เป็นไปตามยุทธศาสตร์การเมืองของพรรคเพื่อไทย และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป๊ะๆเลย
กับการเคลื่อนไหวของ กลุ่ม นปช. และม็อบเสื้อแดงที่เดินสายเปิดเวทีชุมนุมใหญ่ในจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ
ไล่ตั้งแต่ถิ่นอีสาน จังหวัดขอนแก่น ตามด้วยภาคกลาง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และภาคตะวันออก จังหวัดจันทบุรี
ระดมมวลชนคนเสื้อแดงพรึบพรับ ร่วมรับฟังการโฟนอินของอดีตนายกฯทักษิณที่ส่งเสียงออดอ้อนข้ามประเทศ
ขอความเห็นใจจากพ่อยกแม่ยกที่ยังรักและศรัทธาเจ้าตำรับประชานิยมของแท้ตัวจริง
โหมโรงคนเสื้อแดงตามแผนยกระดับเป็นม็อบขับไล่รัฐบาลที่จะยกพลมาปิดล้อมทำเนียบฯอีกรอบช่วงปลายเดือนมีนาคม
สอดรับกับการขับเคลื่อนของ ส.ส. ฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ที่เดินเกมตามยุทธศาสตร์ไล่บี้รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมยื่นเรื่องถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกจากตำแหน่ง
ตั้งข้อหาหนักใช้อำนาจหน้าที่ขัดรัฐธรรม-นูญ ฝ่าฝืนกฎหมาย ส่อไปในทางทุจริต
พ่วงด้วยการยื่นถอดถอนและขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 5 คน คือ
นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย
ระดมขุนพลปากตะไกรเปิดศึกอภิปรายถล่มนายกฯอภิสิทธิ์และ 5 รัฐมนตรีเป้าหมาย ในสภาฯวันที่ 26-27 มีนาคมนี้
แน่นอน เป้าหมายในทางเปิดเมื่อมีการยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจ คือล้มรัฐบาล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องตัดสินกันที่เสียงโหวตในสภาฯ ซึ่งรัฐบาลกุมเสียงข้างมากอยู่ในมือ
ฉะนั้น เป้าหมายที่หวังผลกันจริงๆคือเน้นขยายแผลให้สังคมเห็นว่ารัฐบาลภายใต้ การนำของพรรคประชาธิปัตย์มีพฤติการณ์ส่อไปในทางทุจริต ทำผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ไร้คุณธรรมและจริยธรรม
ไม่ได้วิเศษวิโสกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว ที่ถูกพลิกขั้วไปเป็นฝ่ายค้าน!!!
เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์บันได 3 ขั้น ที่ “ทักษิณ” และพรรคเพื่อไทยวางเอาไว้
ขั้นแรก ใช้เวที นปช.และม็อบเสื้อแดงเคลื่อนไหวทั่วประเทศ เปิดเวทีให้อดีตนายกฯทักษิณโฟนอินวิจารณ์ความผิดพลาดในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล
ขั้นที่สอง ส.ส.พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติไม่ไว้วางใจถล่มรัฐบาลในสภาฯ
ขั้นที่สาม ส่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทยเดินสายพบปะหัวคะแนนและสมาชิกพรรค ขยายผลการแก้ปัญหาที่ล้มเหลวของรัฐบาล เน้นภาพลักษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณแก้ปัญหาเศรษฐกิจสำเร็จ
เพื่อนำไปสู่จุดไคลแมกซ์พา “ทักษิณ” กลับบ้าน!!!
และเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้เข้มข้น อดีตนายกฯทักษิณจึงต้องเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องทั้งการโฟนอินเข้ามาในเมืองไทย และการแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจในเวทีต่างประเทศ
อย่างล่าสุด ก็ได้ปาฐกถาพิเศษผ่านระบบวีดิโอลิงก์จากเมืองดูไบไปยังสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในฮ่องกง โชว์กึ๋นแนะแนวทางแก้ วิกฤติเศรษฐกิจให้สหรัฐอเมริกาและจีน
แถมยังให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ “เจแปน ไทม์ส” ของญี่ปุ่น ฉบับภาษาอังกฤษ จนเป็นเหตุ ให้มีการเสนอข่าวว่า “ทักษิณ” ได้ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษแล้ว
สุดท้ายนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ “ทักษิณ” ต้องออกมาชี้แจงว่าเป็นการลงข่าวคลาดเคลื่อน พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ให้ สัมภาษณ์ว่าได้ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ
เพียงแต่พูดว่า กราบบังคมทูลไป 3 ครั้งเพื่อถวายรายงานตอนเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว
ตะลุยชิงพื้นที่ข่าวมากเกินไปก็มีโอกาสพลาด เสียรังวัดได้นะโยม!!!
แม่ลูกจันทร์