คอลัมน์ : ฮอตสกู๊ป
19 กันยายน 2549 คือวันที่คณะเผด็จการทหารทำการยึดอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน โค่นล้มรัฐบาล ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 แต่งตั้งพวกพ้องของตนเข้าไปเป็นรัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ และออกแบบรัฐธรรมนูญอัปยศที่กลายเป็นยาพิษทำลายระบอบประชาธิปไตยของประชาชนในปัจจุบันนี้
จวบจนวันนี้ 19 กันยายน 2551 ผลพวงและความอัปยศที่เกิดจากการทำรัฐประหาร ภาวะเผด็จการยังคงดำรงอยู่ ยังเป็นเชื้อชั่วไม่ยอมตาย
การปฏิสนธิจากเชื้อชั่วเผด็จการ คือ การเคลื่อนไหวของบรรดาเหล่าพันธมารที่ออกมาเคลื่อนไหวทำลายประเทศชาติอย่างไม่หยุดหย่อน
2 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าเราจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่การกัดเซาะของเหล่าอำมาตย์ผ่านการเคลื่อนไหวของพันธมาร ก็ทำลายความเข้มแข็งของพรรคการเมือง โดยเฉพาะทำลายเสถียรภาพของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
2 ปีที่ผ่านมา กระบวนการยุติธรรม องค์กรที่ทำหน้าที่ตัดสินความขัดแย้งต่างๆ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม ได้บิดเบือนเจตนารมณ์ และหลักการของการทำหน้าที่ด้านความยุติธรรมไป เล่นแร่แปรธาตุ ทำให้ดำเป็นขาว และทำให้นกเป็นไม้ อย่างที่ใครต่อใครซึ่งเฝ้าจับตาดูสถานการณ์ของประเทศไทย พากันอึ้ง ขบขัน และเยาะเย้ยถากถาง
2 ปีที่ผ่านมา รัฐธรรมนูญฉบับลูกป๋าคาบไปป์ แผลงฤทธิ์กัดเซาะทำลายระบบการเมือง และพรรคการเมืองซึ่งเป็นองค์กรค้ำยันระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นระบบที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนกับการมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจรัฐ ตามหลักการประชาธิปไตย
2 ปีที่ผ่านมา เหล่าพันธมารแก๊งข้างถนน ออกมาเพ่นพ่าน อาละวาด และปรับการเคลื่อนไหว จากการใช้มวลชนกดดัน มาเป็นฝูง “โจรโพกผ้า” เหิมเกริมขนาดเข้าบุกยึดสถานที่ราชการ ทำร้ายสื่อมวลชน และเป็นฆาตกรที่ฆ่าได้แม้กระทั่งคนที่ถูกพวกตนรุมกระทืบและล้มไปที่พื้นแล้ว ไม่นับรวมว่า ยังมีมือปืนอีกหลายคนที่เข้าร่วมก่อการสังหาร “คนไทย” ด้วยกันเองในค่ำคืนวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา
เชื้อชั่วที่เป็นผลพวงจากการรัฐประหาร ไม่ยอมตายง่ายๆ
2 ปีที่ผ่านมา ฟากฝั่งประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ต้องสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิต ของวีรชนประชาธิปไตย ไปถึง 2 คน
คนแรกคือ ลุงนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ที่ไม่ยอมก้มหัว และมีชีวิตอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร
คนที่สอง คือ ณรงศักดิ์ กรอบไธสง ที่ออกมาเคลื่อนไหวเพราะรับไม่ได้กับความระยำของเหล่าพันธมารแก๊งข้างถนน
และมีอีกหลายคนที่ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อาการสาหัสจากการถูกยิงและถูกรุมทำร้ายจนถึงวันนี้ โจรโพกผ้ากลุ่มนี้ยังไม่หยุดความกักขฬะ ป่าเถื่อนแต่อย่างใด ล่าสุดได้เข้ารุมทำร้ายผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นต่างจากพันธมิตรฯ
2 ปีที่ผ่านมา หลักนิติรัฐ ถูกเหล่าพันธมารทำลายลงอย่างป่นปี้
2 ปีที่ผ่านมา ฝ่ายประชาธิปไตยได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนส่วนใหญ่ แต่นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ก็มีอายุทำงานได้เพียง 7 เดือน จากความพิกลพิการของสถาบันที่ทำหน้าที่ด้านกระบวนการยุติธรรม จากน้ำมือของตุลาการภิวัตน์ และจากการวางหมากกลทางการเมืองของนักการเมืองที่เสียผลประโยชน์
ถึงวันนี้ครบรอบ 2 ปีของความอัปยศ เรามีนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ชื่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ที่ต่อสู้กับเผด็จการ คมช. จนถึงต้านพันธมาร คาดหวังไว้ว่า ต้องไม่ยอมจำนนก้มหัวให้กับเผด็จการ เหล่าอำมาตย์ และพันธมารโดยเด็ดขาด
เพราะเลือดเนื้อและชีวิต น้ำตา ของประชาชนผู้ต่อสู้กับเผด็จการจาก คมช. สู่พันธมาร ยังคงสูบฉีดอยู่ในหัวใจของประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อพรรคการเมืองที่เขาศรัทธา เพื่อประชาธิปไตยที่เขารัก
นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลชุดใหม่ ควรจะต้องตระหนักและเห็น “หัวใจ” ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย
ต้องเคารพ และจดจำบุญคุณของลุงนวมทอง ไพรวัลย์ และณรงศักดิ์ กรอบไธสง
ต้องไม่จำนน และประนีประนอมกับเผด็จการ เหล่าพันธมาร
เป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งความอัปยศจาก 2 ปีที่ผ่านมา ของการรัฐประหารได้!