ที่มา ข่าวสด
จ่าบ้าน
นโยบายของรัฐบาล และของรัฐมนตรีแต่ละคนย่อมตั้งอยู่บนนโยบายของพรรคการเมืองที่จัดตั้งรัฐบาล
หมายถึงพรรคการเมืองทุกพรรคต่างมีนโยบายเป็นของตัวเอง ต่อเมื่อหลังการเลือกตั้ง พรรคการเมืองนั้นไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยพรรคเดียว ต้องร่วมกับพรรค การเมืองอื่นจัดตั้งเป็นรัฐบาลผสมสองพรรค หรือหลายพรรค
พรรคแกนนำ หมายถึงพรรคที่มีเสียงข้างมากจาก การเลือกตั้งจำเป็นต้องรวบรวมนโยบายของพรรค การเมืองที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล มาเป็นนโยบายของรัฐบาล
ดังนี้ นโยบายของรัฐบาล นั้นจึงไม่ใช่นโยบายของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเฉพาะ
ผิดกับเมื่อครั้งที่พรรคไทยรักไทยได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ จึงมีโอกาสใช้นโยบายของพรรคไทยรักไทยเต็มที่
หลังจากรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินไปพักหนึ่ง แม้ยังคงนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภาไปแล้วก็ตาม รัฐบาลก็มีโอกาสปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเสริมนโยบายใหม่เข้าไปได้อีก
เช่นเมื่อเกิดเหตุความไม่สงบ มีการชุมนุมของกลุ่มคนที่ต้องการเรียกร้องเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากรัฐบาล ดังกรณีที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา จากนั้นต่างก็มีเงื่อนไขไหลเลื่อนเพิ่มเติมขึ้นมาอีก จนกลายเป็นเหตุรุนแรงขึ้น
เมื่อรัฐบาลดำเนินการยุติการชุมนุมได้จะด้วยเหตุใดก็ตาม รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีก็พยายามจัดให้เกิด "ความปรองดอง" ขึ้น ซึ่งไม่ทราบว่ามีการหารือกับพรรคการเมืองที่เข้าร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่
หากมีการหารือแล้ว รัฐบาลต้องแถลงต่อรัฐสภาหรือไม่ว่า จะใช้นโยบายนี้ซึ่งเป็นนโยบายใหม่
เพื่อให้ประชาชนในชาติเกิดความปรองดองกัน มิให้เกิดความแตกแยกทางความคิดเป็นฝักเป็นฝ่ายขึ้นอีก
เพราะถึงอย่างไร รัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีต้องไม่ลืมว่า การที่ประชาชนในชาติจะปรองดองกันได้ คณะรัฐมนตรีต้องปรองดองกันก่อน และที่สุด พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลต้องปรองดองกันด้วย
ไม่อย่างนั้นแล้ว ป่วยการที่นายกรัฐมนตรีจะจัดให้มีการปรองดองในชาติขึ้นได้อย่างราบคาบ
หวานเจี๊ยบบบบ
6 hours ago