ขอแสดงความยินดีกับพรรคเก่าแก่ ผลคะแนนการเลือกตั้งที่ประกาศออกมา ซึ่งได้ คะแนน ทะลุ 150 ที่นั่งขึ้นไป ถือเป็นตัวเลขที่เป็นประวัติศาสตร์ของพรรค แต่ยังไม่พอที่จะเป็นอันดับ 1 ของตารางในการเลือกตั้งครั้งนี้
การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศไม่ปกติ เงื่อนไขของการเลือกตั้งครั้งนี้ หลายฝ่ายให้ค่า ให้ราคา กับพรรคเก่าแก่ เพราะคิดว่าจะชนะแบบถล่มทลาย ด้วยเงื่อนไขหลายทาง
การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความคลางแคลงใจแต่แรกว่า
1.ผู้มีอำนาจรัฐ จะเข้าด้วยช่วยเหลือ ในการสกัดกั้นพรรคคู่แข่ง
2.ผู้มีอำนาจรัฐ จะเข้าด้วยช่วยเหลือ ในการสั่งเทคะแนนให้
พฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ เพียงใด ยังไม่มีใครพิสูจน์ทราบได้ เพราะพิสูจน์ไปก็ไม่สามารถตรวจสอบอย่างแท้จริงเหมือน กรณีเอกสารลับ ได้
แต่ต้องยอมรับว่า เป็นความคลางแคลงใจ เป็นความไม่เหมาะสม เมื่อประเทศจะต้องเดินหน้าสู่วิถีทางประชาธิปไตย
ล่าสุดมีการ เผยแพร่คลิปฉาวโฉ่ ทาง อินเตอร์เน็ต อันเนื่องจากหน่วยทหารหนึ่ง ที่เรียก ทหาร ชี้นำ สั่งการ เพื่อให้มีการ เลือกหมายเลขหนึ่ง และ อีก 3 เบอร์ ในเขตหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานการณ์ ที่เกิดในเขตเลือกตั้งที่ 1 ระบบสัดส่วน อันประกอบไปด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ และเขตเลือกตั้งหนึ่งในหน่วยทหาร
คลิปนี้ ไม่รู้ใครทำ ไม่รู้ว่าเป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่ เพียงใด?
ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากกองทัพ ว่าจะมีการสอบสวนอะไรมากน้อยเพียงใด นอกจากผู้นำหน่วยทหาร บอกว่า ใครทำก็ผิดกฎหมาย? คำพูดง่ายๆ ที่ตอบกับสังคม
เรื่องนี้คงไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เกี่ยวกับ หัวหน้าพรรค และ กรรมการบริหารพรรค เพราะเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้
แต่เราอยากเห็น ความสง่างามทางการเมือง ของนักการเมือง ที่อ้างว่าเป็น คนหนุ่ม รุ่นใหม่ ไฟแรง และที่สำคัญ รูปร่างหน้าตา หล่อเหลาเกลาเกลี้ยง
มันคงไม่มีคำถามนี้เกิดขึ้น หากไม่มีนักวิชาการใน เครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาสร้างกติกานอกกฎเกณฑ์ โดยอ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์ชนะในเขต กทม. ถือว่าตั้งรัฐบาลได้ ทั้งที่มี ความคลางแคลงใจในผลคะแนน ในเขตนี้พอสมควร
ทั้งที่ที่มาของจำนวนคะแนน มีความน่าเคลือบแคลงใจของ ประชาชน และ สื่อมวลชน ที่ออกข่าวไปทั่วถ้วน
ที่จริง หัวหน้าพรรค หนุ่มไฟแรง คนนี้เป็นคนที่ มีความดีในตัวไม่น้อย
เขาควรจะต้องมี “ตัวช่วย” ซึ่งเป็นอำนาจนอกระบบ นอกวิถีทาง มากมายขนาดนี้ด้วยหรือ
เขาอยู่ในฐานะจะปฏิเสธ “ตัวช่วย” เหล่านี้ได้หรือไม่
“ตัวช่วย” ที่ว่าคงต้องยืมคำว่า “มะม่วงจำบ่ม” มาให้เห็นภาพเหมือนกัน
หากปล่อยให้เป็นธรรมชาติ เป็นไป ตามกฎเกณฑ์ กติกา ปกติ ไม่มีเหตุ ปฏิวัติรัฐประหาร ใครจะไปรู้ ปีนี้ หัวหน้าพรรคการเมืองนั้น อาจจะเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนท่วมท้นในปีนี้ก็เป็นไปได้
นอกจากจะได้คะแนนท่วมท้นแล้ว อาจจะไม่มีคำถามเรื่องความสง่างาม การไม่มีรอยด่างพร้อย ใน ข้อครหา ต่างๆ
เรื่อง นายกรัฐมนตรีพระราชทาน ตามมาตรา 7
เรื่อง การหนีหมายเรียกเกณฑ์ทหาร
เรื่อง “ตัวช่วย” ในการเลือกตั้งครั้งนี้
ประชาธิปไตย ที่อยู่ในครรลองของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน กับนโยบาย ประชาชนต้องมาก่อน ไปด้วยกันได้หรือไม่ เพียงใด
วันนี้พรรคเก่าแก่ต้องทบทวนบทบาททางการเมือง ในการเดินหมากกลที่ซับซ้อนมากขึ้น เพราะประชาชนเขารู้ทันกันหมดแล้ว
บทบรรณาธิการ