'มาร์ค' วอน 'ทักษิณ' กลับไทยอย่าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ห่วง พปช.ไม่พร้อมเป็นรัฐบาล เหตุ 'เลี้ยบ-หมัก' พูดเรื่องนิรโทษกรรม 111 ทรท.คนละทาง ย้ำ ปชป.ยังหวังเป็นรัฐบาล แต่ให้โอกาสพรรคอันดับหนึ่งก่อนตามมารยาท
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงที่ฮ่องกงว่าจะเดินทางกลับมาสู้คดีที่ประเทศไทยก่อนเดือน เม.ย. 2551 หลังพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้งว่า ไม่ควรมีใครไปขัดการ ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้สิทธิ์ในฐานะคนไทยกลับมาและต่อสู้คดี ซึ่งเมื่อทุกอย่างมีข้อเท็จจริงปรากฏแล้วจึงค่อยว่ากัน แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องไม่ชี้นำหรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะจะกลายเป็นว่ารัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นมาไม่ได้มุ่งหมายแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่กลับทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว และไปแก้ในทางที่อาจจะเลยเถิดที่ไม่ถูกต้อง จึงอยากให้ระมัดระวัง
'ทุกพรรคต้องอย่าทำให้กระบวนการของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งต้องเสื่อมเสียอีกและกลับมาใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง เพราะประเทศชาติเจ็บปวดมามาก ดังนั้น ไม่ว่าใครจะจัดตั้งรัฐบาลต้องยึดมั่นในหลักคุณธรรมและจริยธรรม และความถูกต้อง'นายอภิสิทธิ์ กล่าวและว่า ส่วนที่มีการต่อสายจากฮ่องกงไปทางนู้นทางนี้นั้น ตนจึงบอกว่าในช่วงหาเสียงว่าจำเป็นต้องมีผู้นำ มีนายกฯตัวจริง เวลานี้อยู่ที่พรรคพลังประชาชนจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าความวุ่นวายจะมีต่อหรือไม่ ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณยังคงเคลื่อนไหวและกลับมาประเทศ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะเคลื่อนไหวอย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายจะไม่มี ถ้าผู้มีอำนาจในบ้านเมืองยึดถือความถูกต้องและความยุติธรรม และขอให้หัวหน้าทุกพรรคตัดสินใจบนประโยชน์ของประเทศ จึงควรนำข้อมูลต่างๆที่ได้ฟังในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งประกอบการตัดสินใจด้วย
ต่อข้อถามว่าถ้าพรรคพลังประชาชนตั้งรัฐบาลได้ อยากจะบอกอะไรแก่พรรคดังกล่าว หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอให้ยึดประโยชน์ของประชาชน ส่วนการที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ประกาศจะนิรโทษกรรมให้ 111 อดีตกรรมการบริการพรรคไทยรักไทยและยุบ คตส.นั้น ก็ยังสับสนอยู่ เพราะนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน พูดไปคนละทางกับนายสมัคร ทำให้ตนเป็นห่วงความไม่พร้อมของพรรคพลังประชาชน
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมกว่าพรรคพลังประชาชนตรงไหน เมื่อรวมเสียงพรรคเล็กทุกพรรคแล้วเกินครึ่งแค่ 12 เสียง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะเคยมีรัฐบาลผสมที่มีเสียงอย่างนี้และอยู่ได้นานกว่ารัฐบาลพรรคเดียว แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่ที่รัฐบาลทำงานอย่างไร มีความซื้อสัตย์หรือไม่ ดังนั้น ขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง เพราะต้องรอการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.ก่อน และอยู่ที่ว่าพรรคพลังประชาชนดำเนินการไปอย่างไร ซึ่งถ้าเขาตั้งไม่ได้ ก็เป็นความรับผิดชอบของตนที่จะต้องดำเนินการ เพราะที่จริงแล้ว คะแนนส.ส.ระบบสัดส่วนที่ออกมา ปรากฏว่าประชาชนไปลงคะแนนให้พรรคประชาธิปัตย์มากกว่าพรรคพลังประชาชน แต่โดยมารยาท เมื่ออยู่ในระบบรัฐบาล เราใช้เกณฑ์เรื่องที่นั่ง และให้โอกาสพรรคพลังประชาชนจัดตั้งก่อน