อ.นวลน้อย ระบุแม้ว่าคดีทุจริตยาสาสมารถสาวเอาความผิดได้แค่ 2 คน แต่ก็ไม่รู้ว่าหลังฉากยังมีใครเกี่ยวข้องอีกบ้าง กรณี “ปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข” ที่สังคมกังขา ก็ไม่เหมาะอย่างยิ่งที่จะรับตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล
ผศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวย้อนถึงคดีทุจริตยาว่า หลังจากมีการสอบสวนหลายต่อหลายครั้ง ก็ปรากฏชื่อผู้กระทำความผิดเพียง 2 คน ที่ขณะนั้นเอาผิดได้เฉพาะนายจิรายุ จรัสเสถียร ซึ่งเป็นที่ปรึกษานายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต่อมาพบหลักฐานการบันทึกของนายจิรายุเพิ่มเติมว่าเงินที่ได้รับมาได้แบ่งเป็นส่วนของนายรักเกียรติ จึงมาดำเนินคดีกับนายรักเกียรติในเวลาต่อมา
ในขณะนั้นเมื่อศาลตัดสินแล้วเสร็จ ไม่ได้มีการพาดพิงไปถึงนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นเลขาฯ นายรักเกียรติอยู่ ถึงแม้จะเกิดข้อสงสัยในตัวนายปรีชาก็ตาม แต่อย่างไรเรื่องของการโอนเงิน เรียกเงิน จัดงานเชิญส่วนผู้นำการปกครองท้องถิ่นและสาธารณสุขจังหวัด แกนหลักก็มีรายชื่อของนายจิรายุเป็นผู้รับหน้า แต่ลับหลังก็ไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นอย่างไร ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ผ่านมานานมาก อีกทั้งไม่แน่ใจด้วยว่าหากจะรื้อฟื้นคดีใหม่จะต้องใช้ช่องทางใด ถึงแม้ตนเองจะเคยติดตามเรื่องดังกล่าวแต่ก็คงต้องมีการค้นข้อมูลใหม่
ส่วนการที่นายปรีชา ได้ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น หากใช้มาตรฐานที่เคยพัวพันคดีทุจริตยาแล้ว เห็นว่าไม่สมควรนั่งอยู่ตำแหน่งดังกล่าว แต่หลายฝ่ายอาจจะเห็นว่าไม่มีกระบวนการเอาผิด ถือว่ายกประโยชน์ให้จำเลย ถึงอย่างไรโดยมาตรฐานของจริยธรรมแล้ว ก็ไม่สมควรจะตอบรับตำแหน่งทางการเมืองใดๆ
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่โดยมีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ไม่ต้องการจะวิจารณ์ เพราะถือว่าประชาชนได้ให้ความไว้วางใจเลือกมาแล้ว เพื่อความเป็นธรรมก็คงต้องปล่อยให้ทำงานกันไปสักระยะหนึ่ง ต่อจากนี้ต้องรอวิจารณ์ผลงานที่จะเกิดขึ้น
“ดูต่อไปอีกหน่อย แล้วค่อยว่ากัน แม้จะโดยดูประวัติแล้ว โอ้ย ไม่น่าเลย ถ้าพุดกันตามตรง แต่ก็คงต้องปล่อยให้ทำต่อไปอีก อย่างที่เขาว่ากันว่าแบบมาตรฐานไทย” ผศ.ดร.นวลน้อยกล่าว