คอลัมน์ : ละครชีวิต
มีคนบอกว่าจากนี้ต่อไปคือ “ความสนุก” แต่ผมว่าไม่ใช่ความสนุกแล้วกระมัง เพราะนอกจากจะสู้กับ “เผด็จการ” แล้วยังอับอายขายขี้หน้า “ความอัปลักษณ์” ในหน้าตา ครม. ที่มี “รัฐมนตรีขี้โกง” บางคนเข้าร่วม “ครม.สมชาย 1” ด้วย
แม้ภาพรวมจะดู “โอเค” แต่เมื่อมีรัฐมนตรีเพียงแค่คนเดียวที่พัวพันคดีทุจริตยา คดีโกงอันลือลันสนั่นเมือง ก็เข้าคำโบร่ำโบราณที่สั่งสอนไว้ว่า "ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นหมดทั้งข้อง"
ตรงนี้แหละที่บอกว่า “ไม่สนุก” เพราะประชาชนก็สับสนว่าตกลงจะเอาอย่างไรแน่ เพราะจู่ๆ ก็มาฟัดกันเองซะแล้ว
ก็ต้องอธิบายกันไปตรงๆ ว่าเราสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ส่งเสริมประชาธิปไตย ต่อสู้กับเผด็จการ และขับไล่พันธมิตรฯ ให้ออกจากทำเนียบรัฐบาล
แต่นาทีนี้ต้องว่ากันด้วย “ขี้โกง” ก่อน เพราะไม่รู้ว่าหลับหูหลับตาแต่งตั้งขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่มีแผลหวอะหวะขนาดนี้
แบบนี้แสดงว่าไม่ได้แคร์ความรู้สึกประชาชนบ้างเลยใช่ไหม เพราะคดีทุจริตยา 1,400 ล้านบาท ศาลตัดสินให้ นายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงหมอเข้าคุกเข้าตะรางไปเรียบร้อยแล้ว
นายรักเกียรติ โดนศาลตัดสินจำคุก 15 ปี สร้างบรรทัดฐานให้กับนักการเมืองขี้โกงคนอื่นๆ ว่าถ้าประพฤติตนเหมือนนายรักเกียรติก็จะต้องเข้าซังเต ชดใช้กรรมเหมือนกัน
ผู้เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตยาซึ่งมีมากมาย บางคนที่สาวไปถึงตัวก็ได้รับโทษทัณฑ์ แต่บางคนที่รอดพ้นเงื้อมมือไปได้ วันนี้ผมได้รับทราบมาว่าหลายคนเสียชีวิตไปบ้างแล้ว
บางคนยังมีชีวิตอยู่ก็เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนแซ่ไปเป็นอย่างอื่น หรือไม่ก็ขอหลีกเลี่ยงการงานที่จะต้องออกสังคมเพราะอับอายถ้ามีใครรื้อฟื้นคดีโกงอันลือลั่นนี้ขึ้นมาสนทนา
แต่วันนี้ยังมีคนหน้าไม่อาย ตั้ง นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.พรรคพลังประชาชน จังหวัดเลย มานั่งตำแหน่ง รมช.มหาดไทย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกรณีทุจริตจัดซื้อยา และเวชภัณฑ์ ขณะทำหน้าที่เป็นเลขานุการนายรักเกียรติ
คดีนี้ไม่ใช่การใส่ร้ายป้ายสี เพราะหลักฐานชัดเจน ศาลได้พิพากษาอย่างตรงไปตรงมา แถมการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหลายชุดก็ระบุว่านายปรีชามีส่วนเกี่ยวข้องและต้องได้รับโทษด้วย
แต่ก็ไม่รู้ว่า “โชคดี” ของนายปรีชา หรือ “โชคร้าย” ของประชาชนที่ผู้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนครั้งนั้นคือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมว.สาธารณสุข
ผมยังจำได้ดีว่าช่วงนั้นกระแสสังคมกดดันอย่างหนักให้นำตัวผู้เกี่ยวพันคดีทุจริตยามาลงโทษให้ได้ ทั้งนักการเมือง และ ข้าราชการประจำ
คุณหญิงสุดารัตน์ ตอนนั้นก็ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทางเอาเรื่อง แต่น่าเสียดายสุดท้ายก็ พยายาม “ตัดตอน” ให้คดีทุจริตยาจบลง
ข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชงเรื่องให้ยกเลิกราคากลางยา ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บริหารระดับสูง บางคนจะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ส่วนบางคนขณะนี้นั่งเก้าอี้อธิบดีอยู่
วันนี้ชัดเจนแล้วครับว่าทำไมเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เจ้ากระทรวงหมอจึงต้องพยายาม “ตัดตอน”นักการเมืองที่พัวพันคดีทุจริตยา
ในเมื่อ ครม.สมชาย 1 มีชื่อ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีตเลขานุการนายรักเกียรติ ดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย
วันนี้ขอประกาศไว้เป็น “บันทึกช่วยจำ” ว่านายรักเกียรติเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความผิดเท่านั้น
แต่ข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และนักการเมืองบางคนที่เกี่ยวข้องยังอยู่ดีมีสุข รวมทั้งบริษัทยาที่ให้สินบนยังไม่ถูกขึ้นบัญชีดำ
หวังว่า ป.ป.ช. ที่มี นายภักดี โพธิศิริ ดำรงตำแหน่ง กรรมการ ป.ป.ช.จะหันมาปัดฝุ่นคดีนี้อีกครั้ง เพราะเป็นกรรมการเพียงคนเดียวที่ทราบข้อมูลทั้งหมด
ฝากบอกนายภักดีด้วยว่า ... อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวลครับ !
ลวดหนาม