คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
รูปโฉมโนมพรรณของคณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างถึงพริกถึงขิง แล้วต้องบอกตามตรงว่า พอไปวัดไปวากับเขาได้พอสมควร แม้จะไม่ถูกต้อง ถูกใจ ทั้งหมดก็ตาม
แต่รัฐมนตรีคณะนี้จะเรียกความเชื่อมั่นเชื่อถือให้ประเทศไทย ทำให้เกิดความเป็นเอกภาพของคนในชาติ แก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนผู้ยากจนข้นแค้นแสนสาหัสได้มากน้อยแค่ไหน “หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน”
จริงอยู่ว่าการจัดคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้อาจจะมีความน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึง เพราะหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ไม่ได้รับรู้รับทราบอะไรด้วยมากมายนัก ลูกพรรค หัวหน้าแถว ต่างจัดสรรกันเอง จึงทำให้พรรคการเมืองเหมือนไม่ใช่พรรคการเมือง พิลึกพิลั่นพอสมควร แต่ด้วยความเก่ง ความเก๋า และความน่าเชื่อถือของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เลยทำให้ผ่านจุดเหล่านี้มาได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาค้างคาใจสำหรับชาวบ้านชาวช่องคือ การนำบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นคดีฉาวโฉ่ในแวดวงการเมือง และวงการยุติธรรม ที่ลงโทษนักการเมืองระดับรัฐมนตรีถึงขั้นติดคุกติดตะราง 15 ปี ไม่มีการรอลงอาญา มาอยู่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลชุดนี้ได้อย่างไร?
นักการเมืองคนนี้เคยมีชื่ออยู่ในคำพิพากษาศาลหน้า 30 อย่างชัดเจนว่า มีส่วนไปเรียกรับเงินรับทองแทนรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าได้เข้าร่วมในกระบวนการทุจริตฉ้อฉล กินสินบาทคาดสินบน ทำให้ราคายาและเวชภัณฑ์สูงขึ้นกว่าท้องตลาด 50-300% ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั่วประเทศ
ทำไมจึงเอา คนที่หากินกับความเดือดร้อนของผู้คนที่ได้รับทุกขเวทนาสาหัสอยู่แล้ว เจ็บ ป่วย ใกล้ตาย เขาถึงจะไปหาหมอ เขาถึงจะไปรับยามารับประทาน แต่กลับมาหากินกับความเจ็บป่วย ความตาย ของประชาชนตาดำๆ แบบนี้อยากจะถามว่าจิตใจของพวกเขาเหล่านี้ทำด้วยอะไร หัวใจสีแดง หรือ สีดำ...ปิ๊ด...ปี๋ โหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ไหม
แบบนี้ยังจะเอาเข้ามาเป็นรัฐมนตรีให้แปดเปื้อน?
แบบนี้ยังจะเอาเข้ามาเป็นรัฐมนตรีให้ลดความน่าเชื่อถือไปได้อย่างไร?
ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ต้องยอมเสี่ยง...ยอมถูกต่อว่า...ยอมถูกเหม็นหน้า...ยอมเป็นหมาหัวเน่า...ในการเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง!!! คัดค้านการตั้งคณะรัฐมนตรีคนเดียวนี่แหละ เนื่องเพราะอาจจะมีตำหนิอย่างรุนแรง “นักการเมืองป้ายดำ” โดยกระชากหน้ากาก เอาคนที่มีส่วนพัวพันกับการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ออกไปจากวงการการเมืองไทยให้จงได้
ปฏิเสธไม่ได้ นักการเมืองพัวพันทุจริตยา ที่จะเปลี่ยนสถานะสูงส่งขึ้นเป็น...“รัฐมนตรีพัวพันทุจริตยา”...มาจากโควตากลุ่มอีสานพัฒนา ซึ่งไปควบรวมเอากับกลุ่ม กทม. อดีตนักการเมืองหญิงผู้ทรงอิทธิพล ได้ภูมิใจเสนอ ทั้งที่ตัวเองโดนแจ้งความ ม.157 เว้นหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เพราะไม่ยอมดำเนินการสอบสวนลงโทษ ขุดรากถอนโคนขบวนการทุจริตยาให้สิ้นซาก ไม่รู้ตอนนั้นได้รับผลประโยชน์อะไรเข้าไปด้วย
กระทรวงบำบัดทุกข์บำรุงสุข ต้องมาแปดเปื้อนกับคนชั่วๆ เคยหากินบนความเดือดร้อนของคนเจ็บไข้ได้ป่วย คราวนี้จะมาหากินกับความเดือดร้อนของผู้คนแบบไหนอีกเล่า? น่าสมเพช อัปยศอดสูแทนซะจริงๆ