"เชิญบุคคลที่ 3 ที่เป็นผู้นำทางความคิด/นักวิชาการ ออกรายการวิทยุ/โทรทัศน์ วิเคราะห์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น หากพรรค พปช. ชนะเลือกตั้ง แล้วดำเนินนโยบายที่ประกาศไว้ คือ นิรโทษกรรมกรรมการบริหารพรรค ทรท และยุบ คตส. ว่าหลายฝ่ายคงยอมไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตรที่จะออกมาเคลื่อนไหว และทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง และอาจนำไปสู่ การรัฐประหารครั้งใหม่ เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด"
ข้อความนี้อยู่ในหมวดงาน "สร้างกระแสให้ทุกฝ่ายต่อต้านการกลับมาของกลุ่มอำนาจเก่า ผ่านทางพรรค พปช." โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ "สร้างความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ"
พล.อ.วินัย ภัททิยกุล เลขาธิการ คมช. ซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้เซ็นชื่อในเอกสารลับฉบับนี้ ให้การแก่ กกต. ว่า ยกเลิกคำสั่งไปตั้งแต่วันที่มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งฯ บังคับใช้ แต่ไม่มีเอกสารคำสั่งมาแสดง มีแต่วาจามายืนยันเท่านั้นเอง
เพียงแค่วาจาของทหารใหญ่ 1 คน ที่ไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยัน ก็เพียงพอแล้วต่อความเชื่อถือโดยไม่มีข้อสงสัยของ กกต. ทั้ง 5 ท่าน และหักล้างผลการสอบสวนของกรรมการตรวจสอบ 7 ท่าน ที่มี นายสุพล ยุติธาดา เป็นประธาน ซึ่งเป็นกรรมการที่ กกต. แต่งตั้งขึ้นมาเอง และมีเอกสารหลักฐานประกอบอีกหลายแฟ้มใหญ่ ได้อย่างหมดจด ไม่มีข้อท้วงติงใดๆ
แต่การแถลงข่าวของ "กลุ่มพันธมิตรฯ" ที่นำโดย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา นายพิภพ ธงไชย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา น่าจะเป็นการตบหน้า กกต. ให้หายโง่ หลงเชื่อคนง่ายเสียที และกระชากหน้ากาก พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ให้สังคมและประชาชนได้เห็นว่าจนถึงวันนี้ก็ยังไม่เลิกโกหก
"หากได้พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล หรือร่วมรัฐบาล เราไม่คัดค้าน แต่ไม่ใช่ได้พรรคพลังประชาชนเข้ามาแล้วให้ ส.ส. ของตัวเองเปลี่ยนแปลงกฎหมาย โดยยกเลิกการนิรโทษกรรมกรรมการบริหารพรรคทั้ง 111 คน และยกเลิก คตส. ถ้าเป็นเช่นนี้ ทางพันธมิตรฯ จะไม่หยุดแน่" คือคำประกาศของ พิภพ ธงไชย ที่สอดรับกับแผนการในเอกสารลับอย่างไม่น่าเชื่อ
"มีการหารือระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ เช่น สันติอโศก ผู้ใช้แรงงาน นักวิชาการ เอ็นจีโอ พร้อมจะออกมาชุมนุมอีกครั้ง ถ้ารัฐบาลหลังเลือกตั้ง ไม่ว่าจะนำโดยพรรคพลังประชาชนหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม พยายามที่จะฟอกความผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ครอบครัวและเครือข่าย โดย ยืนยันจะต่อต้านถึงที่สุด นี่เป็นคำประกาศ เป็นคำยืนยันว่าเราจะไม่ให้การเมืองมาอยู่เหนือกระบวนการยุติธรรม เราจะไม่ให้ผลการเลือกตั้งนำไปสู่การฟอกผิดของใครคนใดคนหนึ่ง
ไม่ได้คัดค้านว่าถ้าพรรคพลังประชาชนมาเป็นรัฐบาลแล้วจะชุมนุมเลย ถ้าไม่พยายามฟอกผิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ปกครองบริหารประเทศได้ แต่เมื่อไรก็ตามที่พยายามจะฟอกผิดใคร พันธมิตรฯ หรือคนที่เคยต่อสู้กับพันธมิตรฯ ก็มีสิทธิลุกขึ้นมาต่อต้านได้ตลอดเวลา" สุริยะใส กตะศิลา ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พูดสอดคล้องกับความต้องการของ คมช. ด้วยความบังเอิญอย่างยิ่ง
เป็นอย่างไรล่ะครับ กับคำประกาศเจตนารมณ์ของ "กลุ่มพันธมิตรฯ" ทำไมมันช่างสอดคล้องตรงกันกับแผนลับของ คมช. ขนาดนี้
เมื่อพฤติการณ์ทั้ง 2 ฝ่ายสอดรับกันแบบนี้ จะไม่ให้เชื่อได้อย่างไรว่า "กลุ่มพันธมิตรฯ" กับ คมช. จะไม่ได้รู้เห็นเป็นใจ จะไม่ร่วมมือกันเพื่อสกัดกั้นพรรคพลังประชาชน
คงไม่ต้องถามอีกแล้วว่า แผนการในเอกสารลับเป็นจริงหรือไม่ ในเมื่อมีพฤติกรรมของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นเครื่องยืนยันแล้วในวันนี้
คงไม่ต้องถามอีกแล้วว่า แผนการในเอกสารลับถูกยกเลิกจริงหรือไม่ ในเมื่อกลุ่มพันธมิตรฯ ได้เข้ามารับดำเนินการตามแผนงานแล้ว
คงไม่ต้องถามอีกแล้วว่า คมช. มีความจริงใจกับการคืนประชาธิปไตยหรือไม่ และไม่ต้องถามว่า กกต. เข้าด้วยช่วยเหลือเกื้อกูลเอื้อเฟื้อประโยชน์แก่ คมช. เพื่อให้พ้นจากการกระทำความผิดหรือไม่
ข้อความที่ปรากฏอยู่ในเอกสารลับในหัวข้อนี้ แบ่งการกระทำออกเป็น 2 ระยะ คือ 1.กลุ่มพันธมิตรฯ จะเคลื่อนไหวชุมนุมประท้วง ทำให้ประเทศชาติวุ่นวายขึ้นอีกครั้ง และ 2.นำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด
ขณะนี้การดำเนินการระยะที่ 1 โดยกลุ่มพันธมิตรฯ เริ่มต้นขึ้นแล้ว คือ เริ่มข่มขู่ว่าจะก่อการชุมนุมประท้วงหากพรรคพลังประชาชนชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาล และนิรโทษกรรมให้กับ 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมอยู่ในจำนวนนี้ด้วย และเป็นสิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ยินยอม จะต่อต้านถึงที่สุด
ด้วยคำแถลงเช่นนี้ ภาพเหตุการณ์ความวุ่นวาย บ้านเมืองไม่สงบสุข เหมือน 1 ปีเศษที่ผ่านมาก่อนจะเกิดการรัฐประหาร ก็ลอยขึ้นมาหลอกหลอนประชาชนทั่วประเทศแล้ว
ต้องติดตามดูกันอย่างไม่กะพริบตาว่า การดำเนินการระยะที่ 2 คือ หากกลุ่มพันธมิตรชุมนุมประท้วงแล้วประเทศชาติวุ่นวายอีกครั้ง จะนำไปสู่การรัฐประหารครั้งใหม่ เป็นวงจรที่ไม่สิ้นสุด จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ และเกิดเมื่อใด และใครจะเป็นผู้กระทำ ในเมื่อ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศแล้วว่าจะไม่ทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่งี่เง่าที่สุดในโลก และการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง
สถานการณ์การเมืองในระยะนี้ต้องติดตามกันแบบเกาะติด ใกล้ชิดทุกนาที เพราะ กลุ่มพันธ มิตรฯ ออกโรงมาตามคิวในเอกสารลับของ คมช. แล้ว
แม้จะได้เลือกตั้งแล้วก็อย่าประมาท และอย่าวางใจ เพราะ...
"มันมาตามบทอีกแล้ว"