นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงความปรองดองในการจัดตั้งรัฐบาลว่า ทางพรรคพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกพรรคการเมือง จะมองผลประโยชน์ประเทศชาติ ปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลักโดยทำอย่างเร่งด่วน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องรอง เพื่อให้บ้านเมืองสงบ ลดความขัดแย้ง แต่หากไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและไม่เคารพผลการเลือกตั้ง เชื่อว่าบ้านเมืองก็จะวุ่นวายไม่จบ และขอยืนยันว่าแนวทางนิรโทษกรรม 111 กรรมการบริหารพรรค เป็นเรื่องรอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรค พปช.เป็นรัฐบาลจะทำงานร่วมกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษได้หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า ในส่วนขององคมนตรีส่วนใหญ่จะเป็นงานที่มีกฎหมายรองรับ ทำงานด้วยกันได้อยู่แล้วทุกอย่างมีกฎหมายรองรับหมดไม่ว่าจะเป็นองค์กรไหน
ยืนยันว่าหากพรรคได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งนายสมัคร จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน และต้องพิจารณาว่าพรรคการเมืองใดจะสนับสนุนให้นายสมัครเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง
เมื่อถามว่า ห่วงขั้นตอนการโหวตเลือกนายกฯจะเกิดกรณีงูเห่ารอบ 2 หรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า นักการเมืองอยู่ในที่แจ้ง ก่อนโหวตบอกอย่าง แต่พอถึงเวลาโหวตกลับเป็นอีกอย่าง เพื่อความสะใจของตนแต่ความเป็นมนุษย์จะหายไปหมด ซึ่งมั่นใจว่าพรรคจะไม่มีกลุ่มงูเห่าแน่นอน เพราะได้ต่อสู้กับอำนาจทุกรูปแบบผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน ต่างจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อนหน้านี้ต่อสู้กับเผด็จการรัฐประหารทุกรูปแบบแต่ตอนนี้ความอยากเป็นรัฐบาลมากถึงกับต้องแก้หลักการใหม่
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวยืนยันว่า หากผลการเลือกตั้งวันที่ 23 ธันวาคมนี้ ปรากฏออกมาว่า พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งด้วยเสียงจากประชาชนเกินจำนวนครึ่ง พรรคพลังประชาชนก็จะไม่จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว แต่จะจับมือร่วมกับพรรคการเมืองอื่นเพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะต้องมี 300 เสียงขึ้นไป แต่ขณะนี้พรรคยังไม่ได้พิจารณา หรือหาสูตรในการจับขั้วว่าจะรวมกับพรรคการเมืองไหน