WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, June 14, 2010

ปรองดองแค่ลมปาก

ที่มา โลกวันนี้


คอลัมน์
บทบรรณาธิการ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2818 ประจำวัน จันทร์ ที่ 14 มิถุนายน 2010
โดย หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน

ต้องยอมรับว่านายอภิสิทธิ์เป็นนักการเมืองที่สามารถสร้างภาพพจน์ตัวเองได้อย่างเหลือเชื่อ แม้เพิ่งผ่านเรื่องเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง ซึ่งนายอภิสิทธิ์เป็นผู้สั่งการสูงสุดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ศพ และบาดเจ็บเกือบ 2,000 คน

แต่นายอภิสิทธิ์ก็สามารถนั่งบริหารบ้านเมืองเหมือนไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายใดๆ แถมยังมีสำนวนโวหารที่นุ่มนวลและพูดจาฉะฉานชัดเจนว่าเป็นนักการเมืองที่รักประชาธิปไตยและรักประชาชนทุกกลุ่มทุกสี

นายอภิสิทธิ์อ่านจดหมายที่เขียนด้วยลายมือตัวเองเพื่อเชิญชวนให้ร่วมกันปฏิรูปประเทศไทย โดยระบุว่า เหตุการณ์เลวร้ายที่สร้างความสะเทือนใจและบอบช้ำกับประเทศชาติและประชาชนอย่างรุนแรงทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่มาจากการกระทำของคนไทยด้วยกันเองทั้งสิ้น

"วันนี้ประเทศต้องเดินหน้า แต่ความโกรธ ความเคียดแค้นและชิงชังไม่สามารถสร้างอนาคตให้กับประเทศและลูกหลานไทยได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะปรองดอง เพื่อปฏิรูปประเทศไทย รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ สร้างความเสมอภาค สื่อสารถึงกันอย่างสร้างสรรค์ ค้นหาและยอมรับความจริง โดยมีการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย มีประสิทธิภาพและโปร่งใส"

เป็นคำพูดที่สวยหรูและนุ่มนวลจากปากของนายกรัฐมนตรีที่รูปหล่อ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ออกมาสนับสนุน เหมือนครั้งที่นายอภิสิทธิ์เคยประกาศขับเคลื่อนแผนปรองดอง 5 ข้อ ครั้งที่ยื่นข้อเสนอให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน สลายการชุมนุม

สุดท้ายก็จบลงด้วยความรุนแรงและความตาย แต่นายอภิสิทธิ์ก็ยังพร่ำแต่คำว่าปรองดอง แต่อีกด้านหนึ่งก็ยังกล่าวหาใส่ร้ายและจับกุมคนเสื้อแดงและฝ่ายตรงข้าม โดยมี พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือ เช่นเดียวกับการปฏิรูปประเทศครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์พูดชัดเจนว่าจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

การปรองดองและการปฏิรูปประเทศของนายอภิสิทธิ์จึงไม่ต่างกับการ “ขอพื้นที่คืน” และการ “กระชับล้อม” ที่ใช้กับคนเสื้อแดง เพราะเป็นการมัดมือชกให้คนทั้งประเทศต้องยอมรับแผนปรองดองและปฏิรูปของรัฐบาล โดยใช้อำนาจรัฐเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อแก้ปัญหาการเมืองให้กับตนเองและพวกพ้อง

ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งเห็นว่านายอภิสิทธิ์หมดความชอบธรรมที่จะบริหารบ้านเมืองต่อไปแล้ว และต้องแสดงความรับผิดชอบกับการสั่งให้ใช้กำลังจนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย และบาดเจ็บเกือบ 2,000 ราย