WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, October 19, 2009

เพื่อไทยเตรียมยื่น ป.ป.ช.-นายกฯ สอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่อทุจริต

ที่มา MCOT News

เพื่อไทย 18 ต.ค. - โฆษกพรรคเพื่อไทยเตรียมยื่น ป.ป.ช.และนายกรัฐมนตรี สอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่อทุจริตทำรัฐสูญเงินกว่า 5,000 ล้านบาทจากการขยายกรอบวงเงินงานโยธา เผยคู่สัญญามีบุตรของ รมว.มหาดไทย เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (19 ต.ค.) เวลา 10.00 น. พรรคเพื่อไทยจะไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ตรวจสอบการประกวดราคาและการอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงบางใหญ่-บางซื่อ เนื่องจากพบข้อมูลส่อว่า อาจมีการทุจริตจากการประกวดราคาและการอนุมัติจัดจ้างบริษัทเอกชน เพื่อก่อสร้างงานโยธา ที่ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งสืบเนื่องจากการขยายกรอบวงเงินค่าก่อสร้างงานโยธา จาก 31,217 ล้านบาท เป็น 36,055 ล้านบาท

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การปรับเพิ่มดังกล่าวเป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่คู่สัญญา 2 สัญญาอย่างชัดเจน ทำให้ได้ราคาค่าก่อสร้างสูงขึ้น คือ สัญญาที่ 1 กลุ่มบริษัท ช .การช่าง เป็นผู้ชนะการประมูล และสัญญาที่ 2 บริษัทชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชัน จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประกวดราคา ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีบุตรของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมเห็นว่าพฤติกรรมของนายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีการกระทำอันส่อว่าน่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนดังกล่าว จึงอยากให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบว่าใครได้ประโยชน์จากโครงการนี้อย่างแท้จริง รวมทั้งตรวจสอบว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการดังกล่าวอย่างถูกต้องหรือไม่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า วันพรุ่งนี้ เวลา 11.00 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ใช้อำนาจสั่งชะลอการลงนามสัญญาที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ต.ค.นี้ และสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น แต่หากนายกรัฐมนตรีไม่ดำเนินการก็ต้องรับผิดชอบสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังด้วย. - สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2009-10-18 12:46:06