หลังจาก นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ NBT ในวันเสาร์ที่ผ่านมา ว่าจะไม่ยอมให้การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กีดขวางการจราจร สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่สัญจรไปมา และโรงเรียนตลอดจนชุมชน ในย่านดังกล่าวอีกต่อไป ประกอบกับการตระเตรียมกำลังตำรวจหลายหน่วย ได้ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันของหลายฝ่ายว่าจะมีการสลายการชุมนุมเกิดขึ้นนั้น
แต่เมื่อต่อมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป โดยยืนยันว่าจะไม่มีการใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุม ได้สร้างความผิดหวังให้กับผู้คนจำนวนมาก และกลายเป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง และเป็นประเด็นที่กลุ่มพันธมิตรฯ ถึงกับนำไปกล่าวอ้างเป็นชัยชนะของการชุมนุม
โดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ขึ้นประกาศบนเวทีในตอนเช้าตรู่วันที่ 1 มิถุนายน หลังจากมีการเฝ้าระวังการสลายการชุมนุมตลอดทั้งคืนว่า รุ่งอรุณวันนี้ เป็นชัยชนะของกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมให้มาก
เช่นเดียวกับ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ที่ระบุว่า ไม่ได้ให้ความสนใจกับคำพูดของนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดกลับไปกลับมาในเรื่องการสลายการชุมนุม พร้อมยืนยันจะปักหลักยืดเยื้อต่อไป
เสียความรู้สึกรัฐบาลไม่เด็ดขาด
ซึ่งกรณีดังกล่าว เสียงของประชาชนที่ผิดหวังกับการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ได้ถูกสะท้อนออกมาผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งทางสถานีวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ FM 92.75 MHz ที่ผู้ฟังส่วนใหญ่เป็นคนขับรถแท็กซี่ และขับรถรับจ้าง ผู้ใช้แรงงาน
นายสนอง การะเกด ผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชนคนแท็กซี่ ในช่วงรายการข่าวสารการเมืองและเศรษฐกิจสังคม ในช่วงบ่ายวันจันทร์-วันศุกร์ กล่าวว่าในวันที่ผ่านมาได้มีประชาชนโทร.เข้ามาพูดคุยในรายการเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับกรณีที่นายสมัคร เปลี่ยนใจไม่สลายการชุมนุม โดยบางสายถึงกับระบุว่าในเมื่อรัฐบาลได้ประกาศไปแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะสลายม็อบ ก็สมควรที่จะต้องลาออกแล้วยกประเทศให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะก่อนหน้านี้ประชาชนคาดหวังว่านายกฯ จะจัดการเด็ดขาด
ห่วงไม่ปราบม็อบแล้วจะทำอะไรได้
เพราะถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในช่วงรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจกับการชุมนุม จนเกิดความเสียหายมาแล้ว การที่ตอนแรกออกมาประกาศจะสลายม็อบ ประชาชนถือว่าเด็ดขาด และเชื่อว่ารัฐบาลชุดนี้จะต้องเข้มแข็งและต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ เพราะว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มพันธมิตรฯ
เมื่อนายสมัครออกมาว่าจะสลายม็อบ ประชาชนต่างดีใจ พอไม่เป็นไปตามนั้นประชาชนก็ไม่เข้าใจว่าเหตุผลมันคืออะไร รัฐบาลที่เขาเลือกเข้ามามอบหมายให้ทำงานให้ แต่ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรได้ ประชาชนหลายคนต่างก็คิดอย่างนี้
ทางด้าน น.ส.เมธานี จงประเสริฐ ผู้ดำเนินรายการในช่วงสาระน่ารู้ วันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 12.00-13.00 น. กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า ประชาชนที่โทร.เข้ามาส่วนมากเครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น บอกว่าถ้านายกฯ พูดอะไรต่อไปนี้จะไม่เชื่อแล้ว เพราะรัฐบาลให้ความหวังไว้ว่าจะสลายม็อบ แต่ปรากฏว่าก็ไม่มีอะไร หนังสือก็มาลงว่ารัฐบาลกลับลำ แสดงว่าออกมาเยาะเย้ยรัฐบาลที่ว่า พูดแล้วไม่ทำจริง
แท็กซี่-จยย.มึน!นายกฯไม่กล้า
ทางด้าน ผู้ดำเนินรายการสาวเมืองนนท์ ผู้ดำเนินรายการสรุปข่าวสารรอบสัปดาห์ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 13.00-15.00 น. กล่าวในทำนองเดียวกันว่า ประชาชนต่างให้ความเห็นว่ามีความรู้สึกผิดหวัง ในเมื่อรัฐบาลนายกฯ ออกมาประกาศว่าจะสลายม็อบ ผู้คนต่างดีใจ มีความหวังว่าบ้านเมืองจะสงบสุข แต่ก็ไม่ใช่เพราะว่าเหตุการณ์มันเปลี่ยนไป จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ประชาชนต่างผิดหวัง หมดหวังกับรัฐบาลที่เขาเลือกเข้ามา
“ถ้ารัฐบาลยังคงปล่อยให้คนกลุ่มนี้ยืดเยื้อต่อไปประเทศชาติจะยิ่งเสียหายมากกว่านี้ เพราะว่าประชาชนต่างก็ไม่ยอมกัน ถ้าหากรัฐบาลไม่จัดการอะไร ประชาชนเขาจะรวมตัวกันทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาตรงนี้”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าจากการออกสุ่มถามความคิดเห็นโชเฟอร์รถแท็กซี่หลายคัน และวินจักรยานยนต์ย่านห้วยขวาง ได้รับคำตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ผิดหวังมากที่นายกฯ ไม่ดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ขั้นเด็ดขาด
คนสนามหลวงผิดหวัง “สมัคร”
ขณะที่เวทีสภาสนามหลวง ในคืนวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ผู้ปราศรัยต่างให้กำลังใจประชาชนที่มาร่วมรับฟัง อย่าออกไปเผชิญหน้ากับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยขอติดตามสถานการณ์ที่คาดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งนอกเหนือจากการปราศรัยบนเวทีแล้ว ประชาชนส่วนหนึ่งยังมีการจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ไปพร้อมกันด้วย โดยต่างเชื่อมั่นว่า จะต้องมีการเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะต่อการเข้าจับกุมตัวแกนนำของกลุ่มพันธมิตรฯ
อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไป หลายคนได้เริ่มหันมาวิจารณ์รัฐบาล ส่วนใหญ่ระบุว่าท้อแท้ต่อการไม่ดำเนินการจริงจังกับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งตลอดทั้งคืนได้ขึ้นกล่าวปราศรัยพาดพิงรัฐบาลอย่างตอเนื่อง เช่น มองว่ารัฐบาลไม่กล้าสลายการชุมนุม เป็นรัฐบาลหน่อมแน้ม และบางกลุ่มยังหารือกันถึงขั้นอาจต้องรวมกลุ่มประชาชนออกไปขับไล่กันเองก็มี ซึ่งท้ายสุดเมื่อ นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ประธานสภาสนามหลวง กล่าวยุติการปราศรัย เป็นที่น่าสังเกตได้ทันทีว่า ประชาชนที่มาชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ต่างก็อยู่ในอาการและอารมณ์ที่ผิดหวังต่อรัฐบาลอย่างเห็นได้ชัด
“ถ้ารัฐบาลอ่อนข้อให้พันธมิตรฯ แบบนี้ ก็จะยิ่งทำให้พันธมิตรฯ ได้ใจ และก็ไม่เข้าใจว่ารัฐบาลกลัวอะไรกับพันธมิตรฯ หนักหนา ทั้งที่การกระทำของพันธมิตรฯ ผิดกฎหมาย อย่างนี้ถ้าพวกเราก็จัดชุมนุมปิดกั้นการจราจรได้เช่นเดียวกันบ้าง” ผู้ร่วมชุมนุมผู้หนึ่งกล่าวในวงสนทนา
ขณะที่ผู้เข้าร่วมชุมนุมอีกคนหนึ่ง ระบุว่า “ตอนที่ นปก. จัดชุมนุมหรือเดินขบวน เราจะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอด และจะคอยป้องกันไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน เช่น การปักหลักปิดกั้นการจราจรเราก็ไม่ทำ แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ทำได้โดยรัฐบาลที่เราเลือกมากลับไม่ดำเนินการ”
ระดมแสนคนต้านพันธมิตรฯ
ด้านนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ในฐานะกลุ่มมหาประชาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย กล่าวว่า กลุ่มมหาประชาชนทราบข้อมูลมาว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมีการตั้งหน่วยบัญชาการที่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส เพื่อโค่นล้มรัฐบาล
ทั้งนี้ กลุ่มมหาประชาชนจะติดตามสถานการณ์จนถึงวันที่ 2 มิถุนายนนี้ หากรัฐบาลยังไม่ใช้มาตราการทางกฎหมายจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่เกินวันที่ 4 มิถุนายนนี้ กลุ่มมหาประชาชนและเครือข่ายทั่วประเทศกว่าแสนคน จะมาชุมนุมปิดถนนตั้งแต่โรงแรมรัตนโกสินทร์จนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อย่างแน่นอน เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ กลุ่มมหาประชาชนได้เรียกประชุมแกนนำทุกภาคเป็นการด่วน เพื่อหารือถึงสถานการณ์ ซึ่งขณะนี้ได้รับการตอบรับจากเครือข่ายทั่วประเทศว่ามีความพร้อมที่จะมุ่งหน้าสู่ กทม. เพื่อชุมนุมใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พระภิกษุสงฆ์ จะมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ วันนี้อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดแล้ว
ชี้ม็อบพันธมิตรส่อผิด ม.113
ด้านนายแพทย์เหวง โตจิราการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 หรือ คปพร. กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่าเป็นสิทธิที่สามารถชุมนุมหรือเดินขบวนได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญได้รับรองไว้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการรวบรวมรายชื่อเสนอถอดถอน ส.ส. และ ส.ว. มีสิทธิโดยชอบธรรม แต่อย่างไรก็ตาม การยกระดับขับไล่รัฐบาลนั้น เห็นว่าจะเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญเพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 68 บุคคลหรือกลุ่มบุคคลไม่สามารถที่จะใช้สิทธิเสรีภาพในการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และน่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญามาตรา 113 ด้วย คือใช้กำลังประทุษร้ายโค่นอำนาจบริหารและทำให้อำนาจบริหารไม่สามารถเดินต่อไปได้ เพราะฉะนั้นความชอบธรรมจึงได้หมดไป
อย่างไรก็ตาม นพ.เหวง กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะให้มีการย้ายสถานที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลจะใช้ความรุนแรงกับประชาชน ซึ่งรัฐบาลควรใช้วิธีการละมุนละม่อมมากที่สุด
แจ้งข้อหากบฏ 5 แกนนำพันธมิตร
ขณะเดียวกันในวันเดียวกันนี้ นายวรัญชัย โชคชนะ แกนนำกลุ่มต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ให้ดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ 5 คน และ นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ
โดยระบุว่า การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ประกาศจะล้มล้าง และขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถือเป็นการทำผิดกฎหมายที่สำเร็จแล้ว และยังมีการชุมนุมกีดขวางการจราจรที่ถนนราชดำเนินนอก จึงต้องการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแกนนำกลุ่ม ข้อหากีดขวางการจราจร ล้มล้างรัฐบาลในลักษณะที่เป็นกบฏ สร้างความไม่สงบสุขในบ้านเมือง ยุยงส่งเสริม สมคบกันก่อกบฏ และสร้างความปั่นป่วน
นายวรัญชัย ระบุว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่สลายการชุมนุม วันพรุ่งนี้ (2มิ.ย.) ตนจะไปพบผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสอบถามถึงแนวทางการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ ต่อไป
"สมัคร" ยันไม่ได้ขีดเส้นสลายม็อบ
วันเดียวกันนี้ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT ตอนหนึ่งว่า “ผมไม่ได้ขู่จะลุย ขอยืนยันความหมายตามที่ผมได้พูดว่า ที่มาทำที่ตีนสะพานผิดกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการ ส่วนวิธีการจะทำอย่างไร เขาตกลงกันแล้ว ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาล ปล่อยมาแล้ว 7 วัน เขาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินต้องเสด็จฯ ไปทางอื่น นักเรียนก็เดือดร้อน คำว่าสลายไม่ใช่ แต่ตำรวจต้องไปเจรจาความว่าทำตรงนี้ไม่ได้ ขอให้รื้อออกไป
ที่เน้นคือจะใช้โทรทัศน์ทุกช่องด้วยถ้ายอมมาถ่ายให้คนทั่วโลกได้รู้ ขอร้องว่าถนนตรงนี้อยู่ไม่ได้ เขาไม่ได้ตั้งว่าเวลาเท่าไร และการพูดจาจะออกขยายเสียงให้คนทั่วโลกได้รู้ว่าขวางตรงนี้ไม่ได้ ถ้าคุณไม่รื้อ ตำรวจก็ต้องรื้อ ไม่มีการออกไปตบตี หรือจับใครซักคน แต่ทำกันเอง ปลุกระดมกันเอง นักวิชาการก็เฮกันออกมาว่าถ้ารัฐทำเช่นนั้น ก็แพ้ บทเรียนที่ด่ากันในสหประชาชาติ ผมไม่ให้เกิด แต่จะทิ้งต่อไปไม่ได้ หน้าตารัฐบาลไทยไม่เหลือ”
ตำรวจย้ำยึดแนวทางเจรจา
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันยังไม่มีคำสั่งเข้าสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ โดยจะยึดแนวทางเจรจาให้ผู้ชุมนุมเปิดเส้นทางการจราจร ซึ่งยังไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจน โดยยอมรับว่าต้องใช้วิธีถอยคนละก้าวเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง หากมีความจำเป็นต้องสกัดกั้นหากฝ่าฝืนต้องใช้ความละมุนละม่อม ซึ่งขณะนี้ยังควบคุมสถานการณ์ได้
ส่วนการชะลอการใช้ประกาศเจ้าพนักงานเกี่ยวกับปัญหาการจราจรนั้น เพื่อลดเงื่อนไขการยั่วยุ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงตรึงกำลังป้องกันการปะทะระหว่าง 2 กลุ่ม และมือที่สามสร้างสถานการณ์ โดยจะเสริมกำลังตามความเหมาะสม และขอให้ผู้ชุมนุมงดใช้คันธง ไม้ท่อน หรือเหล็กทำร้ายผู้อื่น นอกจากนี้จะมีการปิดการจราจรเพิ่มเติม จากแยกมิสกวันไปยังทำเนียบรัฐบาล เฉพาะช่วงกลางคืน
ผวา!ม็อบย้ายที่ออกหวย
นายวันชัย สุระกุล รักษาการ ผอ.สำนักงานสลากฯ เปิดเผยว่า ในการออกรางวัลสำนักงานสลากฯ ประจำงวดวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ได้เปลี่ยนแปลงสถานที่ออกรางวัลเป็นที่ สโมสรนายทหารอากาศ บางซื่อ จากเดิมที่เคยออกรางวัลใน ห้องออกรางวัล ที่ถนนราชดำเนิน
เนื่องจากต้องการป้องกันสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันจากการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ ที่ อยู่บริเวณโดยรอบได้ ซึ่งเชื่อว่าการออกรางวัลครั้งนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นแน่ โดยประชาชนที่สนใจยังสามารถเข้าร่วมรับชมการออกรางวัล และสามารถรับฟังการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ได้เหมือนเดิม
“การเปลี่ยนแปลงสถานที่ออกรางวัลได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสลากฯตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคม และเป็นการเตรียมความพร้อมของสำนักงานสลากฯ เท่านั้น ไม่มีใครคาดเดาสถานการณ์ได้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่”