พักร้อนจากปัญหาราคาหมูที่ไม่หมู
สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ใช้เวลาส่วนตัว หอบหิ้วเอาทีมงาน “ยกโขยงหกโมงเช้า” แวบไปเล่นบทพระยาน้อยชมตลาด ปรุงแกงเขียวหวานทะเลโชว์ชาวบ้าน พ่อค้า แม่ขาย ที่ตลาดสดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หลบการเมืองไปอัดเทปรายการสไตล์ “ชิมไปบ่นไป” สบายอารมณ์
แอบไปเงียบๆไม่บอกใคร ถึงขนาดที่ตำรวจท้องที่ยังรู้ล่วงหน้าแค่ 1 ชั่วโมง ต้องรีบตาลีตาเหลือกระดมพลมาอารักขา
นายกฯสมัครไม่อยู่กรุงเทพฯ อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เก็บตัวเงียบอยู่ในเซฟเฮาส์ ไฮไลต์ก็เลยไปอยู่ที่เวทีเสวนาหัวข้อ “คิดเพื่ออนาคต ถอดโจทย์ประเทศไทย” ที่จัดโดยสถานีวิทยุ อสมท เอฟเอ็ม 96.5
นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม พูดออกอากาศดังๆว่า
ท่ามกลางความแตกแยกที่เกิดขึ้นในหลายวงการขณะนี้ รัฐบาลต้องมุ่งมั่นแสดงการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน เพราะประชาชนต้องการเห็นรัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจมากที่สุด
อย่าเพิ่งมุ่งคิดบัญชีล้างแค้น ลด ละ เลิก พฤติกรรมผลประโยชน์ทับซ้อน
รัฐบาลไม่ว่ารัฐบาลไหน รวมถึงระบบราชการ ซึ่งเป็นผู้คุมอำนาจ เมื่อมีอำนาจอยู่ในมือ อย่าเหลิงอำนาจ หลงยึดติด จนลืมความชอบธรรม
หากรัฐบาลทำได้ จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นไปได้ด้วยดี ลดปัญหาความแตกแยก สร้างความสามัคคีในชาติ และท้ายที่สุดประชาชนจะค่อยๆให้การยอมรับ
“ในการบริหาร เมื่อมีอำนาจแล้ว จะอ้างว่าเป็นอำนาจที่ทำถูกต้องตามกฎหมายแล้วไม่ได้ ต้องสนใจผลกระทบที่เกี่ยวข้องในเรื่องอื่นๆด้วย จึงอยากขอให้ผู้ใช้อำนาจในทุกระดับ ขอให้มีศิลปะในการใช้อำนาจว่าจะใช้อย่างไร ให้สมเหตุสมผล และเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ผู้นำจะต้องไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างเด็ดขาด เพื่อที่จะไม่ก่อให้เกิดเป็นเงื่อนไขในการต่อต้านรัฐบาล รวมถึงไม่แทรกแซงกระบวนการตรวจสอบอื่นๆด้วย เช่น วุฒิสภา องค์กรอิสระ”
เทศนากัณฑ์ใหญ่เลย
โดยสถานการณ์โยกย้ายข้าราชการร้อนๆ ประเด็นแหลมๆคมๆ และสถานะคนพูดที่พะยี่ห้อสัญลักษณ์ของขั้วอำนาจตรงข้ามกับรัฐบาล
มันไม่หายไปกับสายลมแน่
และก็ไม่ได้ผิดการคาดหมาย วันรุ่งขึ้น “ลุงหมัก” สวนทันควันในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ยืนยันเสียงแข็ง
“พวกคุณเตือนผิดคนหรือเปล่า และเตือนช้าไป 16 เดือนหรือไม่ นี่อดีตนายกฯทักษิณท่านกลับมาสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่กลับมีการปล่อยข่าวว่ารัฐบาลจะปฏิวัติตัวเองและแทรกแซงศาลอีก
ผมจะกล้าแทรกแซงตุลาการเหรอ เพราะยังมีคดีในศาลอยู่ รวมทั้งเรียนกฎหมายมาและรู้เรื่องประชาธิปไตยดีว่า มี 3 สถาบัน คือ
ผมจะกล้าแทรกแซงตุลาการเหรอ เพราะยังมีคดีในศาลอยู่ รวมทั้งเรียนกฎหมายมาและรู้เรื่องประชาธิปไตยดีว่า มี 3 สถาบัน คือ
บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ที่คานอำนาจกัน โดยตุลาการ หรือศาล เป็นอำนาจที่มั่นคง ไม่เปลี่ยนแปลง
เพราะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ดังนั้น จึงอยากให้นักวิชาการที่ออกมาเตือนคิดก่อนพูด เพราะอาจจะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดได้”
อารมณ์ค้าง บลัฟกลับตามสไตล์
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าตัดอคติของความเป็นฝ่ายตรงข้ามออกไป สิ่งที่นายจรัญสะท้อนออกมามันก็มีแง่มุมตรงที่ว่า
หากรัฐบาลทำได้ จะส่งผลให้การแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นไปได้ด้วยดี ลดปัญหาความแตกแยก สร้างความสามัคคีในชาติ
และท้ายที่สุดประชาชนจะค่อยๆให้การยอมรับ
ตรงนี้ “ลุงหมัก” ไม่เถียง
และก็เถียงไม่ได้ด้วย.
"ทีมการเมือง"
คอลัมน์ ข่าวการเมือง(วิเคราะห์)