ที่มา ไทยรัฐ
โดย เห่าไฟ
ความขัดแย้งที่ ไร้ข้อยุติ จะนำไปสู่ ความแตกแยก ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดระเบิด ทั้งสองฝ่ายก็จะทนกันไม่ได้อีกต่อไป ต้อง แบ่งอาณาเขตกันปกครอง ไปตามแนวคิดอุดมการณ์ของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการ แยกชาติแยกแผ่นดิน แต่เพื่อป้องกัน การนองเลือดครั้งใหญ่ ก็เลยเหลือทางออกที่ดีที่สุดเพียงทางเดียว นั่นก็คือ แยกการปกครอง!!!............
สำหรับใครก็ตามที่ยัง ไม่ยอมรับความจริง พยายามใช้อำนาจ บีบบังคับ อีกฝ่ายให้ยอมอ่อนข้อให้ฝ่ายของตน ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดว่าใช้อำนาจบังคับทุกอย่างก็จบ “เห่าไฟ” ขอให้ดู จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นตัวอย่าง หากสถานการณ์เหล่านั้นลุกลามไปทั่วประเทศ อะไรจะเกิดขึ้น ลองหลับตานึกภาพกันเอาเอง!!!............
“เห่าไฟ” บอกตามตรง ไม่มีอะไรน่ากลัวยิ่งไปกว่า ความขัดแย้งทางความคิด ที่นำไปสู่การจับอาวุธขึ้นต่อสู้ของมวลชนอีกแล้ว เนื่องจากมวลชนที่จับอาวุธนั้น จะแฝงตัวอยู่ในหมู่บ้าน ชุมชน รอคอยโอกาส ลงมือเล่นงาน ฝ่ายตรงข้ามและเจ้าหน้าที่รัฐได้ตลอดเวลา เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ฉะนั้น ต้อง เร่งสกัด ปัญหาความแตกแยกไม่ให้ขยายตัวออกไปโดยเร็ว ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป!!! ............
ก่อนหน้านี้ ได้มีคำเตือนมาตลอด อย่าได้แก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการ ละเมิดกฎกติกา เพราะจะทำให้ความขัดแย้ง ลุกลามบานปลายไม่หยุด เมื่อฝ่ายหนึ่งละเมิดกติกาได้ อีกฝ่ายก็จะทำบ้าง และยกมาเป็นข้ออ้างคัดค้านต่อต้านไม่มีวันสิ้นสุด โดยเฉพาะสิ่งที่ผิดมหันต์ก็คือ การใช้วิธี ปฏิวัติรัฐประหารด้วยกำลังทหาร เพื่อนำร่องการปฏิรูปการเมืองไทย!!!............
เพราะนับจากนั้นเป็นต้นมา ก็ได้เกิด ตราบาป ขึ้นบนผืนแผ่นดินไทยจนยากจะ ลบล้าง ได้อีก เริ่มจากการ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปฏิวัติ ตามมาด้วยกฎหมายหลายฉบับที่มีวัตถุประสงค์เล่นงานฝ่ายตรงข้ามอย่าง เฉพาะเจาะจง ไม่คำนึงถึง หลักนิติธรรม ที่จะต้องเคร่งครัดต่อการบังคับใช้กฎหมายแก่คนโดยทั่วไป ด้วยเหตุนี้ ตราบาปดังกล่าว จึงกลายเป็นปมปัญหาที่ทำให้เกิด ความแตกแยก ขึ้นในชาติชนิดไม่มีวัน เยียวยารักษา ได้อีกต่อไป!!!............
“เห่าไฟ” อยากชี้ให้เห็นสาเหตุของปัญหาอีกครั้ง เพื่อเตือนสติ ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ให้เลิกทำในสิ่งที่ ผิดพลาด เสียที ก่อนหน้านี้ เมืองไทยได้เกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่ขึ้นหลายครั้ง แต่ทุกครั้งสามารถแก้ไขให้ยุติลงได้ด้วยดี ก็เพราะผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนในบ้านเมือง วางตัวเป็นกลาง ไม่หลงคารมการ ยุยงส่งเสริม จากฝ่ายใด ก็เลยได้รับ ความเชื่อมั่นเชื่อถือ จากทั้งสองฝ่าย สามารถเจรจาให้ หย่าศึก ได้ด้วยดี!!!............
แต่มาบัดนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน เอนเอียง เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทำให้ สูญเสีย ความเชื่อมั่นเชื่อถือจากอีกฝ่ายหนึ่ง เรียกง่ายๆว่า ตกหลุมพรางความขัดแย้งทางการเมือง เป็นเหตุให้ได้ใจฝ่ายหนึ่ง แต่ต้องเสียอีกฝ่ายหนึ่งไป ทำให้บ้านเมืองขาดคนที่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริงมาชี้ขาดยุติปัญหา ด้วยเหตุนี้ ความขัดแย้งก็เลย ลุกลามบานปลายไม่หยุด เสมือนไฟป่าที่ลุกลามไปทั่ว ยากจะมอดดับ!!!............
แล้วยิ่งน่าขำเข้าไปใหญ่ ที่ต่างฝ่ายต่างก็ เลียนแบบ พฤติกรรมเผาบ้านเผาเมืองกันหน้าตาเฉย พอฝ่ายหนึ่งได้อำนาจ ก็จะประกาศให้ทุกฝ่าย สมานฉันท์ ฝ่ายที่เสียอำนาจก็จะด่ากลับมาอย่างแสบสันว่า ไม่สมานฉันท์กับโจร หรือ ไม่หย่าศึกกับเผด็จการ ต่างฝ่ายต่างมีข้ออ้างที่จะขัดแย้งกันต่อไปไม่จบไม่สิ้น เห็นหรือยังว่า หลังจาก ปฏิวัติ เป็นต้นมา ได้เกิด ตราบาป ขึ้นในแผ่นดินไทยจริงๆ!!!............
สำหรับวิธีแก้ปัญหานั้น “เห่าไฟ” อยากให้ผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองอย่างแท้จริง ไม่ว่าใครก็ตาม ลองคิดทบทวนดูอีกครั้ง ทำอย่างไรจึงจะ หย่าศึก ของแผ่นดินครั้งนี้ลงได้อย่าง ละมุนละม่อม ที่ผ่านมา วิธีการต่างๆที่นำมาใช้นั้น ต้องเรียกว่า ล้มเหลวหมด เพราะถ้าได้ผล ป่านนี้บ้านเมืองก็คง สงบสุขร่มเย็น ไปนานแล้ว ดังนั้น ก็ควรคิดหา วิธีการใหม่ๆ มาลองใช้ดูบ้าง อย่าไปฟังเสียง ยุแยงตะแคงรั่ว เผาบ้านเผาเมืองของฝ่ายใดทั้งสิ้น ขอให้ตัดสินใจด้วย ความเป็นกลาง และใช้วิธีที่เป็นกลางจริงๆ เชื่อว่า บ้านเมืองคง รอดพ้น จากหายนะครั้งนี้ไปได้แน่นอน!!!............
มาวิจารณ์ ความอ่อนหัด ของรัฐบาลชุดนี้กันบ้างดีกว่า หลังจากทำตัวเป็น อึ่งอ่างพองลมโต้พายุร้าย ปรากฏว่า วันก่อน เครดิต ลียองเนส์ บริษัทหลักทรัพย์ ยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ออกบทวิเคราะห์ เตือนว่า เศรษฐกิจไทยในปี 52 มีโอกาสติดลบถึง 9% ทำเอา นายกฯอภิสิทธิ์ เต้นผางออกมาโต้ว่า เว่อร์เกินเหตุ!!! ............
ตอนนี้ “เห่าไฟ” เป็นห่วงคนตกงานมากที่สุด เพราะนโยบายของ รัฐบาลอ่อนหัด ที่คิดแต่จะ แจกเงิน แทนการ สร้างงาน ทำให้คนตกงานยิ่ง เคว้งคว้าง หนักขึ้น ล่าสุด แบงก์ชาติ พบว่า การจ้างงานในภาคอุตสาหกรรม หดตัวต่อเนื่องติดต่อกัน นับถึงเดือน ม.ค.นี้ เป็นเดือนที่ 9 และการจ้างงานในภาคบริการเริ่มลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สอดคล้องกับการใช้กำลังการผลิต และดัชนีการผลิตอุตสาหกรรมที่ลดลงมากในเดือน ม.ค. และในช่วงต่อไปยังพบว่า มีสัญญาณการ อ่อนตัว ของการจ้างงานต่อเนื่อง!!!............
“เห่าไฟ” อยากให้กลุ่มคนตกงานนับล้าน เตรียมเลือก วิธีกู้ชีพตัวเอง เอาไว้ให้ดี ซึ่งแต่ละคนคงเลือก กลยุทธ์ ที่แตกต่างกันไป บางคนมีสติปัญญา จิตใจเข้มแข็ง คงเลือกใช้วิธี บุกไปข้างหน้า ขอสู้ต่อไปจนกว่าจะหมดแรงล้มฟุบ ส่วนคนที่ไม่ชอบแก่งแย่งแข่งขัน ก็ขอให้เลือกใช้วิธี พอเพียง ควรเดินทางกลับบ้านชนบทพร้อมกับศึกษาวิธีทำการ เกษตรครบวงจร เพื่อจะได้มีชีวิต พออยู่พอกิน ไปตลอดช่วงที่ตกงาน รอเวลาให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอีกครั้งค่อยกลับมาลุยใหม่ และไม่ว่าใครจะเลือกใช้กลยุทธ์สู้ชีวิตแบบไหนก็ตาม ขอให้รับรู้ไว้ว่า เราคนไทยจะเป็นกำลังใจให้กันเสมอ!!!............
“เห่าไฟ”