ที่มา โลกวันนี้ หลังจับคนเสื้อแดงกว่า 200 คน กระจายคุมขังให้หมดอิสรภาพตามสถานที่ต่างๆ เอาไปไว้ในค่ายทหารบ้าง ค่ายตำรวจบ้าง แม้แต่คุกซึ่งเป็นสถานที่ที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉินห้ามนำตัวไปกักขังก็ยังเอาไปกักขังไว้ โดยไม่มีใครให้คำตอบในเรื่องนี้ว่าเมื่อรัฐบาลและ ศอฉ. ทำผิดกฎหมายเสียเองแบบนี้แล้วบ้านเมืองนี้จะเป็นนิติรัฐได้อย่างไร เพราะความหมายของนิติรัฐคือ ทุกคนทุกฝ่ายต้องเท่าเทียมกันทางกฎหมาย ไม่ใช่ละเว้นให้คนนั้น ไม่ละเว้นให้คนนี้ อย่างที่ทำกันอยู่ วันสองวันมานี้มีข่าวว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้คนเสื้อแดง...ฟังแล้วดูดี เหมือนเป็นการแสดงให้เห็นว่านี่คือการเริ่มต้นนับหนึ่งของแผนปรองดองอย่างแท้จริง แต่เมื่อดูวิธีการแล้วต้องบอกว่ารัฐบาลยังจมปลักอยู่กับความคิดตัวเอง ความคิดเรื่องการก่อวินาศกรรม ก่อการร้าย เผาบ้านเผาเมือง เรื่องนี้คิดว่าคงต้องทำความเข้าใจกัน เพราะการชุมนุมของคนเสื้อแดงนั้นเขาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเรียกร้องทางการเมืองให้รัฐบาลคืนอำนาจให้กับประชาชนด้วยการยุบสภาจัดเลือกตั้งใหม่ เพราะเขาเห็นว่าที่มาของรัฐบาลนี้แม้จะถูกต้องตามระบบรัฐสภาแต่ไม่ถูกต้องตามกติกาประชาธิปไตย เพราะมีตัวช่วยมากมายช่วยกันออกแรงผลักดันด้วยวิธีการต่างๆเพื่อทำคลอดรัฐบาลนี้ เมื่อคนเสื้อแดงมาชุมนุมกันตามรัฐธรรมนูญเขาจึงไม่ผิด หากจะผิดอยู่บ้างก็ตรงที่ชุมนุมปิดกั้นถนน ซึ่งก็เป็นการผิดกฎหมายจราจรธรรมดา แต่วันดีคืนดีรัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินขึ้นมา จากที่ผิดแค่กฎหมายจราจรก็มีความผิดเพิ่มขึ้นมาโดยอัตโนมัติ คือผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั่งอยู่เฉยๆ จากโทษปรับปิดกั้นการจราจรไม่กี่บาท เพิ่มโทษมาเป็นติดคุก 2 ปี ปรับอีก 40,000 บาท หากจะว่ากันตามหลัก รัฐบาลไม่จำเป็นต้องออกกฎหมายนิรโทษกรรมก็ได้ แค่มีนโยบายไม่ไปตามไล่ล่าก็พอ เหมือนกรณีของคนเสื้อเหลืองที่ยึดทำเนียบ ยึดสนามบิน ปิดล้อมสภา รัฐบาลก่อนหน้านี้ไม่เคยไปตามไล่ล่าผู้มาร่วมชุมนุมหรือแกนนำในต่างจังหวัด แม้ความผิดจะร้ายแรง แต่ก็มีรายชื่อผู้ต้องหาที่ถูกแจ้งความเอาผิดเพียงไม่กี่สิบคน ต่างกับคนเสื้อแดงที่มีบัญชีรายชื่อผู้ถูกดำเนินคดียาวเป็นหางว่าว ทั้งแกนนำ ผู้ชุมนุม การ์ด ผู้ที่รัฐบาลคิดว่าสนับสนุนจุนเจือ ถ้าจะปรองดองรัฐบาลต้องปรับวิธีคิดอีกนิด อย่าจมปลักอยู่กับความคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งที่พลาดพลั้ง เพราะแม้แต่เรื่องนิรโทษกรรมความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่รัฐบาลเป็นคนยัดเยียดให้ยังใช้เป็นประเด็นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ตัวเอง ลุกออกจากปลัก (ทางความคิด) แล้วก็จะรู้เองว่าสมานฉันท์ปรองดองควรทำด้วยใจไม่ใช่ปากคอลัมน์ เป็นประชารัฐ จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้ ปีที่ 11 ฉบับที่ 2818 ประจำวัน จันทร์ ที่ 14 มิถุนายน 2010 โดย ลอย ลมบน