* หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน ฉบับประจำ วันจันทร์ที่ 2 มิถุนายน 2551 จงรัก ภักดีราช รายงานตัวกับทุกท่าน ด้วยอารมณ์ครื้นเครงเป็นยิ่งนัก เมื่อได้ดู การแก้ผ้าล่อนจ้อนของ 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนปล้นประชาธิปไตย
* ตลอดทั้งวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากเจอ เกมเหนือชั้นของ สมัคร สุนทรเวช หลอกให้แสดงอาการของคนปากกล้า ขาสั่น 5 แกนนำพันธมิตรฯ ก็คิดสั้นๆ วางแผนปลุกระดมใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ให้กับตัวเอง เมื่อคิดว่าวาระสุดท้ายมาเยือนถึงตัว นี่น่ะหรือ ผู้นำมวลชน ที่ประกาศกร้าว ยอมอุทิศชีวิตเพื่อปกป้องปวงประชาและประเทศชาติ ถึงคราวจวนตัวก็สำแดงธาตุแท้ให้เห็น ที่แท้ก็หลอกใช้ปวงประชาผู้น่าสงสาร ปกป้องชีวิตตัวเองต่างหาก
* เด็กน้อยบางนายที่อุตริประกาศตัวเป็นแกนนำ แตกตื่นตกใจกับเกมตบโต๊ะของ สมัคร สุนทรเวช ถึงกับทิ้งเวที หนีหน้าหายหัว ตามหาตัวไม่เจอ จนป่านนี้ไม่รู้ เช็ดฉี่เล็ด เช็ดอึเรี่ยราด ในกางเกงตัวเองหมดหรือยัง หากทำความสะอาดเสร็จแล้ว ก็กลับไปสมทบที่เวทีก็แล้วกัน พี่ๆ น้องๆ ร่วมอุดมการณ์ปากกล้า ขาสั่น คงให้อภัยได้ เพราะสูเจ้ายังเยาว์นัก
* ไม่รู้ว่า เฉลิม อยู่บำรุง ไปรับแผนใครมา จึงออกปากเชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ได้ตามสะดวกสบาย แต่ที่แน่ๆ ต้องไม่ใช่แผนเดียวกับ สมัคร สุนทรเวช อย่างแน่นอน และเป็นการยืนยันให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว เฉลิม อยู่บำรุง กับ สมัคร สุนทรเวช ไม่ใช่คนในทีมเดียวกัน ในวาระการแก้ปัญหาการชุมนุมทางการเมือง เพราะจนถึงนาทีนี้ สมัครยังยืนยันห้ามปิดถนนชุมนุมอย่างเด็ดขาด
* จงรัก ภักดีราช เห็นสีหน้าแววตาของ สมัคร สุนทรเวช แล้วเชื่อว่า เจ็บปวดจริงๆ เมื่อพูดว่า “เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องหลบเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น ใช้เส้นทางเสด็จพระราชดำเนินตามปกติไม่ได้ เพราะถนนราชดำเนินถูกยึดเป็นสถานที่ชุมนุม” ไม่รู้ว่าคนไทยคนอื่นๆ ได้ยินแล้วรู้สึกอย่างไร เมื่อ ระบอบกษัตริย์ยังต้องหลีกทางให้ระบอบพันธมิตรฯ และพระราชวงศ์ยังต้องหลบให้กับ 5 แกนนำพันธมิตรฯ
* จำได้ว่า เมื่อครั้ง ทักษิณ ชินวัตร ถูกโค่นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหมาดๆ บรรหาร ศิลปอาชา แสดงความห่วงใยกับอนาคตการเมืองไทยว่า หากปล่อยให้พันธมิตรฯ ทำอะไรได้ตามใจแบบนี้ วันหนึ่งข้างหน้าสังคมไทยจะตกอยู่ใต้ระบอบสนธิ (ลิ้มทองกุล) วันนี้ชัดยิ่งกว่าชัดว่า ระบอบสนธิ ยิ่งใหญ่เพียงใดในประเทศไทย อยู่เหนือกฎหมาย และไม่มีใครกล้าดำเนินการ ทั้งๆ ที่ทำผิดกฎหมายซึ่งหน้า
* ระบอบสนธิยิ่งใหญ่กระทั่งว่า บรรหาร ศิลปอาชา ยังต้องไปร่วมประชุม 4 พรรคร่วมรัฐบาล เพราะ เกรงว่าระบอบสนธิจะล่มสลาย หากว่าตำรวจใช้อำนาจตามกฎหมายเคลียร์ถนนราชดำเนิน คืนเส้นทางเสด็จฯ ให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์ และคืนถนนให้แก่ประชาชน ข้าราชการ และเด็กนักเรียน ได้ใช้สัญจรกันตามปกติ
* ถามแกนนำ 4 พรรคร่วมรัฐบาลสักคำเถิด ที่ไปนั่งประชุมกันในร้านอาหารจีน กดดันนายกรัฐมนตรี ไม่ให้สั่งการตำรวจดำเนินการตามกฎหมายกับม็อบพันธมิตรฯ น่ะ เพราะเห็นชอบกับการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของระบอบสนธิใช่หรือไม่ หากมือไม่ช่วยพายก็อย่าเอาเท้าราน้ำเลย หรือ หากเห็นว่าระบอบสนธิดีกว่าระบอบประชาธิปไตย ก็ถอนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาล ไปยืนอยู่แทบเท้า สนธิ ลิ้มทองกุล คอยรับใช้พวกก่อการร้ายระบอบประชาธิปไตย เลยจะดีไหม
* คืนวันศุกร์ที่ผ่านมา มีคนเห็น หนุ่มใหญ่ชาวใต้ รูปร่างหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงเลขาธิการพรรคการเมือง พรรคหนึ่ง ไปนั่งบัญชาการเกมการเมืองภาคประชาชน ที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง ใกล้เคียงกับเวทีม็อบพันธมิตรฯ หากไม่ใช่วาระสำคัญๆ จริง คงไม่มีใครได้เห็นตัว แต่จำเป็นต้องปรากฏตัวให้ได้เห็น เพราะ มีวาระที่จะต้องมานั่งนับหัวผู้ชุมนุมด้วยตนเอง หลังจากที่จ่ายไปแยะ แต่ผู้ชุมนุมมาไม่เยอะตามที่ตกลงกัน
* หลังจาก 5 แกนนำพันธมิตรฯ เปลี่ยนเป้าหมายการชุมนุม จากต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น ขับไล่รัฐบาล ล้มล้างรัฐบาลในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมาตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ก็ทำให้เข้าใจเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกเสียจากว่ากำลังก่อการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจปกครองประเทศ ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นตามรัฐธรรมนูญ พฤติกรรมเช่นนี้ ขัดรัฐธรรมนูญชัดเจน
* หากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงส่งเสริมเข้าด้วยช่วยเหลือ ส่งสมาชิกเข้าร่วมวางแผน ขึ้นเวทีปราศรัย และสนับสนุนมวลชนเข้าร่วมชุมนุม ก็เท่ากับตอกย้ำว่า ไม่ได้ยึดมั่นระบบรัฐสภาตามที่เคยโอ้อวดไว้ แต่ไพล่ไปยึดระบบการเมืองข้างถนน และหันหลังให้กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แล้วเดินหน้าเข้าใส่ระบอบสนธิ อย่างเต็มตัว เพราะชัวร์แล้วว่า หากยังอยู่กับระบอบประชาธิปไตย และระบบรัฐสภา ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านไปจนตาย
* จงรัก ภักดีราช ขอฝากไปยังพวกที่ยังหวังลมๆ แล้งๆ ว่า ทหารจะปฏิวัติรัฐประหาร หาก 5 แกนนำพันธมิตรฯ ก่อกวนบ้านเมืองจนเป็นเงื่อนไขสุกงอมให้เป็นเหตุได้ ได้โปรดใช้สติปัญญาใคร่ครวญสักนิดว่า นายทหารอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นคนเบาปัญญาถึงขนาดที่จะยอมตนเป็นเครื่องมือของพวก 5 แกนนำพันธมิตรฯ เลยกระนั้นหรือ
* ทุกวันนี้เป็น ผู้บัญชาการทหารบก มีอำนาจครบเครื่อง และมีบารมีแผ่ไปทั่วทุกวงการอยู่แล้ว และยังมีสถานะอยู่เช่นนี้อีกอย่างน้อย 2 ปีเศษ โดยที่ไม่มีใครกล้าท้าทายแย่งชิงเก้าอี้ ตัวนี้ ก่อนเวลาที่กำหนดไว้โดยกฎหมาย และยังมีนายกรัฐมนตรีค้ำประกันให้อีก แล้วจะมีเหตุผลอันใดที่ทำให้ผู้บัญชาการทหารบกพลีกายพลีใจไปร่วมกับพวกนักคิดแนวรัฐประหารอีก ถาม 3 ข้อ 1.ทำแล้วบ้านเมืองได้อะไร? 2.กองทัพได้อะไร? 3.ใครได้ประโยชน์?
* บรรทัดนี้ขอแสดงความเสียใจ เสียดาย ต่อการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีของ จักรภพ เพ็ญแข และขอ แสดงความคารวะต่อการเสียสละอันมีคุณค่ายิ่งต่อการรักษาระบอบประชาธิปไตย ของยอดนักสู้แห่งสังเวียนสนามหลวงคนนี้ ด้วยหัวใจ
หวานเจี๊ยบบบบ
2 hours ago