ที่มา thaifreenews
มาแล้ว..ตอนที่ 4 เปาปุ้นจิ้น ตอนแลกลูก รักษาสถานภาพแม่หรือรักษาชีวิตลูก.ตอนที่ 4 วิธีคลี่คลายคดีแม่แลกลูก
โดย : คุณก็รู้ว่าใคร
วันศุกร์ที่ 5 เดือน ธันวาคม พ.ศ.2551
ตอนที่ 4 วิธีคลี่คลายคดีแม่แลกลูก
ความเดิมตอนที่แล้ว
มหาขันทีเฒ่าถูกปลิดชีพ ด้วยฝีมือของสนมร่างท้วมที่หมายปิดปากตัดตอน ซึ่งต่อไปนี้คาดว่าจะมิมีผู้ใดล่วงรู้การกระทำที่ชั่วร้ายของนางเป็นแน่แท้ แต่ สวรรค์มีตา เปาปุ้นจิ้น เทพแห่งความยุติธรรม ได้ระแคะระคายเรื่องนี้และได้ทราบเรื่องจาก จั่นเจา ที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจากการเข้าไปสอดแนมในตำหนัก..ฟ้าได้ลิขิตแล้ว เปาปุ้นจิ้นต้องออกโรง....เชิด..ด.ด..ด
ตราบใดที่ฟ้ายังมีดาว สาวยังมีประเภทสอง และจำลองยังมีสนธิ..เหตุการณ์คงดำเนินต่อไป
“ลูกน้อยของแม่...แม่จะดูแลทนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดีที่สุด..”
เสียงรำพันกล่อม..บนระเบียงตำหนักจากสนมท้วมที่อุ้มเด็กชายปักเทกไทอยู่ในอ้อมอก
“ขอเพียงแต่ เจ้าเชื่อฟังแม่ ไม่ดื้อกับแม่ เคารพและเทิดทูนแม่ ไม่เสพอินเตอร์เน็ตเกินไปจนรู้เรื่องไม่เป็นเรื่องที่เจ้าไม่ควรรู้
แค่นั้น..แม่ขอแค่นั้น...แม่ก็จะดูแลเจ้าตลอดไป....”
นางรำพึงรำพันกับเด็กน้อยซึ่งกำลังจ้องมาที่ใบหน้าของคนที่อุ้มเขาอยู่....อย่าง...เย็น...ชา....
พลันย้อนคิดไปถึงวันที่นางให้กำเนิดบุตรของนางเอง…….
.... เมื่อปลายเดือนก่อนพวกก่อการร้ายพันธมิตรจะยึดทำเนียบ
ย่ำทิวาราตรีก็ได้ผ่านค่ำคืนแห่งดาวเคียงเดือนไปมินานเท่าไหร่
“ผู้หญิง พะย่ะค่ะ “เสียงของหมอตำแยประจำราชสำนักกล่าวขึ้น
..”อุแว้..อุแว้..”เสียงอุแว้ของเด็กหญิงก็ดังลั่นขึ้นมาในตำหนักของสนมท้วม
“โอ้ว..โอ้ว..ว...ไม่นะ ไม่..ข้าไม่เชื่อ...เป็นไปไม่ได้..ไปตามมหาขันทีเฒ่ามาด่วน..น...น...น.”
เสียงร้องระคนโหยหวนแทบฟังมิได้ศัพท์ดังแทรกมากับเสียงร้องของเด็กหญิงเป็นระยะ
“อุแว้....””โอ้ว..ไม่..””อุแว้..””โอ้ว..NO..โอ้ว...NO..o..o.....o..o..o..o.o..o.o”
ผ่านๆไปมินานมหาขันทีเฒ่ารีบรุดเข้ามายังตำหนักทันที
เมื่อมหาขันทีเฒ่าได้เข้ามาเห็นกับตาตัวเองแล้วว่า บุตรที่เกิดจากนางสนมนั้นเป็นหญิง พลางส่ายหัวด้วยความระทม
“หรือนี่..คือ ลิขิตสวรรค์...ไม่..ลิขิตฟ้าหรือจะสู้ลิขิตคน...ลิขิตไก่ย่างมิมีทางดังเท่าลิขิต เอกมงคลไปได้....”
“ทหาร...เชิญสนมเข้าตำหนัก และจัดการปิดปากหมอตำแย ด้วยความเงียบที่สุด ใครเปิดเผยแพร่งพรายมันผู้นั้นจะถูกตัดลิ้นและเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ..ปฏิบัติ..”
นั่นเป็นเป็นเหตุการณ์ที่เหมือนผ่านมาเหมือนเนิ่นนานเหลือเกิน
คนเรามีแต่ตอนคิดใคร่จะได้ที่สุด จึงหวาดกลัวจะสูญเสียเป็นที่สุด ความรู้สึกที่ บัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้ายเยี่ยงนี้ ก็เป็นจุดอ่อนหนึ่งในจำนวนมากหลายของมนุษย์เรา ที่น่าเศร้าคือท่านยิ่งรุ่มร้อนปรารถนาจะได้ความหวังจะสูญเสียก็ยิ่งมากมาย (โกวเล้ง)
“เรียนสนมท้วม มีขุนนางผู้ใหญ่นามเปาปุ้นจิ้น ขออนุญาตเข้าพบ..”
สาวใช้ข้างบ้านตะโกนบอกข้ามฟากมา
นางพลันชายตาไปแวบเดียว ต้นเสียงนั้นก็พลันเงียบกริบลงทันที
“บังอาจ! ใครใช้ให้เจ้ามารบกวนอารมณ์ของข้าตอนนี้ ทหาร... ข้ามไปจับตัวมาโบย 3 ที อ้อ..ไม่ต้องเอาปืนผาหน้าไม้ไปนะ
ยังไง ก็พวกเดียวกัน เอาไว้ฝ่ายตรงข้าม ค่อยเตรียมไปเต็มที่ ทั้งปืนกล รถถัง และหน่วยจู่โจมพิเศษหมวกแดงจาก ท.อ.(ท่านอุ้ย..ผู้เขียนคิดว่าน่าจะใช่)”
เสียงดังเกิดขึ้น...พรึบ...บึม...บึม...พร้องควันที่ค่อยๆจางหาย ปรากฏร่างของทหารหนุ่มคนหนึ่งขึ้นแทน
นั่นคือ หมาพงเผ่า เอ๊ย.. หม่าพงเผ่า ทหารองค์รักษ์-บ้านนา-นครนายก ประจำกายของเสนาบดีขันทีเฒ่านี่.
“น้อมรับคำบัญชา ศิษย์หอมหวน.. แล้วเรื่องที่เจ้าหน้าดำเปา มาหาท่านหล่ะ”
หม่าพงเผ่า ตอบรับคำสั่งของสนมท้วม แต่ทำไมหม่าพงเผ่ามาอยู่ที่นี่ได้หล่ะ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
“เรื่องนั้นเป็นเราจัดการเอง...ว่าแต่ท่านเถิดข้าสั่งให้จัดการฆ่าเจ้าขันทีเฒ่าตั้งแต่ตอนไปแลกเด็กกับขาวบ้าน ยังทำไม่สำเร็จ”
“ต้องปล่อยให้หลุดมือมาถึงข้าจนได้.เชอะ.ความลับนี้มันคิดจะเอามาต่อรองกับเราให้มอบเด็กชายภายหลังขึ้นครองบัลลังก์แล้ว”
อ้า..ที่แท้.ไม่มีมิตรแท้ และศัตรูที่ถาวร มิตรแท้คือศัตรู ฝากศัตรูทำลายมิตร มิตรแท้ประกันภัย ไม่เกี่ยวนี่เอง..
“มันคิดจะครอบครองแผ่นดินร่วมกับเรา..โดยการที่คิดจะเลี้ยงต้อยเด็กคนนี้ตั้งแต่แบเบาะ..มันคงคิดว่าเราไม่รู่ทันมัน”
โอ้ว...ความคิดช่างแยบยลลึกซึ้ง เสียนี่กระไร
จะมีชีวิตอยู่โดยทรงคุณค่าเป็นที่ลำบากก็จริง จะตายให้มีคุณค่ายิ่งยากเข็ญกว่ามากนัก(โกวเล้ง)
ขันทีเฒ่าน่าจะสำนึกดีกว่าใคร
“ท่านหม่าพงเผ่า ท่านย่อมรู้ดี เพราะท่านก็คงเคยชิมลิ้มลองรสชาติของขันทีเฒ่ามาแล้วนี่..ฮ่าๆๆ”
“ท่านสนมอย่าได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย...มันช่างน่าอับอายแก่วงศ์ตระกูลยิ่งนัก..และนั่นเป็นเหตุให้ข้าร่วมกับท่านกำจัดขันทีเฒ่าให้จงได้..”
อ้อ..เป็นเช่นฉะนี้เอง..มิน่า อาการเกียร์ว่าง ถึงได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แถมยังปล่อยให้พวกมารตลุยออกมายึดสนามบินหัวเมืองได้อีก
ลูกผู้ชายมีบ้างพึงกระทำ บ้างไม่พึงกระทำ บางเรื่องบางประการ
หากท่านทราบว่ามิสามารถทำได้ ยังมิอาจไม่กระทำ (โกวเล้ง)
“ท่านหม่าพงเผ่า..แจ้งไปยังเจ้าเปาหน้าดำว่า ข้าจะไปรอในตำหนักกลาง...เชิญมันไป” สนมท้วมสั่งอย่างเคืองแค้น
ตำหนักกลาง
“เรียนสนมท้วม ขณะนี้เสนาบดีเปา ปุ้นจิ้น เดินทางมาถึงแล้ว พร้อมผู้ติดตามอีก4คนกับ 1 ทารกน้อย”
เสียงเจ้าหน้าที่ประจำตำหนักเรียนสนมท้วม
ตรงแท่นกลางตำหนัก สนมท้วมหันมาทำท่าแปลกใจ พลางรำพึงเบาๆ
“เอ๊ะ...ไอ้เจ้าหน้าดำมันมากับใครนะ แล้วทารกน้อยที่ไหนทำไมมาเกี่ยวอะไรกับมันด้วย..”
มิทันไรก็ปรากฏกายขุนนาง เปาปุ้นจิ้น ในชุดเต็มยศ และตามมาด้วยผู้ติดตาม ที่ใครก็รู้ว่าต้องเป็น องครักษ์-บ้านนา-นครนายกจั่นเจา และมือปราบซ้าย-ขวา หวังเฉาและหม่าฮั่น นั่นเอง..ง..ง..ง.
แต่..หญิงสาวนางนั้นหล่ะ
หญิงสาวนางหนึ่งในมืออุ้มเด็กหญิงอีกผู้หนึ่ง ก้าวตามทีมงานของเปาปุ้นจิ้น มาติดๆ
สนมท้วมปราดสายตามองด้วยความอำมหิตแวบนึงแล้วย้อนสายตากับมาแล้วย้อนกับไปอีกนิดแล้วย้อนมามองยังเบื้องหน้า
(แค่สายตาก็ดูกลับไปกลับมาซะแล้ว.ช่างอำมหิตเสียจริงๆ.ผู้เขียน)
พลันเอ่ยถามผู้มาเยือนเบื้องหน้า
“คาราวะท่านเสนาบดีเปาปุ้นจิ้น ผู้ยิ่งใหญ่ ที่อุตสาห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยือนถึงตำหนักข้า”
“มิได้ออกไปต้อนรับที่ท่ารถสายใต้ใหม่ด้วยตนเอง ต้องขออภัยด้วย..”สนมท้วมเจรจา
“ประหาร..ร...ร..ร.ร..ร.ร.ร.ร.ร.ร.ร..”เสียงดังมาจากท่านเสนาบดีเปาปุ้นจิ้น
สนมท้วมพลันทำสีหน้าตาตื่นตระหนก อ้าปากหวอ ค้าง
“อ้อ..ขอโทษท่านสนม ข้าชินปากไปหน่อย เวลามีคนทำผิดพลาดอะไร “เปาปุ้นจิ้นแก้ตัว
“เอ..แต่ท่านมีความผิดพลาดใหญ่หลวง อันใดหรือปล่าวถึงทำสีหน้าตื่นตระหนก อ้าปากหวอ ค้างอยู่อย่างนั้น..”
สนมท้วมรีบหุบปากแล้วปฎิเสธเสียงดัง
“ป่ะ..ปะ..ปล่าว...ข้าไม่เห็นเป็นไรนี่ เพียงแค่ไม่คาดคิดว่าท่านจะเล่นมุขนี้เท่านั้น ฮ่าๆ”
สนมท้วมพูดพลางหัวเราะกลบเกลื่อนสีหน้าตนเอง
“ท่านเปาปุ้นจิ้นมาหาข้า มีธุระอันใด จงรีบแจ้งมาโดยตรงเถิด อย่าได้อ้อมค้อมอีกเลย คนอ่านเค้าอ่านมานานแล้วนะท่าน ท่านจะยื้อไปถึงไหน จะให้ถึงแต่งตั้งรัฐบาลหน้า ได้นายกคนใหม่เลยหรือไม่..ฮ่าๆๆ”
เปาปุ้นจิ้นได้ยินดังนั้นสีหน้ากลับเปลี่ยนไป ครุ่นคิดในใจ
..สนมท้วมนี่ร้ายกาจมาก อาศัยช่วงเข้าตีเร็ว กะล่อเสือให้ออกจากถ้ำ คงคาดเดาไม่ออกว่าถึงการกระทำอันชั่วร้ายของตนเองกำลังจะถูกเปิดเผยเร็วๆนี้ ฉะนั้นข้าต้องรีบเปิดเกมส์เร็วผ่านผ่านอินเตอร์เนท WI-Fi 2 M ก่อนโดยเร็ว..
คิดได้ดังนั้นจึงพูดโต้ออกไป “ฮ่าๆๆๆ สนมท้วมช่างมีอารมณ์ขันยิ่งนัก.. ข้าเพียงแต่ทราบข่าวว่าท่านได้ให้กำเนิดทายาทก็เลยตั้งใจจะมาแสดงความยินดีกับท่านสักหน่อย “
“อ้อ..เป็นเช่นนั้นหรือ...งั้นท่านรอสักครู่ข้าจะนำบุตรชายของข้ามาให้ท่านได้ชื่นชม เดี๋ยวนี้..”
“อ้าว...บุตรของท่านเป็นผู้ชายดอกหรือ จากข่าวทราบว่าท่านได้ทายาทเป็นบุตรสาวนี่นา..ฮ่าๆๆๆ..สงสัยข้าจะได้ข่าวมาผิด
แหม ข้านี่ก็แก่แล้ว หูตาฝ้าฟาง ได้ยินอะไรไม่ค่อยจะชัดเจน..ต้องขออภัย..”
เปาปุ้นจิ้นพูดแหย่ หยั่งเชิงทีเล่นทีจริง
แต่สีหน้าของสนมท้วมตอนนี้ไม่ได้ดูทีเล่นทีจริงแท้แต่น้อย...นิ่งเฉย ราบเรียบ และ สงบเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง
“อุแว้..อุแว้...”
“โอ๋ๆๆๆๆ..ลูกแม่...โอ๋....ๆๆตื่นแล้วเหรอลูกรัก.....แหม...ตื่นมาก็อ้อนหาแม่เลยนะคนดีของแม่.”
สนมท้วมพลันวิ่งไปที่ต้นเสียงที่อยู่ในมือของแม่นมแล้วรีบดึงมาอุ้มแนบอกตนเองพูดปลอบเด็กที่ร้องอยู่
ช่วงนั้นถ้านางสังเกต หญิงสาวที่ตามมากับเปาปุ้นจิ้น ก็สะดุ้งเหมือนจะวิ่งออกมาอุ้มเด็กน้อยนั้นด้วยตนเอง อยู่แต่ติดที่องค์รักษ์-บ้านนา-นครนายก จั่นเจารั้งมือของหญิงสาวนั้นไว้แน่น
พลางรำพึงเบาๆ”..ปักเทกไท....ลูกแม่...”
สนมท้วมได้ยินเสียงแว่วๆ พลันปราดสายตาอำมหิต..หาต้นตอของเสียง พลันสายตาปะทะเข้ากับสายตาของหญิงสาวนางนั้น............
โปรดติดตามตอนต่อไป ตอนที่ 5 อาญาแผ่นดิน คืนสู่ผู้ละเมิด
เร็วๆนี้