WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, December 25, 2007

กกต.หยุดคิดสักนิดก่อนแจกใบเหลือง-ใบแดง

ก่อนการหย่อนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งไม่กี่นาที คุณสดศรี สัตยธรรม กกต. ประเภทหญิงเดี่ยว ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวแบบเผาบ้านตัวเองว่า

"กกต. 4 คนเห็นตรงกันว่า ควรจะแบ่งงานด้านสืบสวนจาก นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านสืบสวนสอบสวนมาดูแล เพราะ กกต. ทั้ง 5 คนต้องรับผิดชอบร่วมกัน รวมทั้งอาจมีการสับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่กันทำงานด้วย ถ้ายังไม่ได้ผลก็ควรมาดูว่าควรยุบ กกต. หรือไม่ เมื่อทำไม่ได้ก็ควรยุบไปเสีย ถ้า กกต. ไม่เฉียบขาด เข้มแข็งในการทำงานก็อยู่ไม่ได้ สำหรับ กกต. 5 คน ยินดีจะพิจารณาตัวเองว่าไม่ควรมีองค์กรนี้อยู่ และให้การเลือกตั้งกลับไปอยู่กับมหาดไทยเช่นเดิม"

สาระจากปากคำของ สดศรี สัตยธรรม สะท้อนให้เห็นความขัดแย้งภายใน กกต. อย่างรุนแรง จนยากจะประสานให้กลับเป็นเนื้อเดียวกันได้อีกแล้ว และแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งของ สดศรี สัตยธรรม กกต. ฝ่ายกิจการพรรคการเมืองกับ สมชัย จึงประเสริฐ กกต. ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ชนิดที่ไม่สามารถพูดจากันได้อีกต่อไป จึงต้องมาพูดจากันผ่านสื่อมวลชน ไปให้อีกคนหนึ่งได้ยิน

หลังจากสดศรีเสนอยุบ กกต. เพราะไม่พอใจการทำงานที่ล่าช้าของ สมชัย จึงประเสริฐ ไม่กี่นาทีก็มีคำตอบจาก สมชัย จึงประเสริฐ ผ่านสื่อมวลชนมาถึง สดศรี สัตยธรรม ว่า

"ใครล้วงก็ล้วงไป พูดอย่างนี้เสียหาย คนเขาทำงานอยู่ การบอกว่าต้องแจกใบแดงแน่ พูดให้สะใจแบบนี้ไม่ได้ เพราะพูดไปก่อนจะกลายเป็นเครื่องมือบีบและทำร้ายคนทำงาน"

บรรยากาศการทำงานของ กกต. ที่มีกันอยู่ 5 คน ขณะนี้มีความแปลกแยกจนเรียกได้ว่าเป็นความขัดแย้งและแตกแยกในหลักการและความคิดขั้นพื้นฐานของการวินิจฉัยรับรองผลการเลือกตั้งอย่างรุนแรง และยืนกันคนละขั้วอย่างเห็นได้ชัด

ฝ่ายหนึ่งต้องการแจกใบเหลือง ใบแดง ด้วยความสะใจ แจกไปโดยไม่ต้องรอผลการสอบสวนที่มีข้อมูล พยานหลักฐาน พยานบุคคลประกอบข้อร้องเรียน ข้อกล่าวหา และคงไม่เกินเลยไปนัก หากจะตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความพยายามที่จะแจกเพื่อตอบสนองต่อใบสั่งของใครบางคน ตามที่มีข่าวหนาหูเรื่อยมาตั้งแต่ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งมาจนถึงขณะนี้

ฝ่ายหนึ่งต้องการให้การแจกใบเหลือง ใบแดง เป็นไปด้วยความยุติธรรม โปร่งใส ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ จากผู้ต้องโทษจากใบเหลือง ใบแดง แม้จะมีข้อโต้แย้ง แต่เมื่อเรื่องขึ้นสู่ศาล กกต.จะต้องมีพยานหลักฐานมากพอที่จะทำให้ศาลเห็นด้วยกับมติ กกต. ว่าไม่ได้เป็นการรังแกหรือกลั่นแกล้งใคร หรือเป็นการแจกใบเหลือง ใบแดง ตามใบสั่งของใคร

ฝ่ายหนึ่งเป็นใคร และอีกฝ่ายหนึ่งเป็นใคร คงไม่ยากแก่การคาดเดา หากดูเอาจากพฤติกรรมและคำพูดของแต่ละฝ่าย

หลังการปะทะกันอย่างเปิดเผยผ่านสื่อครั้งนี้ คงจะเป็นที่หนักใจของ กกต. ที่เหลืออยู่อีก 3 คนไม่น้อย และคงจะเป็นที่ลำบากใจของเจ้าหน้าที่ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ที่กำลังทำงานหนัก ทำงานแข่งกับเวลา และตั้งใจทำงานด้วยความสุจริต เพื่อที่จะไม่ถูกฟ้องกลับเช่นเดียวกัน

จริงหรือเท็จไม่รู้ แต่มีเสียงเล่าลือกันหนาหูมาก ว่ามีคนบางคนได้รับใบสั่งมาให้เป็นคนเดินเกมแจกใบเหลือง ใบแดงแก่นักการเมืองที่สังกัดพรรคการเมืองหนึ่ง ไม่น้อยกว่า 10 ใบ แต่อาจจะมากถึง 20 ใบ หากมีความจำเป็น

โดยส่วนตัว ผมไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง เพราะ การจ้องแจกใบเหลือง ใบแดงแก่นักการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งมากขนาดนั้น กกต. แต่ละคนจะต้องตอบคำถามแก่สังคม และจะตกเป็นจำเลยเสียเอง ซึ่งคงไม่มีใครกล้ารับงานตามใบสั่งนี้ หรือถึงแม้จะมีคนกล้ารับงานมาจริง แต่ก็ไม่น่าจะทำสำเร็จ หากว่า กกต. ที่เหลืออีก 4 คนไม่เล่นด้วย

ภายใต้ความขัดแย้งอย่างรุนแรงจนยากประสานที่มีอยู่จริงใน กกต. การไม่ยอมลดราวาศอกให้แก่กันของพรรคการเมือง ทั้งๆ ที่ประชาชนได้ตัดสินแล้วว่าต้องการพรรคการเมืองใดเป็นรัฐบาล และการเผชิญหน้ากันของประชาชนที่ยังแบ่งข้างเป็นสองฝ่ายอยู่ในขณะนี้ หาก กกต. วินิจฉัยแจกใบเหลือง ใบแดงด้วยความสะใจ หรือเพราะรับใบสั่งมาจากใครบางคน จะยิ่งทำให้สถานการณ์ของประเทศไทยหลังการเลือกตั้งไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่จะย่ำแย่หนักลงไปอีก

ด้วยเวลาอันจำกัดที่มีอยู่เพียง 30 วัน กับเรื่องร้องเรียนที่จะเข้ามาอีกไม่น้อยกว่า 1,000 เรื่อง นับจากวันนี้ไป เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ประชาชนเชื่อได้อย่างสนิทใจ ปราศจากข้อเคลือบแคลงสงสัยว่า กกต. พิจารณาวินิจฉัยด้วยความรอบคอบทุกเรื่องทุกประเด็น และตัดสินได้เที่ยงธรรม บนความเป็นอิสระของตัวเอง

การทำงานอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนในระยะเวลาที่เร่งรัด ย่อมจะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ และเสียประโยชน์แก่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งโดยตั้งใจและไม่เจตนา ซึ่ง กกต. แต่ละท่านคร่ำหวอดอยู่ในวงการตุลาการและอัยการมาทั้งชีวิต ย่อมจะรู้ดีกว่าทุกคน

ผมจึงอยากจะเห็น การทำงานของ กกต. ที่คำนึงถึงความเป็นธรรมและความถูกต้อง มากกว่าเงื่อนไขด้านเวลาที่บีบรัด ซึ่งจะทำให้ตัดสินใจผิดพลาด และอาจจะลุกลามกลายเป็นเรื่องใหญ่ เป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติซ้ำเติมประเทศไทยหนักขึ้นไปอีก

ทางออกในขณะนี้จึง ควรให้ศาลทำหน้าที่เป็นผู้วินิจฉัยและตัดสิน มากกว่า ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ 1.ประชาชนพร้อมจะเชื่อและยุติเสมอหากเป็นคำตัดสินของศาล และ 2. กกต. 4 ท่าน เคยเป็นผู้พิพากษา 1 ท่านเป็นรองอัยการสูงสุด คงจะไม่มีเหตุที่จะไม่เชื่อถือคำตัดสินของศาลว่ามีความเป็นอิสระและเที่ยงธรรมสูงกว่าทุกองค์กรที่มีอยู่ในขณะนี้

จึงขอเรียกร้องให้ อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พิจารณาข้อเสนอนี้ เพื่อ เป็นหนทางดับวิกฤติของประเทศไทย ที่อาจจะปะทุขึ้นใหม่จากพฤติกรรมของ กกต. บางคน ที่ประชาชนไม่ไว้วางใจแล้ว ในขณะนี้

เว้นเสียแต่ ท่านจะไม่เชื่อถือความยุติธรรมของศาล