WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, December 26, 2007

มารยาทประชาธิปัตย์


กาหลิบ

ไหนๆก็ผ่านภาวะเผด็จการสุดขั้วมาแล้ว จนได้ประชาธิปไตยกลับคืนมาระดับหนึ่ง หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ก็ช่วยกันประคองให้วิถีทางประชาธิปไตยมันเดินหน้าต่อสักนิดเถอะครับ รู้ละครับว่าอดอยากปากแห้ง และกระหายใคร่ดีกันขนาดไหน
ถึงผลการเลือกตั้งจะไม่ได้พรรคการเมืองเสียงข้างมากเด็ดขาดขนาดที่จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ แต่ก็ชัดเจนอย่างยิ่งว่าสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลเป็นของพรรคพลังประชาชนที่ได้เสียงเกือบครึ่งสภา และกำลังใช้สิทธินั้นอย่างขะมักเขม้น
พรรคที่ได้รับเสียงอันดับสองลงมาจนถึง 1 ที่นั่งก็ต้องกลั้นใจรอคอยว่าเขาจะส่งเทียบเชิญมาหรือไม่
มารยาทอย่างนี้ไม่ใช่ของใหม่ในเมืองไทย
พรรคการเมืองเก่าแก่อย่างพรรคชาติไทยและพรรคใหม่ในขณะนั้นคือความหวังใหม่ เคยตกอยู่สภาพที่มีเสียงต่างกันเพียง 2 ที่นั่งมาแล้ว ซึ่งกลายเป็นเสียงตัดสินว่าใครคือนายกรัฐมนตรีคนต่อมาในที่สุด
อย่าว่าแต่เสียงห่างกันเกือบร้อยอย่างประชาธิปัตย์กับพลังประชาชนในคราวนี้เลยครับ
ปัญหาคือเสียงจากพรรคอันดับสองอย่างประชาธิปัตย์นั้นออกจะชอบกลอยู่
ท่าทีของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั้นไม่มีอะไรแปลกประหลาด ยังรักษาภาพความขรึมขลังทางการเมืองได้บ้าง แต่คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นั่นเองที่ออกจะแปลกและแปร่งอยู่ไม่น้อย
ไม่ใช่แปร่งเพราะทองแดง แต่ประหลาดในเนื้อหาสาระต่างหาก
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์อย่างขึงขังว่า พรรคพลังประชาชนจะต้องระบุเวลามาให้ชัดเจนว่าจะตั้งรัฐบาลได้ภายในกี่เดือนกี่วัน เพราะถ้าเห็นว่านานเกินไป พรรคประชาธิปัตย์ก็จะตั้งรัฐบาลขึ้นมาแข่งกับพรรคพลังประชาชน
เร่งเร้าเสมือนว่าวิ่งแข่งแพ้เขาแล้วกลับมาตั้งเงื่อนไขว่า ถ้าผู้ชนะเหรียญทองใช้เวลานานเกินไป ผู้ชนะเหรียญเงินก็จะก้าวขึ้นมาสู่แป้นหมายเลขหนึ่ง และรับเหรียญทองไปแทน
ของพรรค์นี้ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยครั้งนักในวงการเมือง ยกเว้นในหมู่คนที่ไม่รู้จักมารยาท
พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก และได้มีสิทธิในการจัดตั้งรัฐบาลก่อนใครนั้น ย่อมหมายความว่าการกำหนดจังหวะจะโคน และนโยบายการจัดตั้งรัฐบาลทุกชนิดจะต้องมาจากพรรคพลังประชาชน ถึงแม้ว่าต้องสดับตรับฟังเสียงที่มาจากทุกสารทิศ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆนั้นจะสามารถสร้างเงื่อนไขในลักษณะบีบบังคับให้พรรคพลังประชาชนต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้
ผู้ให้เป็นไทยแท้ ก็คือเรื่องนี้เป็นกิจการของพรรคพลังประชาชน หาใช่กงการของพรรคประชาธิปัตย์ไม่
คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ จะมีความกระหายใคร่จัดรัฐบาล อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องรอเวลาของตน คือเมื่อพรรคพลังประชาชนล้มเหลวในการจัดตั้งรัฐบาล จะเพราะไม่สามารถประสานจุดยืนทางการเมืองได้ หรือถูกเจาะยางจากผู้หลักผู้ใหญ่คนใดของบ้านเมืองก็ตามแต่
อย่าลืมนะครับว่าการได้รับเสียงข้างมากนั้น แปลว่าพรรคการเมืองที่ได้รับความชอบธรรมดังกล่าว ย่อมสามารถที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง และวางบทบาทของตนเองให้สอดคล้องประสานไปได้อย่างแนบแน่น
พูดง่ายๆก็คือว่า พรรคการเมืองที่ได้รับเสียงน้อยกว่าจะต้องยอมรับถึงการพลิกโฉมหน้าใหม่ทางการเมือง นั่นคือสิทธิในการเป็นรัฐบาลนั้นไม่ได้อยู่ในมือของฝ่ายตน แต่อยู่ในมือของพรรคที่ได้รับเสียงข้างมากนั่นเอง
สื่อมวลชนและนักวิชาการที่รู้มารยาทนี้ก็ควรจะร่วมเรียกร้องอย่างเดียวกัน ไม่ใช่ตั้งเงื่อนไขเหมือนกับว่าไม่ถูกใจตนเองหรือขัดใจตนเองแล้ว ก็ไปขอยืมปากคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ จากพรรคประชาธิปัตย์มารบกวนรังควานกระบวนการที่ควรเป็นของระบบรัฐสภาไทย
บ้านเมืองใดก็ตามที่อยากเป็นอารยะ ย่อมต้องยึดถือว่าจารีตประเพณีและมารยาทมีความสำคัญมากกว่าหรือเท่ากับกฎหมายของบ้านเมืองนั้น
ถ้าคำก็อ้างกฎหมายสองคำก็อ้างกฎหมาย แสดงว่าบ้านเมืองนั้นมีความตื้นเขินจนมาตรการทางสังคมอื่นๆไม่สามารถจะใช้จัดการให้เกิดความเป็นระเบียบทางสังคมได้เลย
ไหนๆก็ผ่านภาวะเผด็จการสุดขั้วมาแล้ว จนได้ประชาธิปไตยกลับคืนมาระดับหนึ่ง หลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ก็ช่วยกันประคองให้วิถีทางประชาธิปไตยมันเดินหน้าต่อสักนิดเถอะครับ
รู้ละครับว่าอดอยากปากแห้งและกระหายใคร่ดีกันขนาดไหน แต่นั่นแหละครับ ถ้าย้อมตนเองด้วยมารยาทสักหน่อยก็จะทำให้ภาพสวยงามเปล่งปลั่งขึ้นอีกเป็นอันมาก
เมื่อหลักของบ้านเมืองล่มสลายในการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 การเลือกตั้งในครั้งนี้ ตลอดจนกระบวนการหลังการเลือกตั้งก็ควรจะเริ่มต้นจัดตั้งประเทศไทยใหม่ให้มีความเป็นรัฐประชาธิปไตย อันควรแก่การเป็นสมาชิกในประชาคมระหว่างประเทศทุกประการ
ส่องกระจกอย่าเห็นแต่หน้าตัวเองสิครับ เห็นแก่บ้านเมืองบ้าง.--จบ-


////////////////////////


คอลัมน์: เลือกคบ ไม่เลือกข้าง...

จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้

จาก hi-thaksin