คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดเดียวกันนี้แหละครับ ที่สามารถจะนำประเทศไทยออกจากเงามืดของรัฐธรรมนูญฉบับที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและ ภาวะเผด็จการครอบงำประเทศนี้ได้ ด้วยการปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างชนิดที่ยอมรับความเป็นจริงของโลก
ใครจะมองคณะกรรมการการเลือกตั้งอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ผมเห็นว่าเป็นคนห้าคนที่มีโอกาสพยุงศักดิ์ศรีและเกียรติยศของประเทศที่มีพลเมือง 63 ล้านคนมากที่สุดในขณะนี้
คณะกรรมการการเลือกตั้งขณะนี้มีหน้าที่ในการตั้งตัวเลขฐานในการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เครื่องมือสำคัญก็คือตรวจสอบการเลือกตั้งที่ผ่านมาว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งมากน้อยเพียงใด และในเขตเลือกตั้งใดบ้าง จากนั้นก็จะให้ใบเหลืองและใบแดงไปตามควร
มีการคาดการณ์ว่าใบเหลืองและใบแดงรวมกันอาจจะสูงถึง 30-40 ใบ บางคนก็ว่ามากกว่าหรือน้อยกว่านั้น
แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่สุดหรอกครับ
หัวใจของเรื่องในขณะนี้ก็คือคนทั้งประเทศไทยและทั่วโลกต่างก็ทราบว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้อยู่ภายใต้อิทธิพลชี้นำของระบอบเผด็จการ ถึงไม่ทำโดยตรงอย่างลูกผู้ชายแบบที่เห็นในปากีสถาน แต่ก็มีการแทรกแซงมากเพียงพอที่จะรู้ว่าระบอบประชาธิปไตยอันสมบูรณ์แบบนั้นยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย
มีหลุมพรางที่ขุดล่อให้นักการเมืองและพรรคการเมืองตกลงไปคอหักตายอยู่มากมาย
เพราะเจตนาสำคัญก็คือไม่ต้องการรัฐบาลเลือกตั้งที่จะมีอำนาจอันล้นพ้นและท้าทาย "อำนาจเดิม" ของประเทศไทยได้อีก
ความกลัวรัฐบาลในแบบของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ส่งผลให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้วางรากฐานอยู่บนการแบ่งปันอำนาจระหว่างชนชั้นนำเสียก่อนที่ประชาชนจะมีส่วนในการชี้นำประเทศจริงๆ
รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศที่ประชาธิปไตยถูกทำลายอย่างจงใจเจตนา คนที่เป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งย่อมจะมีฐานะที่ลำบากเสมอ
ลำบากบนเงื่อนไขที่ว่าเป็นคนดี แต่ถ้าหากเป็นคนที่ติดในยศฐาบรรดาศักดิ์และความรู้สึกว่าตนเองอิงแอบกับผู้มีอำนาจจริงก็คงจะไม่รู้สึกอะไรมาก
แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งชุดเดียวกันนี้แหละครับที่สามารถจะนำประเทศไทยออกจากเงามืดของรัฐธรรมนูญฉบับที่ไม่เป็นประชาธิปไตยและภาวะเผด็จการครอบงำประเทศนี้ได้ ด้วยการปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งอย่างชนิดที่ยอมรับความเป็นจริงของโลกไปด้วยพร้อมกัน
การตีความทางกฎหมายมิได้กระทำตามตัวอักษรเท่านั้น แต่ยังนำเอาภาพกว้างของสังคมและจิตวิทยาเข้าไปเกี่ยวข้องอีกด้วย
คนทั้งประเทศและทั่วโลกต่างไม่ไว้วางใจรัฐธรรมนูญที่นำมาสู่การเลือกตั้งในครั้งนี้ ถ้าหากคณะกรรมการการเลือกตั้งเดินตามกฎหมายลูกของรัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างเคร่งครัด โดยไม่มองหรือฟังเสียงข้างทางเลยก็จะนำประเทศไปสู่เป้าหมายที่ผู้เผด็จการเบื้องหลังต้องการตั้งแต่ต้น
พูดง่ายๆก็คือคณะกรรมการการเลือกตั้งกำลังแบกประเทศชาติเอาไว้บนบ่า สามารถจะนำออกจากเงามือเผด็จการก็ได้ หรือนำประเทศไทยถลำลึกลงไปในหลุมดำที่ไม่มีทางออกก็ได้อีกด้วยเช่นกัน
อย่าลืมนะครับว่าอะไรที่เกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้คนอื่นเขารู้หมดแล้ว อย่าว่าแต่ชาวโลกผู้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับประเทศไทยอย่างต่อเนื่องเลย ชาวบ้านไทยแท้ๆขณะนี้ลองแวะไปถามดูสิครับจะได้คำตอบเชิงวิเคราะห์ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะคิดกันได้ถึงขนาดนั้น และที่สำคัญคือจะกล้าพูดออกมาดังๆถึงขนาดนั้น
เงื่อนไขสังคมเปลี่ยนไปขนาดนี้ ขนาดหมูไม่กลัวน้ำร้อน และคณะกรรมการการเลือกตั้งจะมาตั้งตนเองอยู่บนฐานเดิมอย่างไร
การออกใบเหลืองและใบแดงในครั้งนี้จึงจะต้องคิดถึงภาพกว้าง มิใช่คิดถึงกฎหมายตามตัวอักษร และต้องไม่คิดถึงเสียงกระซิบที่คอยชี้นำให้ตนเองเลี้ยวออกจากประชาธิปไตยไปเป็นเดือน
ก็ต้องกลั้นใจรอล่ะครับว่าธาตุแท้ของคนทั้งห้าคนที่เป็นกรรมการการเลือกตั้งในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ส่วนท่านจะขัดแย้งอย่างไรในหมู่ท่านก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะคนเราจะมีความแตกต่างขนาดไหนเป็นการส่วนตัว แต่ถ้าหากสร้างเป้าหมายใหญ่ร่วมกันในการพัฒนาประเทศไปสู่โลกาภิวัตน์และออกจากแอกของเผด็จการก็จะสามารถร่วมใจกันทำงานนั้นได้โดยไม่ต้องคิดถึงตนเองมากจนเกินไป
กรรมการการเลือกตั้งที่ทำงานโดยไม่เห็นแก่ตัว แต่เห็นแก่ประเทศชาติและความรุ่งเรืองในระยะยาวจะรู้ทีเดียวครับว่าควรจะใช้ใบเหลืองและใบแดงเพื่อชาติอย่างไร--จบ-
/////////////////////////////////
คอลัมน์: เลือกคบ ไม่เลือกข้าง
จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้