วนที่กลุ่มเพื่อนเนวินพูดว่าจะมีเสื้อแดงมาล้อมบ้านในวันโหวตเลือกนายกฯ ต้องดูว่าเป็นเสื้อแดงกลุ่มไหน เพราะอาจจะเป็นการหาทางลงของกลุ่มนั้น ที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน จะเดินไปบอกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ผมไปไม่ได้ เพราะชาวบ้านจะฆ่าผม และอยากถามนายอภิสิทธิ์ว่าหากตั้งรัฐบาลแล้ว ไปไหนได้หรือ อย่างที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช บอกว่าจะกลายเป็นไทยเหนือ ไทยใต้ ไม่เชื่อก็คอยดู
อ้างส.ส.อีสานหันกลับมาหนุนพท.
ว่าที่ร.ต.พงษ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ส.ส.อีสานเกือบทั้งหมดได้หันมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่ยังคงมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ตนยืนยันว่าวันนี้ส.ส.ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยมีเกินครึ่งแล้ว รอเพียงวันเวลาที่จะโหวตเลือกนายกฯเท่านั้น เราจะสามารถตั้งรัฐบาลด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่งแน่นอน แต่เรื่องตัวเลขจำนวนเท่าไรนั้นยังบอกไม่ได้ อยากฝากถึงส.ส.ที่ยังไม่กลับมาพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน พวกเรายังรอให้ท่านกลับมาร่วมชายคาเดียวกัน และอยากให้ตัดสินใจเรื่องนี้ให้ดี ทั้งนี้ ประชาชนในภาคอีสานได้ตอบรับแนวทางจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ ตามที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุน และประชาชนไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่มีเบื้องหลังเป็นเผด็จการคอยให้การสนับสนุน
“พวกเรามั่นใจว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่อบอุ่นและอีกไม่นานส.ส.จะกลับมา สาเหตุที่ทำให้มั่นใจอย่างนี้ เพราะเลือดอีสาน ข้าวเหนียวปั้นแล้วเหนียวแน่น ดังนั้นประชาชนอยากให้ส.ส.เดินไปทางไปไหนส.ส.ก็จะเดินไปทางนั้น”
ว่าที่ ร.ต.พงษ์พันธ์ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาตนได้รับสัญญาณจากเพื่อน ส.ส.ที่ยังคงมีความรักต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ยังคงไม่ได้แสดงตัวว่าสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเต็มตัว โดยส.ส.กลุ่มนี้จำนวนประมาณกว่า 10 คน ที่พร้อมจะตัดสินใจในวันโหวตเลือกนายกฯ เช่น การงดออกเสียง หรือการไม่มาร่วมประชุม เพราะไม่ต้องการโหวตให้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ นอกจากนี้ที่ผ่านมาตนยังไม่ได้มีโอกาสรับโทรศัพท์จากส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินที่ย้ายขั้วไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ในการจัดตั้งรัฐบาล โดยได้ขอให้ตนออกไปจากพรรคเพื่อไทยแล้วไปหนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งก็บอกไปว่าทำไม่ได้ ไม่ใช่สิ่งที่ประชาชนต้องการ
เชื่อเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้100%
นายพงศกร อรรณพพร อดีต รมช.ศึกษา และอดีตสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน กล่าวว่า เท่าที่ตนได้พูดคุยกับพรรคพวกที่อยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล เกือบทุกคนอยากให้กลับมาเป็นรัฐบาลร่วมกันเหมือนเดิมอีกครั้ง และขณะนี้ส.ส.เกือบทุกจังหวัดในภาคอีสานที่มาอยู่พรรคเพื่อไทยแล้ว ส่วนคนที่ยังไม่มาก็โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าเดี๋ยวจะกลับมา และยืนยันว่าตัวเลขสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ 100 เปอร์เซ็นต์แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าตัวเลขส.ส.ที่ยังไม่กลับมาเหลือเพียงอีกเล็กน้อย เพราะส.ส.จะไม่หักหลังประชาชน อย่างไรก็ตามเรามีการประเมินกันอยู่ทุกวันเกี่ยวกับจำนวนส.ส.และคิดว่าเราจะไม่แพ้แน่นอน
ส่ง3แคนดิเดตชิงเก้าอี้นายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางการช่วงชิงการจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรรคประชาธิปัตย์โดยสิ่งสำคัญที่น่าจับตาคือ บุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี โดยพบว่าได้เตรียมไว้ถึง 3 คน ซึ่งประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส่วนจะเป็นบุคคลใดนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทุ่มจ่ายซื้อตัว ส.ส.หัวละ 50 ล้านบาทนั้น นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่เคยได้ยินว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเรื่องนี้ ซึ่งการตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของ ส.ส. การเลือกนายกฯเป็นเรื่องของสภาฯ คงไม่เกี่ยวกับพวกเราซึ่งเป็นคนนอก
เล่นงานปชป.จับขั้ว"เนวิน"
ด้านพรรคเดพื่อไทยก็ยังคงดิ้นทุกวิถีทาง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ สมาชิกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตนเตรียมหลักฐานซีดี ภาพถ่ายจำนวน 12 รูป รวมทั้งคำสัมภาษณ์ต่างๆที่มีการจับขั้วตั้งรัฐบาล ต่อกกต. กรณีพรรคประชาธิปัตย์ ให้นายเนวิน ชิดชอบ อดีต111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นผู้ถูกตัดสิทธิเลือกตั้งเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง ซึ่งเป็นความผิดตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 96 และ 98 ก่อนหน้านี้ กกต. เคยระบุว่าหากอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองถือเป็นความผิด ทั้งนี้จะดูว่า กกต.เป็นธรรมเพียงพอหรือไม่ หรือว่าเป็นพวกใคร ดังนั้นกกต.ต้องให้ความเสมอภาคกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจยื่นฟ้องกลับ เพราะนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯและแกนนำคนอื่นที่ถูกตัดสิทธิได้มาประชุมที่พรรคเพื่อไทยเหมือนกัน นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่กลัว แต่กรณีพรรคประชาธิปัตย์เรามีหลักฐานชัดเจนเป็นภาพถ่ายที่นายเนวินและนายอภิสิทธิ์กอดกันเหมือนเป็นแฝดอิน-จัน
สดศรีชี้รธน.เขียนไว้ไม่ชัด
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฝ่ายกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณี ส.ส. สมาชิกพรรคเพื่อไทยตบเท้าลาออกจากพรรคดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าสถานะของพรรคอาจเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายค้านในรัฐสภา ว่าขณะนี้ยังไม่มีการรายงานจากส่วนที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว
นอกจากนี้ กรณีนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นฟ้องร้องกับกกต. เพื่อเอาผิดกับนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมือง หลังจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ซึ่งผิดพ.ร.บ.พรรคการเมืองมาตรา 96 และ 98 นั้น นางสดศรี กล่าวว่าจะต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณาว่ากรณีดังกล่าวเป็นส่วนที่กกต.จะต้องดำเนินการรับผิดชอบหรือไม่ อย่างไร
“คงจะต้องวินิจฉัยกัน แต่ในรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้เขียนระบุไว้ชัดเจนว่ารายละเอียดที่ไม่ให้เข้ามายุ่งทางการเมืองมีอะไรบ้าง รูปที่ใครๆ เห็นกันตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้มีแค่คนเดียว เพราะคนที่ถูกตัดสิทธิขณะเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ก็เห็นเข้ามายุ่งเกี่ยวทางการเมืองกันเยอะ ก็เลยไม่รู้ว่าใครผิดอย่างไร เรื่องนี้จะมีการประชุมกันในสัปดาห์หน้า” นางสดศรีกล่าว
โปรดเกล้าฯเปิดสภา15 ธ.ค.
ผู้สื่อชข่าวรายงานว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่าโดยที่ประธานรัฐสภา ได้นำความกราบบังคมทูล ว่า เนื่องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ได้ว่างลง และสภาผู้แทนราษฎรจะต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ให้แล้วเสร็จ ภายใน 30 วันประกอบกับ ได้มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ของทั้ง 2 สภาเข้าชื่อร้องขอ ให้ประกาศเรียกประชุมรัฐสภา เป็นการประชุมสภาสมัยวิสามัญ ตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยอาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 128 และ มาตรา 129 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงมี พระบรมราชโองการให้เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ตั้งแต่ วันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2551
เปิดโผครม.รัฐบาลอภิสิทธิ์
สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีรายงานว่าหนึ่งในจำนวนรองนายกรัฐมนตรีจะมีชื่อของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ และพรรคประชาธิปัตย์ยังขอสงวนโควตารองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ และจะมี พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เข้ามาเป็นรองนายกฯ ด้านความมั่นคง รวมถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ ก็ขอดูเอง
ส่วนตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ มีการวางตัวนายกษิต ภิรมย์ หลังจากที่นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัน มีเสียงคัดค้าน รมว.คลัง วางตัวม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล และนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล จากพรรคประชาธิปัตย์เอาไว้
ส่วนตำแหน่งอื่นๆ นั้น พรรคประชาธิปัตย์พยายามจัดสรรโควตาเดิมให้กับแต่ละพรรค โดย นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ยังคงเป็น รมช.คลัง พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช และอีก 1 ตำแหน่งจากกลุ่มเพื่อนเนวิน ส่วน รมว.กลาโหม ก็ยังเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ โดยยังมีรายชื่อทั้ง พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี พล.อ.วินัย ภัททิยกุล และพล.ต.มนูญกฤติ รูปขจร ส่วนนายอภิสิทธิ์ ยังมีข่าวว่าจะควบ รมว.ศึกษาธิการด้วย
นอกจากนี้ยังมีนายชินวรณ์ บุญเกียรติ รมช.ศึกษาธิการ ( ประชาธิปัตย์ ) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รมว.มหาดไทย ( ประชาธิปัตย์ ) นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ( ประชาธิปัตย์ ) นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย ( เพื่อนเนวิน ) นายไชยยศ จิรเมธากร รมช.มหาดไทย ( เพื่อแผ่นดิน ) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา (ชาติไทย เดิม)
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ( ชาติไทย เดิม )
นายชัย ชิดชอบ รมว.คมนาคม นายโสภณ ซารัมย์ รมช.คมนาคม ( เพื่อนเนวิน) นายเทิดพงษ์ ไชยนันท์ รมว.สาธารณสุข พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ( เพื่อแผ่นดิน เดิม) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( ประชาธิปัตย์ ) ฯลฯ