ที่มา ข่าวสด
"ที่ตายก็แล้วกันไป มาปรองดองกันเถอะ"
แนวคิดนี้ใกล้เคียงกับสิ่งที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกำลังทำอยู่
เพราะหลังจากเกิดเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดงจนมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 90 ศพ บาดเจ็บอีกหลายพันคน
ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ อภิสิทธิ์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ และแม้แต่ ศอฉ.เองก็ไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้น
ระบุเพียงว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเป็นไอ้โม่งชุดดำที่ยิงประชาชน ยิงเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ยิงผู้สื่อข่าวทั้งไทยและเทศ และยิงเจ้าหน้าที่ทหาร
โดยเฉพาะนายกฯ อภิสิทธิ์ละเลยที่จะทำความจริงตรงนี้ให้กระจ่าง ละเลยที่จะดำเนินคดีกับผู้สั่งการสังหารประชาชน
แต่บอกว่านโยบายเร่งด่วนคือการปรองดอง-สมานฉันท์
บอกว่านโยบายเร่งด่วนคือการเยียวยาธุรกิจที่เสียหายจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม
ที่เดินยิ้มแป้นรับช่อดอกไม้จากบรรดาแม่ยกเฟซบุ๊กที่ทำเนียบรัฐบาล หรือการจัดมหกรรมถนนคนเดินให้ประชาชนออกมาเลือกซื้อสินค้าต่อเนื่อง
ในแง่หนึ่งเป็นการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบก็จริง
แต่ถ้าโหมโปรโมตการประชาสัมพันธ์เกินจริงก็อันตราย
เหมือนรัฐบาลพยายามบอกว่าบ้านเมืองกลับมาปกติสุข มองข้ามการสูญเสียชีวิตของประชาชนไปเสียเถอะ??
คณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์สลายม็อบที่นายกฯ แต่งตั้งนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน เริ่มต้นก็ระบุว่ากรรมการชุดนี้ไม่ได้มาสอบสวนว่าใครผิดใครถูก แต่เน้นเรื่องการสมานฉันท์ของคนในชาติ
แล้ว 90 ศพที่เสียชีวิตไป ใครจะรับผิดชอบ!?
ถ้าเกิดคดีฆาตกรรมขึ้นในหมู่ญาติพี่น้อง จะด้วยความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์หรือสาเหตุอะไรก็ตาม
ตำรวจซึ่งมีหน้าที่รักษากฎหมาย กลับบอกว่าการติดตามจับกุมฆาตกรเอาไว้ทีหลัง สิ่งเร่งด่วนคือต้องให้ญาติพี่น้องที่เป็นคู่กรณีควรมาจับมือปรองดองก่อน
ยังงั้นหรือ?
ในความเป็นจริงแล้วเป็นไปได้ไหม
ที่รัฐบาลทำอยู่ตอนนี้เหมือนซุกขยะไว้ใต้พรม
สร้างกระแส สร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลเอง พยายามจะบอกว่าคนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการสลายการชุมนุม
ทั้งหมดนี้ไม่ได้บอกว่าการปรองดองไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เห็นด้วยอย่างยิ่งที่คนในชาติต้องหันมาสร้างความสมานฉันท์
แต่ต้องทำควบคู่ไปกับการทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นจริง
เพราะหากยังเอาตัวคนสั่งการทำให้มีคนตายมากขนาดนี้มาลงโทษไม่ได้ เรื่องสมานฉันท์ปรองดองก็ไม่มีวันสำเร็จ
เก็บกวาดขยะที่ใต้พรมเสียก่อน บ้านถึงจะกลับมาน่าอยู่ได้
หวานเจี๊ยบบบบ
3 hours ago