หากการกลับมาของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะเข้าไปแย่งพื้นที่ข่าวของใครหลายคนในโฉมหน้าการเมืองไทย นั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่ใช่เหตุบังเอิญอันไร้ที่มาที่ไป เพราะพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯคนเดียวที่เดินเข้าหาประชาชนคนรากหญ้าอย่างที่ไม่มีเคยมีนายกฯคนไหนทำได้ และคิดจะทำมาก่อน การลงไปติดตามถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของประชาชนแบบเข้าถึง เข้าใจ นอนค้างอ้างแรม ได้เห็น ได้สัมผัสกับพี่น้องประชาชนถึงความเป็นอยู่ สิ่งที่ขาด สิ่งที่มีของประชาชน และนำมาบริหารจัดดการเพื่อคนส่วนมากของสังคม ย่อมเป็นยิ่งกว่าการซื้อใจ แต่เป็นการแลกใจของกันและกัน
เกือบสองปีที่ต้องจากบ้านเมืองไปด้วยข้อหาฉกรรจ์ เพื่อนที่รุมล้อมหน้าล้อมหลังลดน้อยลง แต่นั่นก็ช่วยให้ภาพชัดขึ้นว่าใครคือมิตรแท้ ใครคือ มิตรปอกลอก เหมือนที่ท่านทักษิณเคยให้สัมภาษณ์ประชาทรรศน์ว่า มิตรแท้ผมมีไม่กี่คน
ท่ามกลางความวิกฤติ ยากลำบากหลายคนจากไป เพราะขั่วอำนาจเปลี่ยนแปลง บางคนเปลี่ยนเพราะถูกสะกิดให้เลือกข้าง คนเหล่านั้นเป็นผู้ชายออกสามศอกที่ทิ้งเพื่อนในยามยาก บางคนนอกจากทิ้งยังร่วมมือกับฝ่ายตรงข้ามทำลายล้างอย่างไร้น้ำมิตรเป็นที่สุด พฤติกรรมสิ้นลายนักเลงจะกระทำต่อเพื่อน
แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง เธอกล้าประกาศว่า เป็นพวก และยืนข้างคนเสียอำนาจอย่างทักษิณ ในขณะที่หลายคนกลัวเกรงอำนาจจากมือที่มองเห็น และไม่เห็น แสดงความเป็นห่วงเป็นใยอย่างไม่ยี่หระอำนาจใดทั้งสิ้น
ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา ให้สัมภาษณ์ ประชาทรรศน์ รายสัปดาห์ฉบับที่ 58 ประจำวันเสาร์ที่ 8- ศุกร์ที่ 15 มีนาคม พุทธศักราช 2551 ถ้อยคำของเธอซื่อๆ ชัดเจน ไม่แฝงเงื่อนงำทางการเมืองใดๆ เป็นคำพูดที่เข้าใจความยากลำบากที่เธอให้ความเคารพเหมือนพ่อคนหนึ่ง
เมื่อถามถึงผลกระทบที่เธอแสดงตัวว่า อยู่ข้าง อดีตนายกฯ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
“ถ้าถามว่าหวั่นไหวไหม ไม่หวั่นไหว แต่ว่าแบบก็มีเครียดบ้าง เพราะว่ามันก็มีข่าวขึ้นหน้า 1 ตลอด แล้วก็มันเป็นการเข้าใจผิดกันตั้งแต่ตอนแรก แต่ก็ที่ผ่านมาก็เคลียร์กันแล้วก็โอเคจริงๆ แล้วมีเป็นบางสื่อเท่านั้นที่แบบ...ส่วนผลกระทบมันก็มีเยอะ มันทั้งดีด้วยและไม่ดีด้วย อะไรอย่างเนี้ย มันมีทั้งหมด แต่หลังจากที่ออกมาเคลียร์ข่าว ซึ่งเราไม่ได้มีอะไรปิดบังอยู่แล้ว และเราค่อนข้างบริสุทธิ์ใจ มันไม่มีอะไรอะค่ะ เลยคิดว่าเขาจะโจมตีเราอย่างไรเขาโจมตีเราไม่ได้ เพราะว่ามันไม่มีอะไร…ค่อนข้างเป็นข้อใหญ่เลยอะค่ะ ที่เป็นข่าวหน้า 1 ตลอด เพราะว่าถ้าไม่ใช่พ่อคงไม่เป็นข่าวใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเดียไปสนิทกับผู้ใหญ่คนอื่น คงไม่แบบ...อ๋อเป็นเมียน้อย อะไรอย่างเนี้ย มันไม่ใช่อยู่แล้ว คือถ่ายคู่กับคนอื่น ถ่ายคู่กับเฮียฮ้ออย่างเนี้ย เขาจะเขียนเหรอว่าเป็นเมียน้อย อันนี้มันไม่ใช่ คือมันเป็นที่บุคคลด้วย ที่เกี่ยวข้องอะไรอย่างเนี่ย….ที่ประเทศอังกฤษ อยู่ด้วยกันที่โน่น ไปกันหมด ตอนที่ไปเปิดสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอนที่ข่าวออกมาพ่อขำๆ คือมันลงเป็นพาดหัวข่าวเล่นๆ แต่ช่วงหลังมันก็เริ่มแบบว่าทุกวัน เป็นเรื่องใหญ่โต พ่อให้อานพดล (นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ในขณะนี้) ออกมาพูดให้ แต่มีอยู่บางกลุ่มเท่านั้นที่ดูเหมือนว่ายังออกมาโจมตีอยู่ และเหมือนเดียไม่ได้ออกมาเคลียร์ ยังอยู่อังกฤษอยู่ และเพิ่งเดินทางกลับมาก็ยังไม่ได้ออกมาเคลียร์อะไร มันเลยมีการเข้าใจผิดกันในตอนแรก
ลิเดีย ไม่เอ่ยถึงผลกระทบในทางลบเท่านั้น หากผลบวกในด่านอื่นๆ เธอก็เล่าซื่อๆ และชัดเจน
“หนังสือช่วงนั้นมันเหมือนออกมาเคลียร์ และมันเป็นเรื่องของพ่อช่วงหลังปฏิวัติ ซึ่งมันไม่มีใครรู้เกี่ยวกับพ่อ ว่าพ่อไปอยู่ไหน ไปทำอะไร และชีวิตพ่อเป็นอย่างไร ก็เลยแบบอาจจะทำให้คนให้ความสนใจเยอะกับหนังสือของเดีย ยอดขายหนังสือเลยพุ่งค่ะ…พี่ๆ สื่อมวลชนมาเยอะมาก แล้วลงหน้า 1 คือต้องรู้อยู่แล้วว่ามีหนังสื่อตัวนี้ออกมา แต่ว่าจะได้อ่านไหม อันนี้เดียไม่ทราบเหมือนกัน แต่ถ้าได้อ่าน คือจะรู้เลยว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ แบบเนี้ย ถ่ายรูปคู่กับทั้งคุณหญิงและตัวคุณทักษิณเอง แบบมันไม่มีอะไร ถ่ายกับครอบครัวเขา ถ้าเดียเป็นเมียน้อยกับเขาจริงๆ จะถ่ายรูปกับครอบครัวเขามันคงไม่ใช่ และพ่อแม่เดียไปอยู่ด้วย พี่น้องเดียไปอะไรอย่างเนี้ย คือคนที่ได้อ่านได้ดูคงเข้าใจอยู่แล้ว แต่คนที่ไม่ได้อ่าน ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไง…”
กรณีที่สื่อบางฉบับอออกมาโจมตีด้วยเรื่องเสียหาย ด้วยเหตุผลทางการเมือง
“เดียรู้สึกว่า โดนผู้ใหญ่รังแกโดยไม่มีเหตุผล อะไรแบบนี้ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เขามีปากกา เราไม่มีปากกา บางครั้งเขาก็เขียนอะไรของเขาได้ แต่ว่าในเมื่อเราออกมาเคลียร์ แบบว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้ ซึ่งมันเป็นสิทธิของคุณที่คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่ว่าเรื่องจริงมันแค่นี้ เราทำได้เท่านี้…ไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกว่าน่าสงสารคนคนเนี้ย คือ ชีวิตนี้คนคนนี้ไม่มีอะไรทำแล้วเหรอ เขียนข่าวด่าคนอื่น แล้วแบบคือเดียไม่เข้าใจว่าเดียไปทำอะไรให้ครอบครัวเขาบาดเจ็บล้มตายหรือเปล่า มันไม่มี แล้วเขามาเขียนว่าเดียอย่างนี้ คือไม่เข้าใจ แล้วด่าถึงพ่อแม่ว่าแบบเอาลูกสาวไปขาย แล้วลงชื่อพ่อแม่และชื่อผู้ใหญ่ที่เดียเคารพหลายท่าน แบบว่าอ๋อ...เนี่ยเป็นพ่อเล้า คือไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้...”
เธอมีมุมมองและความหวังต่อรัฐบาลนี้เพื่อแก้ไขปัญหาของชาติและเศรษฐกิจโดยรวม
“รัฐบาลนี้ดีนะคะ เพราะว่าเป็นประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง แล้วคนเลือกขึ้นมาเป็นรัฐบาล เดีย...หวังว่าจะทำให้เศรษฐกิจบ้านเราเหมือนเดิม ให้ดีขึ้นเหมือนกับตอนก่อนที่จะเกิดการรัฐประหาร”
กับความวุ่นวายที่กำลังก่อเค้าขึ้นอีกจากพันธมิตรฯ เธอให้เหตุผลที่น่าฟังทีเดียว
“ความวุ่นวายมันต้องมีค่ะ เพราะว่าเราไม่สามารถทำให้คนทั้ง 100 คนคิดในสิ่งเดียว เชื่อในสิ่งเดียวได้ หลายๆ คนต้องมีหลายๆ ความคิดอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าความคิดของคนส่วนมาก ถ้าคนส่วนมากเลือกพรรคพลังประชาชนแล้ว ควรที่จะเคารพค่ะ…”
ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา ทั้งภูมิใจและเป็นห่วง อดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เธอเรียกว่าพ่อทุกคำ
“ดีใจมากที่พ่อกลับบ้าน และได้อยู่กับครอบครัว...เดีย...ห่วงอย่างเดียว คือ ห่วงเรื่องความปลอดภัยของพ่อ คือ กลัวเหมือนกับที่ผ่านมา ที่ปากีสถาน นางเบนาซีร์ บุตโต อดีตประธานาธิบดีปากีสถาน ถูกลอบสังหาร กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เพราะก่อนที่จะเกิดการรัฐประหารมีเรื่องคาร์บอมบ์ มีอะไรอย่างนี้ กลัวว่าถ้ากลับมาแล้วจะเกิดอะไรไม่ดีหรือเปล่า เป็นห่วงอยู่เรื่องเดียว เรื่องอื่นไม่เท่าไร…”
หาซื้อบทสัมภาษณ์อย่างหมดเปลือกได้ที่แผงขณะนี้ ตามปกในภาพประกอบนั่นเชียว ให้ไวครับ ก่อนหมดจากแผง