WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, December 24, 2007

เล่นแรง!ด่านสกัดหน้าบ้าน‘เนวิน’

ฉาวจนหยาดหยดสุดท้าย วันเลือกตั้งแท้ๆ ยังใช้อำนาจรัฐคุกคามไม่เลิก ที่บุรีรัมย์ หน้าบ้าน เนวินทำพิกล ใช้กำลังทั้งทหาร ตำรวจ ตั้งด่านตรวจค้น แม้กระทั่งคนเข้า-คนออกบ้านพัก ด้าน กกต. ร้าวลึก 4 กกต. รุมอัด สมชัยเตรียมบทล้วงลูก โทษฐานแจกใบเหลือง-ใบแดงน้อบยเกินไป ทำให้ กกต.เสียหน้า สดศรีได้ทีขอล้วงลูกร่วมสอบสวน



แม้สถานการณ์บ้านเมืองจะเดินหน้ามาสู่วันเลือกตั้งแล้วในวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนกำลังเดินทางออกไปสิทธิใช้เสียงตามระบอบประชาธิปไตย แต่ฝ่ายกุมอำนาจรัฐก็ยังคงใช้อำนาจรัฐคุกคามไม่เลิกจนวินาทีสุดท้าย โดยเฉพาะที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่ช่วงเช้า 09.00 น. มีการตั้งด่านตรวจตามถนนสายต่างๆ ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วทั้งจังหวัดอย่างไม่ปกติ และที่พิลึกอย่างยิ่งก็คือการตั้งด่านตรวจที่ อำเภอเมือง ถนนสายประโคนชัย บุรีรัมย์ บริเวณหน้าบ้านพักของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย 1 ใน 111 คนที่ถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองไปแล้วนั้น


โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจกว่า 20 นาย มากกว่าจุดอื่นๆเป็นพิเศษ โดยปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ที่ด่านนี้จะทำการตรวจค้นแม้กระทั่งรถหรือคนที่เดินทางเข้า-ออกบ้านของนายเนวิน นอกเหนือไปจากรถที่สัญจรไปมาตามปกติ


การตั้งด่านดังกล่าว อ้างสาเหตุแบบกำปั่นทุกดินเช่นเคย คือมีทั้งเพื่อป้องกันการขนเงินเข้ามาซื้อเสียง ป้องกันขนคนมาลงคะแนน ป้องกันการลักลอบขนย้ายอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เพื่อก่อเหตุความไม่สงบ ซึ่งเป็นการสร้างความอิดหนาระอาใจให้กับชาวบ้านและผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก ถึงกับกล่าวกันว่า นี่เป็นการใช้อำนาจรัฐที่เกิดขอบเขตหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ทางด้านเจ้าของบ้านคือนายเนวิน มิได้มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด โดยพอถึงช่วงบ่าย นายเนวิน ได้พา นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยา ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.3 สมัย และ ปัจจุบันเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 24 ชุมชนหลังสถานีขนส่งผู้โดยสาร ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์


ทั้งนี้ นายเนวิน ได้ทักทายประชาชนที่มารอลงคะแนนเลือกตั้ง ด้วยหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส แต่ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้ง และไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ไปรอทำข่าว เพียงแต่บอกสั้นๆ ว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนเป็นเพียงประชาชนคนหนึ่งที่พาภรรยามาทำหน้าที่ลงคะแนนตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น


ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ตนได้รับรายงานจากกกต.บุรีรัมย์ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีประชาชนมาใช้สิทธิบางตา เท่าที่สอบถามมีสาเหตุมาจากการที่ กกต.จังหวัด และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้สนธิกำลังกันเข้าตรวจค้น เพื่อป้องกันการทุจริตอย่างเข้มข้นจนทำให้ประชาชนมาใช้น้อยเกินกว่าที่คาดหมาย แต่มาตรการที่เด็ดขาดเหล่านี้ก็ทำให้ การแจกเงินในคืนหมาหอน ทำไม่ได้จนเห็นได้ว่า หมาหอนไม่ดัง


สำหรับกรณีคลิปวิดีโอ การสั่งการให้กำลังพลเลือกพรรคการเมืองหนึ่งของผู้บัญชาการกองพันทหารที่ 1 รักษาพระองค์ ที่กำลังสร้างความอื้อฉาวขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่งนั้น ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้เดินทางมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งที่ 37 แขวงศาลาธรรมศก เขตทวีวัฒนาได้ยืนยันต่อผ฿สื่อข่าวว่า กองทัพไม่มีนโยบายในเรื่องนี้เนื่องจาก กองทัพต้องวางตัวเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นคลิปวีดีโอดังกล่าว แต่ได้มีการสั่งการให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว


พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคลิปวิดีโอดังกล่าวว่า จะต้องตรวจสอบ แต่ยังเร็วเกินไปที่กล่าวโทษกับนายทหารระดับนั้นในเวลานี้


ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศรส.ลต.ตร.) ได้ออกรายงานการร้องเรียนหรือกล่าวหาข้าราชการตำรวจวางตัวไม่เป็นกลาง ในการเลือกตั้งคร้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 22 ธันวาคม พบมีทั้งสิ้น 41 นาย เป็นชั้นสัญญาบัตร 13 นาย ประทวน 26 นาย ซึ่งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบมีมูลตามที่ร้องเรียน 5นาย ไม่มีมูล 31 นาย


นอกจากนี้ รายงานยังระบุด้วยว่า ในจำนวนข้าราชการตำรวจที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วมีมูลทั้ง 5 นาย นั้น มีคำสั่งให้พ้นหน้าที่แล้ว ยังมีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง 3 นายด้วย


สำหรับ กกต.ส่วนกลาง โดยนางสดศรี สัตยธรรม กรรมการ กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง ได้ออกมากล่าวเปิดประเด็นการตำหนิฝ่ายสืบสวนในช่วงเปิดหีบเลือกตั้งว่า กกต.4 คน เห็นตรงกันว่า ควรจะแบ่งงานด้านสืบสวนจากนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนมาดูแล เพราะกกต.ทั้ง 5 คนต้องรับผิดชอบร่วมกัน รวมทั้งอาจมีการสับเปลี่ยนหน้าที่กันทำงานด้วย ถ้ายังไม่ได้ผลก็ควรมาดูว่าควรยุบ กกต. และให้การเลือกตั้งกลับไปอยู่กับมหาดไทยเช่นเดิมหรือไม่


นอกจากนี้ นางสดศรี ยังยอมรับว่า หลังเลือกตั้งจะมีกระแสกดดันให้ กกต.แจกใบเหลือง ใบแดง โดยอาจมีการข่มขู่ กกต.อีก เนื่องจากมีผู้เสียประโยชน์ทางการเมือง โดย กกต.ได้เตรียมแผนงานในการจัดการเลือกตั้งใหม่ไว้ 2 ครั้ง เพราะคิดว่ายังไงก็มีเรื่องตั้งใหม่แน่


นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. แถลงข่าวภายหลังเปิดหีบเลือกตั้งทั่วประเทศ ว่า ในคืนก่อนเลือกต้งมีการแจ้งเหตุทุจริตการเลือกตั้งทั้งหมด 172 เรื่อง เป็นเรื่องการแจกเงิน 147 เรื่อง ร้องเรียนเจ้าหน้าที่วางตัวไม่เป็นกลาง 11 เรื่อง การแจกของ 4 เรื่อง และเรื่องอื่น 10 เรื่อง โดยกลุ่มจังหวัดที่มีเรื่องร้องเรียนมากที่สุดคือกลุ่มที่ 4 ซึ่งป็นกล่มจังหวัดในพื้นที่ภาคอีสานใต้


ส่วนกรณีที่นางสดศรีระบุอาจต้องมีการล้วงลูกฝ่ายสืบสวนฯ หากยังไม่สามารถเอาผิดคนทุจริตได้ว่า ก็มีการคุยกันว่าควรจะปรับปรุงอย่างไรบ้าง แต่ยังไม่ได้มีการคุยกันอย่างพร้อมเพรียง ตอนนี้เห็นแล้วว่างานด้านสืบสวนสอบสวนไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ กกต.ทุกคนตั้งใจทำงาน แต่เวลาได้พิสูจน์แล้วว่าเจ้าหน้าที่คนใดเกียร์ว่าง ทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อการปรับปรุงเราอาจจำเป็นต้องหยิบบางสำนวนมาดูเอง หากจะเรียกว่าเป็นการล้วงลูกก็ได้


สำหรับสาเหตุที่นางสดศรี เปิดประเด็นการขอเข้าร่วมสืบสวนสอบสวนด้วยนั้น มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ในการประชุม กกต.เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมา มีการนำเรื่องความล่าช้าในการให้ใบแดงก่อนการเลือกตั้งมาหารือ โดยเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมาสอบถามถึงความคืบหน้าเป็นรายคดี และให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบชี้แจง โดย กกต.บางคนได้ตั้งเป้าว่าหลังการเลือกตั้งต้องแจกใบเหลืองใบแดงให้มากที่สุด


หลังจากนั้น กกต.ทุกคนได้รุมต่อว่านายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัยว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้การทำงานในการแจกใบแดงล่าช้า


รายงานข่าวระบุด้วยว่าในที่ประชุม นายสมชัยชี้แจงถึงสาเหตุของความล่าช้า และได้ชี้แจงกรณีต่างๆ เช่นเรื่องทุจริตที่มีเข้ามาว่า โดยมากไม่ได้เป็นกรณีของพรรคพลังประชาชน แต่เป็นของพรรคการเมืองอื่น เพราะพรรคพลังประชาชนนั้นถูกบล็อกจากฝ่ายต่างๆ จนแทบจะทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว หลังจากนั้นการประชุมจึงยุติลง ท่ามกลางสีหน้าเคร่งเครียดของ กกต.แต่ละคน


ด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่า ไม่มีความขัดแย้งกับนางสดศรี โดยกระแสข่าวที่ออกมาอาจเป็นเพราะสื่อไม่เข้าใจวิธีการทำงานของกกต. และตนไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงต้องตั้งเป้าก่อนว่าต้องมีใบเหลืองใบแดง


ด้าน นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้คงเป็นไปด้วยดี ส่วนเรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งหากเขตใดไม่มีเรื่องนร้องเรียน กกต.ก็สามารถที่จะประกาศได้ภายใน 7 วันทำการ แต่หากเขตใดมีเรื่องร้องเรียน กกต.จะพิจารณา ซึ่ง กกต.จะเริ่มพิจารณาวันที่ 25 ธ.ค. โดยเชื่อว่าจะสามารถประกาศใบแดงใบเหลืองได้ก่อนที่จะมีการประกาศผล ในส่วนของที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน


ขณะที่นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงความกังวลที่ว่า กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้ไม่ถึงร้อยละ 95 ทันตามกำหนด ว่า การตรวจสอบเรื่องทุจริตต้องดูจะมีเรื่องร้อนเรียนมากน้อยเพียงใด ล่าสุดจนถึงขณะนี้มีรายงานเพียง 20 เรื่อง หากไม่มีเรื่องทุจริตอะไรน่าจะประกาศผลการเลือกตั้งได้ตามกำหนดและเปิดสมัยประชุมสภาได้ภายใน 30 วัน และการประกาศผลคาดว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการได้ ภายในวันที่ 3 ม.ค.โดยในส่วนของ ส.ส.ระบบสัดส่วนน่าจะประกาศได้ก่อนเพราะเป็นส่วนที่ไม่ได้รับรายงานการทุจริต