WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, September 25, 2008

ขุนศึกเศรษฐกิจ?

ยังไม่นิ่งครับ...ยังไม่นิ่งสำหรับวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ กรณีบริษัท การเงินล้มละลาย และหลายๆแห่งกำลังร่อแร่จนรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องจับมือกับรัฐสภาสหรัฐฯเตรียมฉีดยาเข็มยักษ์ เพื่อเยียวยารักษาด้วยวงเงินก้อนใหญ่ถึง 700,000 ล้านเหรียญ

ผมเขียนไปวันก่อนว่า สถานการณ์ดูเหมือนดีขึ้น...เพราะเพียงวันแรกที่ข่าวรั่ว หุ้นดาวโจนส์กระโจนพรวดเดียวกว่า 400 จุด

วันต่อมาหลังจากประธานาธิบดีบุช พร้อมด้วย รมว.คลัง และประธานธนาคารกลาง ออกมาแถลงยืนยันว่าเอาแน่ หุ้นก็กระโจนต่ออีก 300 กว่าจุด

ที่ไหนได้ ระหว่างหยุดเสาร์-อาทิตย์ รัฐบาลกับรัฐสภากำลังหารือในรายละเอียดว่าจะออกกฎหมายอย่างไร? มีระเบียบปฏิบัติอย่างไร? ทำอะไรได้บ้าง? ทำอะไรไม่ได้บ้าง?

คนอเมริกันคงมีเวลานั่งคิดยาวๆกว่าวันแรกๆ เพราะเป็นวันหยุด...คิดไปคิดมา...ชักจะเกิดอาการผวาเสียแล้วซี

ใช้เงินมากขนาดนี้ แสดงว่าบาดแผลจะต้องใหญ่มากแน่นอน? และถ้ามันใหญ่จน 700,000 ล้านเหรียญ เอาไม่อยู่อะไรจะเกิดขึ้น?

สถานการณ์ด้านการคลังจะเป็นยังไง? ทุกวันนี้ก็เหนื่อยอยู่แล้ว เพิ่ม หนี้ขึ้นมาอีกแบบนี้จะไหวไหม?

ค่าเงินจะเป็นยังไง? สงสัยจะอ่อนลงอีกล่ะซี? แล้วเงินเฟ้อล่ะ...จะพุ่งพรวดอีกไหมเนี่ย? ทุกวันนี้ก็หนักพอควรแล้ว ถ้าเฟ้อขึ้นไปอีกจะไหวหรือ?

ตั้งโจทย์ถามกันไปถามกันมาตลอดเสาร์อาทิตย์ว่าอย่างนั้นเถอะ ดังนั้น พอย่างเข้าวันจันทร์ตลาดหุ้นเปิดปุ๊บก็ได้เรื่องเลย...ร่วงระนาว เฉพาะดาวโจนส์ อย่างเดียวไม่กระโจนแล้วครับ กลายเป็นกระจุยร่วงไป 372 จุด

อะไรไม่อะไร ราคานํ้ามันดิบที่น่าเป็นห่วงมากกว่าเพื่อน เพราะจะมีผลกระทบมาถึงเราโดยตรง...ขึ้นกระฉูดยังกับจรวด พรวดเดียวในวันเดียว 16 เหรียญ 37 เซนต์ต่อ 1 บาร์เรล

เป็นสถิติใหม่ประเภทวันเดียวว่าอย่างนั้นเถอะ...ทำให้ราคานํ้ามันดิบที่ตลาดนิวยอร์กไปอยู่ที่ 120 เหรียญ กับ 92 เซนต์ ซะอีกแล้ว

โธ่! เพิ่งดีใจว่าลดไปหลัก 90 เหรียญกว่าอยู่หลัดๆ

ผมไม่แน่ใจว่าวันอังคาร วันพุธ ต่อมาจะเป็นอย่างไร? (เพราะต้นฉบับผมจะลงตีพิมพ์วันพฤหัสบดี) ท่านผู้อ่านอย่าลืมติดตามด้วยนะครับ

ที่ผมนำเรื่องราวทั้งหมดมาเขียนอีกครั้งก็เพื่อจะติงรัฐบาลไทยที่กำลังจะจัดตั้งกันขึ้นใหม่... ให้ใส่ใจเรื่องนี้ให้มากที่สุด

โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาล ซึ่งผมเชื่อว่าคงจะติดตามอยู่แล้ว ...แต่จะต้องติดตามต่อไปอย่าให้คลาดสายตา

ผมยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่เท่าที่อ่านจากโผในหนังสือพิมพ์เห็นว่าจะเป็น ดร.โอราฬ ไชยประวัติ ในฐานะรองนายกฯฝ่ายเศรษฐกิจ และ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช จากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จะขึ้นว่าการกระทรวงการคลัง

ก็บอกตรงๆรู้สึกหนักใจแทนครับ เพราะ ดร.โอราฬนั้นอายุเกินเกษียณมาหลายปีแล้ว

เท่าที่ผมทราบเกียรติประวัติ...ความรู้ ฝีมือของท่านอยู่ในเกณฑ์ดี ถ้าไม่ใจร้อนออกจากแบงก์ชาติไปอยู่ภาคเอกชนเสียก่อน อนาคตถึงผู้ว่าการฯ หรืออย่างน้อยๆก็รองผู้ว่าการฯแน่นอน

แต่อย่างว่าแหละครับ วันนี้กับวันโน้นมันห่างกันหลายปี...ช่วงนั้นท่าน ยังหนุ่มแน่นฟิตเปรี๊ยะ อะไรๆก็ดูดีไปหมด

เดี๋ยวนี้ไม่ทราบเป็นอย่างไรบ้าง ยังฟิตเหมือนเดิมหรือเปล่า?

สำหรับ ดร.สุชาติ อายุ 50 กว่าๆ ถือว่ายังหนุ่มแน่น

ประวัติการเรียนของท่านแน่นปึ้ก จบตรีเกียรตินิยมจากคณะเศรษฐศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จบโทจากลอนดอนสกูล ออฟอีโคโนมิกส์ ส่วนปริญญาเอกดูเหมือนจะจบจากแคนาดา ถ้าผมจำไม่ผิด

ความรู้แม้จะแน่น แต่ก็มีจุดอ่อนที่ไม่เคยผ่านงานภาคปฏิบัติในสนาม เพราะสอนหนังสือเป็นส่วนใหญ่อาจไปเป็นกรรมการ หรือกรรมาธิการอะไรมากมาย แต่ก็คงไม่เหมือนลงลุยด้วยตัวเอง

สรุปแล้วก็เป็นห่วง...เพราะสถานการณ์มันไม่ง่ายอย่างคิด... โลกเราทุกวันนี้มันทั้งยุ่งยากทั้งซับซ้อนและสับสน ลำพัง 2 ท่านคงเหนื่อยแน่

ต้องพึ่งพาอาศัยเจ้าหน้าที่ประจำ ทั้งจากแบงก์ชาติ จากกระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์เป็นหลัก แต่อย่าลืมเชิญภาคเอกชนเก่งๆมาร่วมด้วย

ต้องแพ็กทีมครับ ถึงจะสู้ไหว จะต้องประสานงาน จะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูล จะต้องไว้วางใจซึ่งกันและกัน

แม้หลายฝ่ายจะบอกว่าศึกครั้งนี้ไกลตัวเรา ไม่เหมือนต้มยำกุ้งที่เกิดในบ้านเราเอง...แต่ก็อย่าวางใจเป็นอันขาด

โลกเราทุกวันนี้มันแคบเหลือเกิน และโรคร้ายๆก็ติดต่อกันง่าย...อยู่คนละทวีป ยังลามถึงกันในชั่วข้ามคืน ที่นี่ล้มที่โน่นซวดเซ เป็นเรื่องธรรมดาๆที่เกิดขึ้นเสมอ

ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดก็คือ...“อย่าประมาท” และ “ระมัดระวัง”...ท่องเอาไว้ด้วยนะครับ ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล.

"ซูม"