WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, June 13, 2010

"มาร์ค"ยังกั๊ก "อานันท์"ปฏิรูป

ที่มา ข่าวสด


ม็อบสมุยไล่พท. ตรวจ"เขาแพง"




ขวาง - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ พร้อมทีมตรวจสอบการถือครองที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ ธานีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถูกชาวบ้านที่ฟังข่าวจากวิทยุชุมชน ฮือขวางไม่ให้เข้าไปในพื้นที่เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.

"มาร์ค"ยอมรับคุย"อานันท์" แต่ปัดทาบนั่งประธานปฏิรูป แค่แลกเปลี่ยนเรื่องการเมือง มั่นใจโหวตผ่านงบประมาณแม้เสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ "กรณ์"เชื่อทุกพรรคยกมือหนุน รมว.ไอซีทีขู่นายกฯยุบสภา ถ้า"แม้ว"เดินเกมซื้อตัวส.ส.คว่ำงบ ประธานวิปรัฐบาลรับรองไม่สะดุด จี้ปรับรมต.ชอบโดดร่ม พรรค ร่วม-ปชป.ยันแผนปรองดองไม่ใช่แค่สร้างภาพ นพดลย้ำอีก"แม้ว"พร้อมเจรจา ชี้แผนปรองดองแค่ลายแทงที่นายกฯคิดคนเดียว เพื่อไทยบุกตรวจพื้นที่เขาแพงของลูกเทือก เจอม็อบรอไล่ "พร้อมพงศ์"โดนผลักอก-ไล่ไปตรวจสอบที่ดินเกาะสมุย"สุวัจน์-เจ๊หน่อย" เจ้าของที่ดินแปลงข้างเคียงอึ้ง-น้ำตาคลอ ทางสาธารณะถูกขุดคูกั้น รปภ.ชุดดำคุมเข้มห้ามเข้า "ตู่"จวกยับ"เทือก"ปลุกม็อบขวาง

พท.บุกสอบพื้นที่เขาแพง

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. คณะทำงานติดตามตรวจสอบกรณีการถือครองที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายประเกียรติ นาสิมมา ประธานคณะทำงาน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง นายทวี สุรบาล คณะทำงานและนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบการถือครองที่ดินเขาแพง ตามโฉนดเลขที่ 28109 เนื้อที่ 62 ไร่ 1 งาน 97 ตารางวา ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ถือครองโดยนายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง สืบเนื่องจากกรณีพรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุเทพ โดยมีนายวรพจน์ วิชัยดิษฐ น้องชายนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ แกนนำกลุ่มนปช.นำลงพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคณะมาถึงสนามบิน ได้มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งใช้รถจักรยาน ยนต์เป็นพาหนะติดตามความเคลื่อนไหวตั้งแต่สนามบินจนถึงร้านอาหารที่คณะแวะรับประทานอาหารเช้า และที่ร้านอาหารก็มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มหนึ่งแฝงตัวมารับประทานอาหารเพื่อดูความเคลื่อนไหวแล้วแจ้งให้ผู้ชุมนุมกลุ่มใหญ่ทราบจุดหมาย

"เด็จพี่"เจอม็อบต้าน-ผลักอก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่คณะทำงานแวะชี้จุดที่ตั้งที่ดินของนายแทน ฝั่งหน้าทอน ได้ถูกหญิงวัยกลางคนซึ่งอ้างว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บุกเดี่ยวเข้ามาด่าทอ ระบุเกาะสมุยไม่ต้อนรับคนที่เป็นทาสเงิน ทาสรับใช้ทักษิณคนขายชาติ และเมื่อคณะเดินทางไปถึงสภ.เกาะสมุย เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าจะพาคณะสื่อมวลชนจากส่วนกลางไปตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว ปรากฏว่ามีประชาชนประมาณ 100 คน มาดักรอที่ด้านหน้าสภ.เกาะสมุย พร้อมใช้รถปราศรัยย่อยกล่าวโจมตี ตะโกนโห่ขับไล่คณะทำงานของพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเมื่อนายพร้อมพงศ์ พยายามจะเดินเข้าไปในสภ.เกาะสมุย เพื่อพบพนักงานสอบสวน แต่ถูกผู้ชุมนุมกรูเข้ามาต่อว่า บางรายระงับอารมณ์ไม่อยู่ ถึงขั้นผลักหน้าอก จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบกันตัวนายพร้อมพงศ์ ออกมา พร้อมขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมให้อยู่ในความสงบ และกันคณะทำงานพรรคเพื่อไทยกลับเข้าไปในรถ

ผู้ชุมนุมอ้าง"สุวัจน์-หน่อย"ก็มีที่ดิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้ชุมนุมกำลังต่อว่านายพร้อมพงศ์ ปรากฏว่านายประเกียรติและนายยุทธพงศ์ ได้รีบเข้าไปแจ้งลงบันทึกประจำวันต่อร.ต.ท.ปฏิวัติ ขุนรัง พนักงานสอบสวน โดยเนื้อหาระบุว่า หลังอภิปรายไม่ไว้วางใจจำเป็นต้องมาดูพื้นที่จริง และไม่มีเจตนาจะบุกรุกทำให้เกิดความเสียหาย โดยนายจำลอง โพธิ์เพชร เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินเกาะสมุย นายประธูป และนางอรัญญา ภู่ไพบูลย์ เจ้าของที่ดินแปลงติดกันจะนำขึ้นไปตรวจสอบด้วย จึงแจ้งไว้เพื่อเป็นหลักฐาน

ขณะที่ผู้ชุมนุมยังปักหลักปราศรัยโจมตี โดยนายเจริญศักดิ์ เพชรอาวุธ แกนนำผู้ชุมนุม ระบุว่า พวกตนไม่ได้ถูกว่าจ้างมา แต่มาเพราะต้องการให้ตรวจสอบการรุกพื้นที่ของนักการเมือง ไม่ใช่มีแค่นายสุเทพ ที่มีที่ดินในเกาะสมุย นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ แกนนำพรรครวมชาติพัฒนา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ก็มีที่ดินบนเขาในเกาะสมุย และยังให้นอมินีถือแทน ต้องถามว่านักการเมืองที่มาตรวจสอบว่าจะตรวจสอบทั้งหมดหรือไม่ หากตรวจสอบจริง พวกตนพร้อมพาไปดูทุกที่ พวกตนไม่ใช่พวกนายสุเทพ ถ้านายสุเทพทำผิดก็ว่าไปตามผิดและขอทำความเข้าใจว่าที่บนเกาะสมุยไม่มีที่ป่าสงวนหรือส.ป.ก. มีแต่ที่ราชพัสดุ ซึ่งให้เช่ากันมานานแล้ว

รปภ.เข้ม-ขุดคูขวางทางเข้า

จากนั้นคณะทำงาน ได้เดินทางขึ้นเขาแพง โดยใช้เส้นทางต.หน้าทอน อ.เกาะสมุย ซึ่งต้องเปลี่ยนมาใช้รถโฟร์วีลส์เนื่องจากเส้นทางสูงชันเป็นดินลูกรังสลับกับราดซีเมนต์ ตลอดเส้นทางพบว่ามีการสร้างบ้านพักตากอากาศอย่างหรูหราติดป้ายประกาศขาย สามารถมองเห็นวิวทะเลเกาะสมุยได้ตลอดทาง แต่เมื่อถึงทางเข้าที่ดินของนายแทน ซึ่งอยู่บนยอดเขา พบว่าบริเวณทางเข้าถูกขุดด้วยรถแบ๊กโฮ ตัดถนนลักษณะเป็นคูกั้น ลึกประมาณ 1.50 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตรและกว้างประมาณ 1 เมตร พร้อมกับมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชุดดำ 5 นายยืนรักษาการณ์และห้ามบุคคลภายนอกบุกรุกพื้นที่

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รปภ.ทราบว่าได้รับคำสั่งให้ขุดคูกั้นทางเข้าบริเวณดังกล่าว แต่ไม่ได้กระทบกับการสัญจรของที่ดินดังกล่าว เพราะมีถนนคอนกรีตเข้าพื้นที่ได้อีกทางหนึ่ง

ชาวบ้านน้ำตาคลอ-ถนนถูกขุด

ด้านนายประธูปและนางอรัญญา ภู่ไพบูลย์ เจ้าของที่ดินข้างเคียง ต่างตกอยู่ในอาการงุนงง โดยนางอรัญญา กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า รู้สึกตกใจกลัวในสิ่งที่เกิดขึ้น และไม่เข้าใจว่าเหตุใดถนนทางเข้าสวนของตนจึงถูกตัดขาด ล่าสุด ตนมาที่สวนเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ทางยังมีอยู่เลย แล้วอย่างนี้พวกตนจะทำมาหากินอย่างไร ที่ของตนบนเขามีอยู่ 25 ไร่ เป็นใบภทบ. 5 และน.ส.3 ก. อีก 3 ไร่ ทั้งหมดปลูกมะพร้าวและขนุนเพื่อขาย ส่วนบ้านที่อาศัยอยู่ด้านล่าง พวกตนอยู่ที่นี่มา 20 ปี เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง ยืนยันว่าไม่ว่าอย่างไรตนจะไม่ขายที่ดินแปลงนี้อย่างแน่นอน ตนไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน และอยากเก็บไว้ให้ลูกหลาน

นายประธูป กล่าวว่า ถนนที่ใช้สัญจรไปมาของคนที่มีสวนอยู่บริเวณนี้ ใช้มาตั้งแต่ปี 2520 โดยลงขันระหว่างชาวบ้านว่าจ้างรถมาทำถนน เมื่อเป็นอย่างนี้ไม่รู้จะทำยังไง กลายเป็นว่าคนมีเงิน มีอำนาจจะทำอะไรก็ได้ ต่อไปนี้คงต้องไปแจ้งความกับตำรวจ และนายอำเภอเกาะสมุยว่าจะแก้ไขหรือดำเนินคดีด้วยวิธีใด เห็นแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะมาเบียดเบียนคนจนอย่างเรา เมื่อ 7-8 วันที่แล้ว ตนขึ้นมาเก็บมะพร้าว เก็บขนุนยังขึ้นมาได้ตามปกติ เพิ่งมาเห็นวันนี้ว่ามีการขุดถนนปิดทาง

ยันไม่ขายให้"เทือกสุบรรณ"

"ผมครอบครองที่ดินมาตั้งแต่รุ่นพ่อ เคยมีคนมาติดต่อซื้อที่ดิน 5-6 ครั้งแต่ไม่ขาย ผมรู้ดีว่าคนเหล่านั้นเป็นนายหน้ามาซื้อเพื่อไปขายให้นายสุเทพ ครั้งหนึ่งมีเลขาฯของนายสุเทพ เคยมาติดต่อขอซื้อที่แต่ผมไม่ขาย จะเก็บเอาไว้ให้ลูกสาวซึ่งทำงานเป็นพยาบาลอยู่ที่กรุงเทพฯ เราไม่ได้เดือดร้อน อดอยาก ในบริเวณนี้เหลือที่ดินผมแปลงเดียวที่ไม่ใช่ของคนเทือกสุบรรณ ก่อนหน้านี้ผมเคยยื่นขอออกโฉนดแต่ไม่ได้ จากนั้นมาไม่คิดจะขอเพราะรู้ว่าคงไม่ได้ อย่าให้พูดเหตุผลเลยดีกว่า" นายประธูป กล่าวและว่า นอกจากที่ดินของนายสุเทพแล้ว อีกแปลงที่อยู่ติดกันเป็นของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ซึ่งนายสุเทพส่งคนมาดูแลที่ดินให้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างคณะทำงานของพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์อยู่บริเวณหน้าทางเข้าที่ถูกตัดขาด ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คนนั่งรถกระบะและเดินเข้ามาสมทบกับเจ้าหน้าที่รปภ.พร้อมนำป้ายข้อความ "ที่ดินส่วนบุคคล ห้ามเข้า" มาปักและยืนปักหลักห้ามบุคคลภายนอกก้าวล้ำเข้าไปในเขตแดน ขณะที่นายประธูปและนางอรัญญา ยังพยายามจะนำคณะเดินเข้าไปที่สวนมะพร้าว แต่คณะทำงานและสื่อมวลชนห้ามเพราะเกรงจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้น

ด้านนายจำลอง โพธิ์เพชร เจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน สาขาเกาะสมุย ได้แนะนำให้ทั้งคู่ไปแจ้งความกับตำรวจและนายอำเภอ ส่วนพื้นที่ๆถูกตัดต้องพิสูจน์สิทธิ์กันต่อไปว่าเป็นพื้นที่สาธารณะหรือไม่ ถ้าเป็นพื้นที่สาธารณะจริง จะอยู่ในความดูแลของนายอำเภอ ทั้งสองจึงยอมลงมา

พท.แถลงพบพิรุธที่ดินลูกเทือก

ต่อมาเวลา 15.30 น. คณะทำงานตรวจสอบ ได้ร่วมแถลงผลการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินเขาแพง โดยนายยุทธพงศ์ กล่าวสรุปใน 5 ประเด็น คือ 1.คณะทำงานได้มาพิสูจน์ว่าส.ค.1 ที่นำไปออกโฉนดเป็นสค.บินหรือไม่ โดยเชิญนายประธูป ภู่ไพบูลย์ มายืนยัน ซึ่งจากหลักฐานเอกสารราชการพบว่า ทิศใต้ที่ติดกับที่ดินของนายประธูป ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดินที่ถูกต้องแท้จริงและไม่เคยขาย ปรากฏว่าจากแผนผังที่ข้างเคียงเป็นส.ค.บินชัดเจน เนื่องจากที่ดังกล่าวใช้ส.ค.2 ใบ นำมาออกเป็นโฉนด โดยส.ค.เลขที่ 95 ตามหลักฐานของลูกนายสุเทพ ระบุว่า ติดกับที่ดินนายประธูป แต่ในพื้นที่จริงไม่ได้ติดกับที่นายประธูป ขณะที่อีกด้านหนึ่งไม่ติดกับที่ดินของนายเชือบ สีแผ้ว ตามที่แจ้งในการออกโฉนด

ถิ่นเทือก - นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปตรวจที่ดินเขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แต่ถูกชาวบ้านฮือไล่ผลักอกและใช‰รถแบ๊กโฮขุดคูขวางไม่ให้เดินทางเข้าไป



2.ทางสาธารณะที่ไปถึงที่ดินของนายประธูป เดิมนายประธูป บอกว่าทางขึ้นข้างบนสามารถเดินทางไปถึงที่ดินของเขาได้ ซึ่งกลับมีการไปปิดทาง เพียงไม่กี่วันที่ผ่านมาจนขึ้นไม่ได้ ทั้งที่เป็นเส้นทางขนมะพร้าวลงมาขายตั้งแต่สมัยพ่อ 3.ความลาดชันในพื้นที่จริงเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคำนวณแล้ววัดออกมาได้ 50 องศา และ 4.วันนี้เพิ่งทราบจากนายประธูป ซึ่งรู้สึกตกใจที่นายประธูป บอกว่าที่ดินอีกแปลงที่ติดกับของเขาเป็นที่ดินของนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ จึงสงสัยว่านายนิพนธ์ เป็นส.ส.นครราชสีมา จึงมามีที่ดินปลูกสวนมะพร้าวตั้งแต่เมื่อไหร่

จี้"มาร์ค"ตรวจสอบ

5.กรณีหจก.เรืองปัญญาคอนสตรักชั่น ซึ่งมีเจ้าของร่วมกัน 2 คน คือ นายคงชัย ฟ้าทวีพร หรือ "โกกี้" ซึ่งเป็นเจ้าของสมุยมินิมาร์ท และนายสามารถ เรืองศรี เป็นเจ้าของโรงแรมสมุยแกรนด์ซีวิว ร่วมกันจัดตั้งบริษัทเพื่อรับงานก่อสร้าง แต่กลับไปหาที่ดินสวนมะพร้าว น.ส.3 ก. มาออกโฉนดและนำมาขาย ซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาด

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปถึงนายกฯ ให้บังคับใช้กฎหมายกับทุกคน ทุกฝ่ายอย่างยุติธรรม ที่สำคัญต้องเข้ามาตรวจสอบด้วย ในเมื่อคณะทำงานของพรรคเพื่อไทยและสื่อมวลชนไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้

ฉะปชป.ใช้วิชามาร

ด้านนายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า การลงมาตรวจสอบครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับเจ้าของที่ดินและเจ้าหน้าที่รัฐที่ออกโฉนด ก่อนเดินทางมา ได้ไปพบนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย เพื่ออำนวยความสะดวกก่อนลงพื้นที่ พรรคได้ส่งทีมมาล่วงหน้าแต่มีการจัดม็อบเข้ามาต่อต้านอย่างเป็นกระบวนการ ดักทั้งทางขึ้นทางบางปอ ซ.4 ซึ่งเป็นทางไปถึงที่ดินข้างเคียงโดยตรง คณะจึงขึ้นอีกทางคือ ถ.อ่างทอง ซ.10 แต่ข่าวเชิงลึกของเราก็ทราบว่าเมื่อขึ้นไปแล้วจะเอาผิดข้อหาบุกรุก เราจึงต้องไปแจ้งลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ม็อบที่มาต่อต้าน มีแกนนำมาจากจ.นครศรีธรรมราช และใน จ.สุราษฎร์ธานีบางส่วน โดยมีการปลุกปั่นผ่านวิทยุชุมชนว่าฝ่ายค้านจะมาตรวจสอบที่ดินนายสุเทพและของชาวบ้านทั้งหมดเพื่อเอาที่ดินคืน แล้วโจมตีเราว่าเป็นนอมินีทักษิณ ยืนยันว่าเราทำงานเป็นพรรคการเมืองเป็นสถาบัน การเดินทางมาครั้งนี้ต้องพบกับวิชามาร เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ดูแล ส่วนนายอำเภอก็ไม่อยู่ในพื้นที่ แสดงให้เห็นว่าการที่นายถาวร รับปากแต่กลับทำตรงกันข้าม แสดงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังตั้งใจปกปิดข้อเท็จจริง ทั้งที่เรามาขอพื้นที่คืนตามนโยบายนายกฯ

"ตู่"อัด"เทือก"ขวางสอบที่ดิน

ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. แถลงว่า ตนขอประณามกลุ่มผู้สนับสนุนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่กระทำการขัดขวางการลงพื้นที่ของนายพร้อมพงศ์ และคณะลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินเขาแพง ต.แม่น้ำ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ เมื่อลงไปยังพื้นที่ปรากฏว่ามีการปลุกระดมผ่านวิทยุชุมชนให้ประชาชนไปขัดขวาง โดยขนคนข้ามด้วยเรือเฟอร์รี่ ชี้ให้เห็นว่าการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องช่วยกันดูแล ไม่ใช่มาขัดขวางการตรวจสอบ ฉะนั้นกรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะต้องดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อเอาทรัพยากรของประเทศกลับคืนมา

พท.โอ่ปูพรมแดงรับส.ส.ย้ายขั้ว

เวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า คนใกล้ชิดแกนนำภาคเหนือพรรคประชาธิปัตย์เล่าให้ฟังว่า 2 วันที่ผ่านมามีการจับเข่าคุยกับส.ส.และผู้สนับสนุนกลุ่มถึงท่าทีจะอยู่หรือไปจากพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแกนนำบางคนโกรธชนิดควันออกหู เมื่อพูดถึงเรื่องการปรับ ครม.แบบฟ้าผ่าไม่เห็นหัว ขณะที่แกนนำภาคตะวันออกก็รู้สึกไม่แพ้กัน มีการนัดคุยปรับทุกข์กันในเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีถึงท่าทีที่โดนแบบเดียวกับกลุ่มภาคเหนือ

นายจิรายุ กล่าวว่า พรรคพร้อมปูพรมแดงต้อนรับส.ส.และสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลที่ผิดหวังหรือมีแนวคิดแตกต่างจากรัฐบาลเข้าร่วมงานทางการเมือง ยอมรับว่ากลุ่มส.ส.ภาคเหนือของนายไพฑูรย์ แก้วทอง น่าจะมีความเป็นไปได้มากที่สุด

มีเซอร์ไพรส์โหวตงบ

นายจิรายุ กล่าวถึงการโหวตพิจารณางบประมาณปี 2554 วาระ 2 - 3 ว่า เชื่อว่าคงมีเซอร์ไพรส์ รัฐบาลโดยพรรคประชาธิปัตย์อาจได้ชมภาพยนตร์เรื่องเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด ภาค 2 ชนิดอายจนหาแผ่นดินแทรกหนีไม่ได้ จึงขอให้จับตาดูการโหวตงบประมาณครั้งนี้ อย่างกรณีพรรคเพื่อแผ่นดินที่มีมติจะยกมือโหวตให้ แต่ยืนยันว่าไม่มีความแน่นอน เพราะที่ผ่านมามีการโหวตสวนให้เห็นมาแล้ว ถือเป็นการตบหน้าฉาดใหญ่ ซึ่งการโหวตงบประมาณถือเป็นเรื่องสำคัญกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายจิรายุ กล่าวว่า ส่วนคดีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ที่ส่งกลิ่นทะแม่งนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกันแล้วว่า วันนี้หากกระบวนการพิจารณา ออกมาว่าไม่ยุบ พรรคคงไม่ตื่นเต้นนัก แต่จะได้เห็นคำว่าความยุติธรรมไม่มีจริง ทั้งนี้ฝ่ายติดตามคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ของพรรคเพื่อไทยได้ตั้งวอร์รูมติดตามกระบวนการพิจารณาอย่างใกล้ชิด โดยระดมนักกฎหมายชั้นครูมาร่วมติดตามคดี

"องอาจ"งงข่าวส.ส.ย้ายพรรค

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุมีส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ อาจไปอยู่พรรคเพื่อไทยว่า ตนไม่เคยได้ยินใครจะออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ 2 วันก่อน ตนได้นั่งคุยกับส.ส.หลายคน ไม่เห็นมีใครพูดถึงขั้นจะออกจากพรรค ไปอยู่พรรคเพื่อไทยหรือพรรคอื่น และไม่เชื่อว่าจะมีใครออกไป ทุกคนยังอยู่กับพรรคเพื่อร่วมกันทำงานต่อไป

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่รองโฆษกพรรคเพื่อไทยให้ข่าวอย่างนี้ นายองอาจ กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร ต้องถามรองโฆษกพรรคเพื่อไทยเอง

เด็กปชป.โต้-ไม่คิดฆ่าตัวตาย

นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ปูพรมแดงรอรับ แต่ส.ส.ที่ดีไม่ควรเดินบนพรม ควรเดินบนดินเพื่อสัมผัสปัญหาของประชาชน คำพูดของนายจิรายุ ไม่มีข้อเท็จจริง อาจพูดเล่นในหมู่ส.ส.ด้วยกัน แต่ไม่ถึงขนาดปรับทุกข์ และส.ส.ภาคตะวันออกทุกคนก็ไม่มีปัญหา อาจมีการกังวลบ้างเรื่องที่ไม่มีรัฐมนตรีภาคตะวันออกเลย แต่ทุกคนมีวุฒิภาวะพอ ไม่น้อยใจอะไรนาน และเคารพมติพรรค พร้อมสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาประเทศต่อไป

"รับรองได้ว่า ส.ส.ภาคตะวันออกและภาคเหนือ ไม่ย้ายไปพรรคเพื่อไทยแน่นอน เราไม่เลือกฆ่าตัวตายทั้งทางการเมืองและทางสังคม ที่จะถูกสังคม ญาติพี่น้องประณามว่าพาคนไปตาย หากผมจะย้ายพรรคก็มีเพียงพรรคเดียวที่ไปคือพักผ่อน ดังนั้นคำพูดของนายจิรายุ จึงไม่เป็นความจริง" นายสรวุฒิ กล่าว

นายสรวุฒิ กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตนได้พบผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย เช่น ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และอีกหลายคนระหว่างร่วมงานศพในพื้นที่ ซึ่งมีการพูดเล่นทักทายกันตามปกติ เพราะบุคคลทั้งสองรู้จักกับบิดาของตน และระหว่างการประชุมสภา นายสมพงษ์ พูดเล่นอยู่เสมอว่าจะไปขออนุญาตบิดาของตนขอให้ตนมาอยู่พรรคเพื่อไทยด้วย ซึ่งพูดแบบไม่จริงจัง และตนไม่ได้คิดอะไรด้วย

"ไพฑูรย์"ถอดใจแม่ทัพภาคเหนือ

นายไพฑูรย์ แก้วทอง ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีนายจิรายุ เตรียมปูพรมแดงรอรับเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า ยังไม่ได้คุยกับใคร ยังไม่มีใครติดต่อมา เพราะตอนนี้ปิดสมัยประชุม ขณะนี้ตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ทำหน้าที่ไปก่อน แต่หากมีการเลือกตั้งใหม่แล้วค่อยมาว่ากันว่าคนไหนสนใจเราคงมาคิดกัน

นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ขณะนี้คงไม่ได้เป็นขุนพลภาคเหนือของพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปแล้ว ตอนนี้ตนขอทำหน้าที่ส.ส.ตามปกติ และจนบัดนี้ทั้งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ยังไม่ได้ติดต่อพูดคุยอะไรกับตนเลย ส่วนที่ชาวพิจิตรจะมาให้กำลังใจตนวันที่ 13 มิ.ย.นั้น เดิมจะมาแสดงความยินดีที่ได้เป็นรัฐมนตรีต่อ แต่เมื่อไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้วเขาจึงเปลี่ยนมาเป็นให้กำลังใจแทน

"มาร์ค"ไม่ห่วงเสียงโหวตงบ

เวลา 17.30 น. ที่วัดนวลจันทร์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าพบนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ไปคุยเรื่องมาบตาพุด เพราะงานใกล้เสร็จแล้ว ส่วนเรื่องบ้านเมืองก็แลกเปลี่ยนกันตามปกติ งานปฏิรูปเป็นงานที่ภาคประชาชนจะเป็นคนเสนอในเรื่องกลไกต่างๆ ตอนนี้ส่วนราชการที่ดูแลอยู่มีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ และฝ่ายเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภพ (สสส.) โดยภาคประชาสังคมจะประชุมกันวันที่ 17 มิ.ย.นี้ และเสนอมาว่าอยากให้เคลื่อนโดยอาศัยรูปแบบไหนอย่างไร และอยากให้ตนเชิญใครบ้าง

เมื่อถามถึงกรณีเสียงสนับสนุนรัฐบาลเกินมาเพียง 1 เสียงจะมีปัญหาต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่คิดว่ามีปัญหา ที่จริงเราเสียดายนายทิวา เงินยวง ส.ส.กรุงเทพฯ ที่เสียชีวิตไปเพราะเป็นคนทุ่มเทกับงานมาก โดยเฉพาะงานในสภา เพราะนายทิวามีความรู้เรื่องกฎหมาย รวมทั้งงานในพื้นที่ด้วย

"กรณ์"ไม่หนักใจเชื่อทุกฝ่ายหนุน

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีบางส่วน แต่เชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ เพราะผ่านรับหลักการในวาระที่ 1 แล้วและไม่หนักใจเพราะการจัดสรรงบประมาณถือว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน และมีความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน ไม่ได้จำกัดว่าเป็นส.ส.ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล จึงไม่น่าจะเป็นเหตุผลหรือคัดค้านไม่ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณ

นายกรณ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องเสียงสนับสนุนในการพิจารณาวาระ 2 และ 3 นั้นเป็นหน้าที่ของวิปรัฐบาลจะไปพูดคุย เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า ส.ส.รัฐบาลจะไม่ยกมือให้ นายกรณ์ กล่าวว่า อาจมีบางคนที่ยังมีอารมณ์อยู่ แต่เป็นเรื่องส่วนตัว เชื่อว่าไม่มีผลต่อการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ

"จุติ"ขู่ยุบสภาแน่หากคว่ำงบ

นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ให้สัมภาษณ์ถึงข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาเศรษฐกิจกัมพูชา ทุ่มเงินซื้อตัวส.ส. เพื่อให้โหวตล้มร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2554 ในวาระ 2 - 3 ว่า ไม่มีใครรู้ พอถึงเวลานั้นก็จะรู้เอง หากงบประมาณ วาระ 2 และ 3 ไม่ผ่าน ตนเชื่อว่านายกฯจะตัดสินใจยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้ หากตนเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ ตนก็ทำอย่างนี้ เพราะจะถูกกว่าการจ้างคนมาชุมนุมเคลื่อนไหว อีกทั้งไม่มีใครตายด้วยแต่บังเอิญตนไม่ใช่พ.ต.ท.ทักษิณ และตนไม่ได้คิดชั่ว คิดแต่สิ่งดีให้บ้านเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะทำสำเร็จหรือไม่ นายจุติกล่าวว่า เอาง่ายๆ จรวดที่ยิงใส่วัดพระแก้วยังยิงไม่สำเร็จไปติดสายไฟฟ้า ตนเชื่อว่าบ้านเมืองมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง

ยอมรับรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ

เมื่อถามว่าพรรคเพื่อแผ่นดินยืนยันจะยกมือให้งบผ่าน มั่นใจมากน้อยแค่ไหน นายจุติ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมีเสียงน้อยกว่าเดิมเล็กน้อย หากพรรคเพื่อแผ่นดินยกมือให้ก็ยิ่งมากขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อแผ่นดินคงลำบากเพราะเคยออกจากพรรคเพื่อไทยมาแล้วจะให้กลับไปอีกก็ไม่ง่าย

นายจุติ กล่าวถึงปัญหาการถือหุ้นการสื่อสารที่ยังค้างอยู่ระหว่างการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่เครียดเลยเพราะไม่ได้ยึดติดกับเก้าอี้ ตนคิดว่าตัวเองคล้ายนายกฯที่ไม่ได้กังวลอะไร ไปวันไหนก็ได้ กลับไปวันไหนก็ยังเป็นคนเดิม ไม่ได้คิดว่าจะต้องเป็นส.ส.หรือต้องเป็นรัฐมนตรี แต่ปัญหาเรื่องหุ้นสัมปทานคือเรื่องที่พรรคพลังประชาชนได้ทำเรื่องร้องเรียน พอร้องแล้วทนายของตนแนะนำว่าตนและภรรยาขายให้หมด

ปธ.วิปฟุ้งโหวตงบไม่สะดุด

นายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงข้อกังวลเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำจนอาจทำให้ไม่เพียงพอจะยกมือสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2554 ให้ผ่านวาระ 2 และ 3 ได้ว่า ยืนยันว่าเสียงรัฐบาลพอ ขณะนี้เท่าที่นับไว้อย่างอ่อนๆ เสียงส.ส.รัฐบาลจะอยู่ที่ 268 เสียง หักรัฐมนตรีและประธานในที่ประชุมออก 24 เสียง จะเหลือ 244 เสียง ถือว่าเกินครึ่งอยู่หลายเสียง ที่สำคัญ การโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณ กำหนดให้นับเสียงข้างมากเป็นหลัก ดังนั้นเสียงที่โหวต ไม่จำเป็นต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 238 เสียง จึงมั่นใจว่าไม่มีปัญหา

นายวิทยา กล่าวว่า ความจริงการโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณ คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความมาแล้วว่ารัฐมนตรีโหวตได้ เพราะเรื่องของกระทรวงที่รับผิดชอบ ไม่ได้เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับผลประโยชน์ส่วนตน แต่วิปรัฐบาลชุดเดิมเสนอว่ารัฐมนตรีไม่ควรโหวต จึงทำให้ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนลงคะแนนโหวต ทั้งที่ความจริงโหวตได้ไม่ขัดกับกฎหมาย

ชง"มาร์ค"ลงดาบรมต.โดดร่ม

"ผมไม่ห่วงเรื่องเสียงโหวตสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบประมาณ รับรองไม่มีการโหวตแพ้อย่างแน่นอน แต่เป็นห่วงเรื่ององค์ประชุมสภาที่มักจะเกิดปัญหาองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องการให้ความร่วมมือกับสภา เป็นหนึ่งในกฎเหล็ก 9 ข้อของนายกฯ จึงอยากเสนอนายกฯว่า รัฐมนตรีที่ขาดประชุมสภาเป็นอาจิณ ถือว่าไม่เอาใจใส่สภา ขัดกฎเหล็ก 9 ข้อ นายกฯควรปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย" ประธานวิปรัฐบาล กล่าว

เมื่อถามว่ามีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจใช้วิธีซื้อส.ส.เพื่อให้โหวตคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณกลางสภา ทำให้รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก นายวิทยา กล่าวว่า ส.ส.ไม่ใช่ผัก ไม่ใช่ปลา และคนไม่มีอนาคตจะมาซื้อคนที่มีอนาคตได้อย่างไร ความจริงที่ต้องระวังคือรัฐบาลจะไปซื้อฝ่ายค้านมากกว่า

เย้ย"เหลิม"เสียค่าโง่ยุบปชป.

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรม ในฐานะคณะทำงานด้านกฎหมายต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุพรรคประชาธิปัตย์รอดคดียุบพรรค 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม เคยฟันธงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะมั่นใจในข้อมูล แต่วันนี้มาเปลี่ยนคำพูด ตนสงสัยว่าร.ต.อ.เฉลิม คงกลับไปดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายในคดียุบพรรคอย่างละเอียด ซึ่งพบว่าไม่มีความผิดตั้งแต่ต้น ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ต่างอะไรกับคนที่ถูกหลอก เสียค่าโง่ไปแล้วหลายล้านบาท แต่ข้อมูลที่ ร.ต.อ.เฉลิมได้มา ไม่สามารถทำอะไรพรรคประชาธิปัตย์ได้ ตนจึงอยากแนะนำให้ร.ต.อ.เฉลิม หยุดพูดเรื่องพรรคประชาธิปัตย์จะดีกว่า เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการซ้ำเติมตัวร.ต.อ.เฉลิม ให้คนอื่นรู้ว่าเสียค่าโง่ แต่ไม่ได้อะไรกลับคืนมา

นายนิพิฏฐ์ กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินสนับสนุนพรรค 29 ล้านบาท ในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ว่า ยังไม่มีสัญญาณใดๆ จากศาลรัฐธรรมนูญ หากศาลเห็นว่าพรรคผิดต้องถูกยุบ ศาลจะต้องนัดไต่สวนพยานทั้ง 2 ฝ่ายก่อนแต่ขณะนี้ยังไม่มีการนัดใดๆ ถ้าศาลเห็นว่าพรรคไม่มีความผิดและจะไม่ยุบพรรคก็สามารถตัดสินได้ทันที อาจเป็นวันที่ 28 มิ.ย.นี้ก็ได้ โดยไม่ต้องสอบพยานเพิ่มเติม สามารถตัดสินได้โดยข้อกฎหมาย ไม่ต้องฟังข้อเท็จจริง เรียกว่าศาลยกโดยข้อกฎหมาย ในหลายคดีมีมาแล้ว ทั้งนี้ พรรคทำงานเต็มที่ ไม่ว่าศาลจะสอบพยานเพิ่มเติมหรือตัดสินในข้อกฎหมายทันที พรรคจะเคารพในคำวินิจฉัยของศาล

ทีมกม.ไม่หวั่นกดดันศาล

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา หนึ่งในคณะทำงานกฎหมายสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงร.ต.อ.เฉลิม ระบุพรรคประชาธิปัตย์จะได้เปรียบในการสู้คดียุบพรรค หากได้ข้อมูลจากโน้ตบุ๊กของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่ถูกทุบรถและฉกโน้ตบุ๊กไปว่า ถือเป็นกระบวนการสร้างเรื่องเพื่อทำลายชื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ และกดดันศาลรัฐธรรมนูญ อาจมองได้ว่าเป็นการสมคบกันระหว่างร.ต.อ.เฉลิมกับดีเอสไอหรือไม่ เพราะสิ่งที่ร.ต.อ.เฉลิม เอาออกมาพูดและอภิปรายเรื่องคดียุบพรรคในสภา ล้วนตรงกับข้อมูลของดีเอสไอ

"ความเคลื่อนไหวเพื่อกดดันศาลรัฐธรรม นูญในคดียุบพรรค เปรียบได้กับแก้ว 3 ประการ ใช้มวลชนกดดันกกต.จนมีคำสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ การใช้พรรค ซึ่งเป็นสิ่งที่ร.ต.อ.เฉลิม กำลังทำอยู่ในขณะนี้ และการใช้กองกำลังในการชุมนุมที่ผ่านมา ถือว่าเป็นกระบวนการที่กดดันต่อเนื่อง แต่พรรคเชื่อในความเป็นผู้ทรงคุณธรรม ความดี เป็นหลักให้บ้านเมืองของศาลรัฐธรรมนูญ" นายวิรัตน์ กล่าวและว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกฎหมายฯ ได้กำชับให้ทีมกฎหมายสู้ตามข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนข้อมูล ไม่ใช้วิธีพิเศษเช่น ถุงขนม 2 ล้านบาท

"สดศรี"ฉะ"เหลิม"ชี้นำศาล

นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า อำนาจในการตั้งคณะทำงานร่วมสอบเพิ่ม 8 ประเด็นในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ กรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาท ในสัดส่วนของกกต. 7 คนนั้น เป็นอำนาจของประธานกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ยืนยันไม่ใช่การยื้อเวลาเพราะเป็นไปตามข้อกำหนดในพ.ร.บ. พรรคการเมือง มาตรา 95 ไม่ได้มีอะไรผิดแปลก เมื่ออัยการเห็นว่าควรตรวจสอบเพิ่มก็สามารถตั้งคณะทำงานขึ้นมาได้ แต่การที่พูดว่าสำนวนอ่อน ตนเห็นว่าตามมารยาทไม่ควรวิจารณ์เช่นนี้ เพราะกฎหมายระบุชัดว่าให้เป็นอำนาจของอัยการในการทบทวนสำนวนอีกครั้ง

นางสดศรี กล่าวถึงร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุพรรคประชาธิปัตย์รอดคดียุบพรรค 100 เปอร์เซ็นต์ว่า เมื่อคดี 29 ล้านบาทถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ไม่ควรออกมาวิจารณ์ ซึ่งการวิจารณ์ของร.ต.อ. เฉลิมไม่เหมาะสม เหมือนชี้นำศาล ซึ่งตนอยากให้ร.ต.อ.เฉลิมบอกเหตุผลให้ชัดเจนว่าที่มั่นใจว่าศาลจะยกคำร้องนั้น เพราะอะไร ไม่ใช่พูดในลักษณะที่ไม่เคลียร์เช่นนี้

โฆษกมาร์คเมินแผนทักษิณ

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ระบุแผนปรองดองของรัฐบาลต้องใช้เวลานานถึง 6 เดือนแต่แผนพีซทอล์กของตัวเอง ใช้เวลาแค่ 2 สัปดาห์ และต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามามีส่วนร่วมเจรจาด้วยว่า อยากถามว่าการเปิดเจรจากับนักโทษหลบหนีคดีมีความเหมาะสมหรือไม่ และเชื่อว่าเมื่อคู่เจรจาเป็นนักโทษการเจรจาต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของนักโทษแต่เพียงฝ่ายเดียว 1.พ.ต.ท.ทักษิณต้องไม่ติดคุกและคดีความที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมต้องยกเลิกไป 2.จะต้องคืนเงินที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาพิพากษายึดไว้ และ 3.ต้องมีการนิรโทษกรรมทางการเมือง เพื่อเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองได้อีก เชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนไหนจะยอมรับหรือเห็นด้วย และรัฐบาลก็รู้ทันเล่ห์เหลี่ยมทางการเมืองของพ.ต.ท.ทักษิณในเกมนี้

ภท.วอนฝ่ายค้านร่วมปรองดอง

ที่ศูนย์แสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับแผนปรองดองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ว่า เมื่อมีการประกาศแผนปรองดอง ชัดเจนว่านายกฯ ตั้งใจจะทำให้ประเทศมีความรัก ความสามัคคี ส่วนคนกลุ่มใดหรือพรรคใดมีความเห็นแตกต่างก็เป็นสิทธิ แต่อยากเรียกร้องว่าให้หันหน้ามาคิดร่วมกันว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติมีความปรองดอง ส่วนประเด็นปลีกย่อยถ้าจะเห็นต่างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ขอให้เสนอแนะและมาทำงานร่วมกัน เพื่อให้การปรองดองของคนในชาติประสบความสำเร็จ

เมื่อถามถึงพรรคภูมิใจไทยมีส.ส.ย้ายสังกัดเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มนายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ แกนนำพรรคเพื่อแผ่นดิน นายบุญจงกล่าวว่า วันนี้พรรคเพื่อแผ่นดินส่วนหนึ่งสนใจมาทำงานกับพรรค ซึ่งเราไม่ได้ปิดกั้น เราพร้อมทำงานร่วมกัน ส่วนจะมีจำนวนเสียงเพิ่มขึ้นหรือไม่ต้องรอดูอีกครั้ง ยืนยันว่าเสียงของรัฐบาลจะไม่ปริ่มน้ำ เพราะต่างคนต่างรู้หน้าที่ ใครอยู่ซีกฝ่ายค้านมีหน้าที่ตรวจสอบ ใครอยู่รัฐบาลก็มีหน้าที่ทำงานให้ดีที่สุด

ปัดรัฐบาลสร้างภาพ

นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอน แก่น และประธานส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การเดินหน้าแผนปรองดองรัฐบาลต้องพยายามทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากขึ้นในหลายทาง การตั้งคณะทำงานต่างๆ ขึ้นมาถือเป็นการเริ่มทำงานแล้ว ส่วนจะสัม ฤทธิผลหรือไม่สัมฤทธิผลก็ได้ แต่ถือเป็นการเริ่มต้น มีความจริงใจจะสร้างความปรองดองแล้ว ไม่ใช่เป็นการสร้างภาพเพื่อให้รัฐบาลอยู่ต่อจนครบวาระ

นายประจักษ์กล่าวว่า การทำแผนปรองดองในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลได้มอบให้นายกฯ หัวหน้ารัฐบาลเป็นผู้นำในการดำเนินการ พรรคประกาศแล้วว่าเราสนับสนุนแผนปรองดอง โดยนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคและ รมว.มหาดไทย ได้พูดคุยกันในรัฐบาลว่ากระทรวงมหาดไทยจะช่วยทำงานด้านมวลชนมากขึ้น ส่วนที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย จะนำเรื่องส.ป.ก.4-01 มาเล่นงานรัฐบาลอีกนั้น ถือเป็นเรื่องเดิมๆ กระบวนการมีการดำเนินการไปแล้ว ร.ต.อ.เฉลิมอาจแสดงบทบาทให้เห็นว่าเป็นผู้นำฝ่ายค้านเท่านั้น

"นพดล"ย้ำแค่หวังยื้อเวลา

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ มั่นใจสังคม 80% สนับสนุนแผนปรองดองของนายกฯ ว่า แม้สังคมจะมีคนสนับสนุนนายกฯ แต่มั่นใจว่ามีคนมากกว่า 20% ซึ่งเป็นพลเมืองชั้นสองที่ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่เห็นด้วยกับแผนปรองดองที่นายกฯ เสนอ เพราะเห็นว่าเป็นการยื้อเวลาให้รัฐบาลอยู่ต่อนานขึ้น แก้ปัญหาความขัดแย้งไม่ได้ ถ้าคนในสังคม 30-40% ไม่เห็นด้วยก็ยากที่จะสำเร็จ

นายนพดลกล่าวว่า ยืนยันว่าการเจรจาสันติภาพหรือพีซทอล์ก ตามที่เคยเสนอสามารถปลดล็อกความขัดแย้งได้ โดยนำคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายมาเจรจาตกลงกัน ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณอาจส่งตัวแทนมาร่วมเจรจา เมื่อได้ข้อสรุปอย่างไรให้ลงนามสัตยาบันประกาศให้ทั่วโลกรับรู้ ทำให้แก้ปัญหาได้ทันที ส่วนการสร้างความปรองดองของนายกฯ เป็นแผนที่ยังคลุมเครือ ไม่มีหลักประกันว่า เมื่อถึงเวลาประกาศแผนความปรองดองต้นปี 2554 จะสำเร็จหรือไม่ เหมือนเป็นลายแทงที่นายกฯ ร่างเอง คิดเอง เสนอเอง ไม่ได้มาจากทุกฝ่ายในสังคม จึงยากที่จะสำเร็จ

จี้"มาร์ค"ต้องรู้จักให้อภัย

นายนพดลกล่าวว่า ยืนยันว่าตนและกลุ่มนปช. ตลอดจนพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ขัดขวางแผนปรองดอง แค่ชี้ให้เห็นว่าแผนดังกล่าวไม่สามารถบรรลุผลได้ ทั้งนี้ หากนายกฯ ไม่ใช้วิธีเจรจาสันติภาพก็อาจใช้แผนสร้างความปรองดองทำคู่ขนานกับการเจรจาสันติภาพก็ได้ การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต้องมีเมตตาธรรม อโหสิกรรม แต่ทุกวันนี้ยังมีการไล่ล่าแกนนำเสื้อแดง ไม่ให้อภัยกัน แล้วความปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

"ขณะนี้การสร้างความปรองดองเป็นเพียงการพูดแต่ปาก แต่ยังเอาเท้าเหยียบหน้าอีกฝ่ายหนึ่งไว้ ดังนั้น นายกฯ ต้องลดช่องว่างระหว่างสิ่งที่พูดกับการกระทำให้น้อยลง ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าการสร้างความปรองดองต้องมาจากการพูดคุย แต่วิธีที่รัฐบาลใช้อยู่ขณะนี้เป็นการสร้างภาพความปรองดอง แต่การกระทำปองร้ายยังอยู่" นายนพดลกล่าว

กมม.ติงรัฐบาลสร้างภาพ

นายสำราญ รอดเพชร รักษาการโฆษกพรรคการเมืองใหม่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ทาบทามนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ เป็นประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศไทย ตามแผนปรองดองแห่งชาติว่า เท่าที่ทราบชุดของนายอานันท์จะเป็นกรรมการชุดเล็กอยู่ในชุดใหญ่ที่จะมีน.พ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เป็นประธาน ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่เห็นว่าจะมีกรอบการทำงานหรือภารกิจที่ชัดเจน เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวแม้รัฐบาลจะมีเจตนาดี แต่คงเป็นการซื้อเวลาให้กับรัฐบาลเอง ซึ่งรัฐบาลจะได้ภาพที่ทำให้ตัวเองดูดี

นายสำราญกล่าวว่า วันที่ 13 มิ.ย. เวลา 13.00 น. พรรคจะเปิดตัวผู้สมัครส.ก.และ ส.ข.เพื่อแสดงความพร้อมลงสนามเลือกตั้ง ต่อไป