กรุงเทพฯ 10 มี.ค. - โฆษกกองทัพบก ระบุการค้าในจังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มคึกคักมากขึ้น หลัง จนท.วางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดต่อเนื่อง รวมถึงมีประชาชนเข้ามาเป็นแนวร่วม ทำให้ผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุได้ยากขึ้น
พ.อ.อัคร ทิพโรจน์ โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า จากเหตุการณ์ระเบิดในเขตเทศบาลอำเภอเมืองยะลา เจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับวัตถุระเบิดได้ก่อนระเบิด จะเห็นได้ว่ามาจากมาตรการรักษาความปลอดภัยเขตชุมชนเมือง ประกอบกับอุปกรณ์ตรวจสอบพิเศษ รวมถึงประชาชนที่เข้ามาเป็นแนวร่วม ทำให้ผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุได้ยากขึ้น ซึ่งในพื้นที่ตอนนี้การค้าเริ่มคึกคักมากขึ้น ตลาดในยะลาคนแน่นขึ้น มีรถขนส่งสินค้าอย่างต่อเนื่อง
“ผู้ก่อความไม่สงบก่อเหตุลำบาก เพราะมาตรการกดดันปิดล้อมอย่างต่อเนื่อง และรับฟังความเห็นจากประชาชน พร้อมกับเปิดโอกาสให้มอบตัว ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจมีกำลังเพียงพอ ซึ่งบางหน่วยได้กลับมาทำงานในพื้นที่เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งเราพยายามทำงานให้มีความต่อเนื่อง” พ.อ.อัคร กล่าว
เมื่อถามว่า การทำงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ผ่านมา มักมีการวิจารณ์ว่าไม่ประสานกับชุมชน พ.อ.อัคร กล่าวว่า ได้ทำงานควบคู่กันไปกับการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งการทำงานแต่ละโครงการต้องอาศัยระยะเวลา
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนว่าถูกเจ้าหน้าที่ทำร้าย พ.อ.อัคร กล่าวว่า หากพบว่าเป็นเรื่องจริง ถือเป็นความผิด ได้ตั้งกรรมการสอบสวนทุกกรณี เพราะถือว่าขัดต่อนโยบายของผู้บังคับบัญชา ซึ่งวันนี้ (10 มี.ค.) ตัวแทนสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา จ.สงขลา มาพบแม่ทัพ เพื่อรับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจ กรณีครูสอนศาสนาถูกทำร้ายระหว่างถูกควบคุมตัว ส่วนกรณีอื่น ๆ เชื่อว่าเมื่อทำความเข้าใจแล้ว ประชาชนจะเข้าใจและมีความเชื่อมั่นกับเจ้าหน้าที่มากขึ้น. - สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-03-10 08:03:36