ที่มา มติชนออนไลน์
"แม้ว"ถวายรายงานผ่านกลไกพิเศษ "รับไม่ไว้ใจ"เปรม"หาชักใยปว. ใช้"ราชประชาสมาสัย"แก้ปัญหา ปชป.จับผิดคำพูด"แม้ว"โทษสื่อ แฉเจตนาเคยพูดถึงฎีกา3ครั้ง "บัญญัติ"กลัวโฟนอินถี่กลัวเสื้อแดงพลิกขั้ว "ชลิต"ชี้ขออภัยโทษต้องสำนึกผิด ซัด ขรก.เกียร์ว่างเช็คบิล"ทักษิณ"
"จตุพร"ซัด"สุเทพ"ใจแคบเอาผิดม็อบ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำกลุ่ม นปช. นพ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระ มุสิกพงศ์ นายอดิศร เพียงเกษ และแกนนำ นปช.อีกหลายคน ทยอยขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรียกร้องประชาธิปไตย และโจมตีการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน ที่ อีกทั้งยังขอความเป็นธรรมให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งแจ้งให้สมาชิกเสื้อแดงรอฟังการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณเวลา 20.15น. ด้วย
นายจตุพรกล่าวถึงกรณีนายสุเทพ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาขู่และกดดันให้ตำรวจดำเนินคดีเด็ดขาดกับกลุ่มเสื้อแดงที่ปาขวดใส่นั้นว่า การกระทำแบบนี้ถือว่านายสุเทพใจแคบที่สุด หากจะเอาผิดกันจริงๆ กลุ่มพันธมิตรที่กระทำการยิ่งกว่า ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล ทำลายสิ่งของ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ และกว้างปาสิ่งของเหมือนกัน แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจที่จะเอาผิด หากนายสุเทพยังใจแคบแบบนี้ต่อไปอีก อีกหน่อยก็ต้องจับคนเป็นแสนเป็นล้านคน เพราะคนทั้งประเทศหมดความอดทนแล้ว ไปที่ไหนก็มีแต่คนจะขับไล่ปาสิ่งของ "แม้ว"อ้างถวายรายงานผ่านกลไกพิเศษ
ก่อนหน้านี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำหนังสือกราบบังคมทูลเพื่อถวายรายงานสถานการณ์ทางการเมืองรวม 3 ฉบับ ว่า ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลเพื่อถวายรายงานสถานการณ์ทางการเมืองผ่านกลไกที่พอสื่อสารไปได้ ซึ่งไม่ได้ใช้ช่องทางของสำนักราชเลขาธิการหรือองคมนตรีแต่อย่างใด ดังนั้นจึงถือว่าถูกต้องแล้วที่ผู้เกี่ยวข้องกับทั้ง 2 องค์กรจะออกมาปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็นกับการทูลเกล้าฯถวายรายงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯมาถึง 5 ปี มีเรื่องที่ต้องกราบบังคมทูลฯเป็นนิจศีล แต่หลังถูกยึดอำนาจเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ก็ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯเพื่อถวายรายงานเลย ส่วนจะใช้กลไกใด หรือมอบหมายให้ใครเป็นผู้ดำเนินการนั้น ตนไม่ทราบ
"รับไม่ไว้ใจ"เปรม"หาชักใยปว.
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณเลือกใช้กลไกพิเศษเพราะไม่วางใจองคมนตรีหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า "ไม่ต้องอธิบายเลย เพราะประธานองคมนตรี (พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์) ก็ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจ ดังนั้นชัดเจนเลยในเรื่องความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ" เมื่อถามว่า เนื้อหาสำคัญในรายงานทั้ง 3 ฉบับเป็นอย่างไร นายจตุพรกล่าวว่า เข้าใจว่าเป็นการถวายรายงานสถานการณ์ทางการเมือง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณถูกยึดอำนาจด้วยเหตุผล 4 ข้อ ในจำนวนนี้มีข้อกล่าวหาเรื่องความไม่จงรักภักดีรวมอยู่ด้วย สิ่งที่แสดงออกจึงเป็นการทำให้เห็นว่าอดีตนายกฯมีความจงรักภักดีไม่เปลี่ยนแปลง และเคยพูดอยู่เสมอๆ ว่านายกฯมีเจ้านายคือพระเจ้าแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่าเนื้อหาในรายงานทั้ง 3 ฉบับเป็นอย่างไร เรื่องแบบนี้ไม่ใครบอกใคร เพราะถือเป็นเรื่องที่มิบังควรที่จะนำมาเปิดเผยต่อ
ใช้"ราชประชาสมาสัย"แก้ปัญหา
เมื่อถามย้ำว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณมีแนวคิดจะขออภัยโทษให้ตัวเองหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แต่นายวีระ มุสิกพงศ์ เคยเสนอแนวคิดเรื่องราชประชาสมาสัย แต่ยังไม่เป็นรูปธรรม เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว แต่เป็นเรื่องบ้านเมืองที่มี 2 มาตรฐาน ไม่เป็นประชาธิปไตย ขณะนี้ไม่มีใครฟังใคร แต่คนไทยทุกคนฟังพระเจ้าแผ่นดิน จึงเป็นเรื่องที่พระเจ้าแผ่นดินกับประชาชนจะร่วมกันทำให้ประเทศชาติกลับไปสู่จุดเดิมที่ไม่มี 2 มาตรฐาน คู่ขัดแย้งต้องยอมถอยคนละก้าว
"ขณะนี้ถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณเริ่มก้าวข้ามพ้นแล้ว เพราะถ้าท่านตัดสินใจกลับเข้าประเทศ ก็ต้องถูกคุมขัง และจะมีประชาชนลุกฮือขึ้นมาเต็มบ้านเมือง แต่ถ้าวันหนึ่งถ้าเห็นว่าบ้านเมืองมันสุดโต่งจริงๆ กู่ไม่กลับแล้ว ท่านก็อาจจะกลับมา ส่วนจะเร็วจะช้าเพียงใด สถานการณ์จะเป็นตัวกำหนด แต่การกลับเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ใช่เรื่องเกินจะคาดคิด" นายจตุพรกล่าว
ปชป.จับผิดคำพูด"แม้ว"โทษสื่อ
เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ในหนังสือเจแปน ไทมส์ ของญี่ปุ่น ระบุถึงการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ และได้มีการออกมาชี้แจงว่ามีการสื่อความหมายที่ผิดไป ว่าไม่ใช่เป็นการสื่อความหมายผิดตามที่มีการออกมาชี้แจง และไม่น่าจะเป็นไปได้ที่สื่อมวลชนไทยทุกแขนงจะนัดกันแปลความหมายผิด และเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรชี้แจงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ผ่านการโฟนอินของกลุ่มคนเสื้อแดง
"ผมสอบถามไปยังนักวิชาการด้านภาษาแล้วก็แปลความหมายตรงกับที่สื่อมวลชนรายงาน ภาษาอังกฤษอาจจะแปลว่าอะไรก็ได้ แต่ต้องดูรูปประโยคส่วนท้ายประกอบ การที่บอกว่าสื่อมวลชนแปลคำว่า Pardon เป็นการถวายฎีกาเพื่อขออภัยโทษ ไม่ถูกต้อง เป็นแค่การถวายรายงานเท่านั้น ถ้าถวายรายงาน ทำไมไม่ใช้คำว่า Report ที่แปลได้ตรงตัวอยู่แล้ว" แฉเจตนาเคยพูดถึงฎีกา3ครั้ง
"ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เคยพยายามพูดเกี่ยวกับการถวายฎีกามาแล้วอย่างน้อย 3 ครั้ง คือครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่บอกว่า "ไม่มีใครที่จะเอาผมกลับประเทศได้หรอกครับ นอกจากพระบารมีที่จะทรงพระเมตตา"ครั้งที่ 2 ให้สัมภาษณ์อาระเบียน บิสเนส วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 ว่า "ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรู้สึกว่าผมสามารถเป็นประโยชน์ ผมก็จะกลับไป และพระองค์พระราชทานอภัยโทษแก่ผม ถ้าพวกเขาไม่ต้องการผม และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงรู้สึกว่าไม่สามารถทำอะไรให้ต่างออกไปได้ ผมก็จะอยู่ที่นี่และทำธุรกิจไป" และครั้งสุดท้ายก็ให้สัมภาษณ์กับเจแปนไทมส์ จึงตอกย้ำชัดเจนว่า สื่อรายงานถูกต้อง" นายเทพไทกล่าว
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก รองโฆษก ปชป. กล่าวว่า นายสุเทพถูกมวลชนคนเสื้อแดง เอาขวดน้ำขว้างใส่และปาไข่ใส่เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย จึงขอเรียกร้องไปยังพรรคเพื่อไทยที่เป็นบริษัทแม่ให้ดูแลบริษัทลูกให้ดี เพราะจะทำให้ประเทศเกิดความปั่นป่วน
โฟนอินถี่กลัวเสื้อแดงพลิกขั้ว
นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.สัดส่วนและกรรมการสภาที่ปรึกษา ปชป.กล่าวว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณให้คนออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ทำหนังสือขออภัยโทษเพราะข่าวที่ออกมาคงทำให้ตัวเองดูไม่ดี ว่าไปบีบบังคับใคร จึงให้นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ออกมาแก้ข่าวว่าเป็นเพียงการทำรายงานเสนอ ทั้งที่เมื่อดูน้ำหนักคำพูดแล้วจะรู้ว่าระหว่างคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณกับคนที่ให้มาแก้ข่าว ใครน่าเชื่อถือกว่ากัน
"พ.ต.ท.ทักษิณควรเดินทางกลับมารับโทษก่อน จากนั้นค่อยมาพูดคุยถึงการอภัยโทษหรือนิรโทษกรรม ยิ่งเคลื่อนไหวมากขึ้นตัวเองก็ยิ่งตกที่นั่งลำบากมากขึ้น เพราะประเทศต่างๆ ไม่ยินดีให้เป็นฐานโจมตีทางการเมือง ส่วนการโฟนอินถี่น่าจะเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณคงประเมินแล้วว่า เงื่อนเวลามันบีบเข้ามา ทำให้ตกที่นั่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ คงกลัวว่าหากทิ้งไปนานๆ รัฐบาลอาจเข้มแข็งมากขึ้นและมวลชนตัวเองน้อยลง เพราะล่าสุดเครือข่ายของเขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ
"คนอย่างคุณทักษิณมีลักษณะสองอย่าง คือ แพ้ไม่เป็น กับผิดไม่เป็น คุณทักษิณจะไม่ยอมใครง่ายๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น คุณทักษิณจะโทษคนอื่นก่อน" นายบัญญัติกล่าว
"ชลิต"ชี้ขออภัยโทษต้องสำนึกผิด
พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตรักษาการประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณขอพระราชทานอภัยโทษว่าคงแก้ยาก เพราะคนที่ถูกตัดสินลงโทษจำคุกแล้ว ถ้าไม่ได้สำนึกผิด แล้วจะขออภัยโทษคงไม่มีประเทศไหนที่ให้ ทุกประเทศจะให้กับผู้ที่สำนึกผิดแล้ว แต่ไม่สำนึกคงไม่มีใครให้อภัยโทษ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่ยอมรับความผิด เพราะหากเป็นเราคงจะเหมือนกัน ถ้าถูกตัดสินคงต้องดิ้น หากมีชีวิตที่สะดวกสบายในต่างประเทศก็คงจะออกไปอยู่ข้างนอก เพราะเห็นว่า คนถูกคดีหลายคนไปอยู่ต่างประเทศ
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวต่อสู้เพราะมีความเจ็บแค้นหนักหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า ขณะนี้ถึงจุดแตกแล้ว แต่ยังไม่ยอมรับจุดแตก เพราะศาลได้ตัดสินจำคุก ซึ่งถือเป็นจุดจบแล้ว และไม่มีหนทางอื่นนอกจากบ่อนทำลายรัฐบาลและประเทศ เมื่อถามว่าจะมีใครทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดเคลื่อนไหวได้หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า คงจะต้องเป็นตัวเอง องคุลีมาลยังต้องรู้สึกด้วยตัวเอง คงไม่มีใครไปสอนได้ บางคนไม่รับฟังคำสอนจึงเป็นเรื่องยาก
ซัดขรก.เกียร์ว่างเช็คบิล"แม้ว"
เมื่อถามว่า กองทัพพยายามสกัดไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาครองอำนาจในรัฐบาล พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า การไม่ครองอำนาจในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะเป็นไปตามกรรม คือ การกระทำที่เกิดขึ้น คงไม่ใช่เป้าหมายของ คมช.ว่าต้องทำลาย แต่ใครที่ทำผิดกฎหมายต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่ได้กลั่นแกล้ง เมื่อถามว่า จากการประสานงานของรัฐบาลกับต่างประเทศมีแนวโน้มจะจับตัว พ.ต.ท.ทักษิณได้หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า ความจริงสามารถเลิกใช้พาสปอร์ตแจ้งรัฐบาลแบบเข้มแข็ง ทำได้ทั้งสิ้น แต่มีอะไรแอบแฝงหรือไม่นั้นไม่รู้ เมื่อถามว่า แสดงว่า ข้าราชการประจำยังเป็นคนของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิตกล่าวว่า อาจจะเป็นอย่างนั้น เพราะมีความเกี่ยวพัน การเกื้อหนุนมาแต่ในอดีต เพราะถ้าหากทำจริงๆ โดยไม่มีลูบหน้าปะจมูกต้องคืบหน้าไปมากกว่านี้แล้ว
"กษิต"ยันโผล่ไหนขอตัวที่นั่น
นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดสร้างความปั่นป่วนด้วยการใช้วิธีโฟนอิน หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนดีก็น่าจะกลับมาสู้คดีที่เมืองไทย ทั้งนี้การที่อัยการสูงสุดไปฮ่องกงเพื่อเจรจาทำความตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนแม้ว่าจะยังเจรจาไม่เสร็จแต่หากเจอ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นที่ฮ่องกง รวมทั้งทุกที่ ก็ถือเป็นภาระหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตที่จะแจ้งให้ตำรวจท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ได้ดำเนินการส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย "เสื้อแดง"ทยอยเดินทางสบทบแน่นสนามกีฬาอยุธยา
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงเมื่อ ช่วงเย็นของวันที่ 14 มีนาคม ที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าคนเสื้อแดงเข้าไปรวมตัวหันที่หน้าเวทีปราศรัยของ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อด้านเผด็จการ (นปช.) ทำให้พื้นที่กว่า 400 ไร่ของสนามกีฬาจังหวัดแดงไปทั้งพื้นที่ และด้วยคนจำนวนมากและรถยนต์จำนวนมากทำให้พื้นที่ซึ่งขนาดใหญ่แน่นขนัด ทำให้รถยนต์บางส่วนล้นออกมาจอดถนนรอบสนามกีฬาจังหวัด และยังมีรถบัสจำนวนมาก และรถแท็กซี่อีก 400 คัน
นอกจากนี้การ์ดของ นปช. หรือ นักรบพระเจ้าตาก ต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบการเข้าออก เพื่อดูแลความปลอดภัย สถานการณ์โดยรวมพบว่าอยู่ในขั้นปลอดภัย ประกอบกับท้องฟ้าเป็นใจ เพราะตลอดทั้งวันพบว่าแดดไม่ออก ฝนก็ไม่ตก มีแต่สายลมที่พัดเย็นสบาย ทำให้บรรยากาศการชุมนุมผ่อนคลายไม่ร้อนเหมือนที่จังหวัดอื่น ๆ ทั้งนี้คนเสื้อแดงจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ต่างสวมเสื้อแดงและเดินถือป้ายแสดงถิ่นฐานว่ามาจากจังหวัดไหน กลุ่มไหน เข้ามาร่วมชุมนุมและทักทายกันตลอดเส้นทาง อย่างไรก็ตามพบว่ามีสินค้าทำพวกเสื้อแดง และภาพของอดีตนายกทักษิณขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกร้านล้วนแต่ขายดี นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย เดินทางไปพร้อมกับกลุ่มคนเสื้อแดง และคนติดตามของนายสุรเชษฐ์ ได้ปาไข่ไก่จำนวนเกือบ 100 ใบ ใส่ภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนเสื้อแดง
ตร.500 นายดูแลเสื้อแดงจัดความจริงฯสัญจร
ด้านนอกรอบสนามกีฬาจังหวัด พบว่าทางตำรวจได้เพิ่มกำลังเพื่อรักษาความปลอดภัยและอำนวยการจราจร โดยรวมแล้วใช้ตำรวจประมาณ 500 นาย ได้กระจายปฏิบัติหน้าที่ทุกเส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าเมืองอยุธยา พล.ต.ต.ชินทัต มีศุข ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ตำรวจดูแลด้านนอก ส่วนด้านในให้ประสานกับการ์ด นปช. ในการรักษาความสงบเรียบร้อยดูแลกลุ่มคนที่เข้าร่วมกิจกรรมเวทีสัญจร แต่พื้นที่ด้านในสนามกีฬาตำรวจตั้งจุดเพื่อเตรียมความพร้อมหากมีเหตุเกิดขึ้นเช่นกัน โดยรวมแล้วพบว่าเหตุการณ์เป็นปกติ ไม่มีเหตุร้ายหรือสิ่งบงชี้ว่าจะมีเหตุร้าย
"เหวง"โวผู้ร่วมชุมนุม 3 หมื่นขับไล่รัฐบาล
นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จมีคนมาร่วมกว่า 30,000 คน หากดึกกว่านี้เชื่อว่าจะมากกว่านี้แน่นอน และถือว่าการชุมนุมนั้นมีคนมาร่วมเพิ่มขึ้นทุกจังหวัดที่ นปช.จัดขึ้น การจัดสัญจรก็เพื่อเป็นการรณรงค์ แสวงหาแนวร่วมเพื่อจะระดมคนเสื้อแดงไปร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพเพื่อขับไล่รัฐบาล และทุกวันนี้ถือว่าคนเสื้อแดงเกินขึ้นใหม่ มีสมาชิกเพิ่มขึ้นในทุก ๆ จังหวัด คนเสื้อแดงขยายจำนวนเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ทั้งนี้เพราะประชาชนทั้งประเทศอึดอัดการภาวการณ์ของประเทศไทย ที่รัฐบาลไม่ได้มาจากกระบวนการทางประชาธิปไตย แต่มาจากทหารและกลุ่มคนที่กดดันประท้วงจนได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง ซึ่งเรื่องนี้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยออกมาบอกชัดอยู่แล้วว่านายกอภิสิทธิ์ (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) มาจากการสนับสนุนของกลุ่มพันธมิตรและทหาร
นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวชี้ชัดอยู่แล้วว่ามาจาก การยึดอำนาจของทหาร การประท้วงของกลุ่มพันธมิตร และรัฐบาล ปชป. ปัจจุบันบ้านเมืองเป็นหนี้สินมากมาย รัฐบาล ปชป.เอาแต่กู้ เพื่อนำเงินกู้มหาศาลมาใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาของประเทศแบบไม่ตรงจุด ทำงานแบบไร้ฝีมือ ไม่เป็นมืออาชีพ ยิ่งทำบ้านเมืองยิ่งล่มจม ยิ่งเป็นหนี้สิน ประเทศชาติจนลงทุกวัน ประเด็นนี้ทำให้คนอีกเป็นจำนวนมาก เปลี่ยนใจมาเป็นเสื้อแดงและพร้อมใจร่วมพลังกับคนเสื้อแดงขับไล่รัฐบาล ปชป.