จ่อร้องศาล รธน.ชี้ไม่ชอบด้วย กม.ขัดหลักนิติธรรม
ทีมกฏหมายพลังประชาชน เปิดเกมล้มกระดาน 'คตส.' ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัย คตส.ขอบด้วยกฎหมายหรือไม่ มั่นใจขัดต่อหลักพื้นฐานกระ บวนการนิติธรรมนิติรัฐ อ้างเหมือนยุค 'รสช.' ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขณะที่ 'โฆษกคตส.' ออกโรงโต้ทันควัน ยืนยันเป็นหน่วยงานชอบด้วยรัฐธรรมนูญปี 50 แถมยังทำงานไม่เหมือนคณะกรรมการยึดทรัพย์สมัยรสช.
'นาม' ย้ำชัดเปลี่ยนรัฐบาลไม่มีผลอะไรกับคตส. ล่าสุดยังเดินหน้าไล่บี้คดีจัดซื้อรถดับเพลิงฉาว กทม. 'ทนายหมัก' ยื้อยื่นชื่อพยานหลังปีใหม่ ส่วนคดีสินบนข้ามชาติ ทีมงานททท.เพิ่งเริ่มทำงาน ระบุทำได้แค่รวบรวมข้อมูล ไม่มีสิทธิสอบสวน-ตัดสินความผิด
ที่ทำการพรรคพลังประชาชน นายชูศักดิ์ ศิรินิล ว่าที่ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงการทำงานของ คตส.ว่า เท่าที่ได้ฟังจากทีมกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในการสู้คดี มีประเด็นอยู่ว่าการตรวจสอบของ คตส. ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่
ซึ่งจะต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญในเวลาที่สมควร เนื่องจากการตั้งคตส. นั้นควรจะมีการวินิจฉัยโดยศาล รัฐธรรมนูญว่าชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าขัดต่อหลักพื้นฐานในกระบวนการนิติธรรมนิติรัฐ ในการเลือกปฏิบัติหรือตั้งองค์กรขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดีใดคดีหนึ่งโดยเฉพาะ
'เท่าที่สดับตรับฟังดูเข้าใจว่าทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เตรียมการเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ถ้าเรื่องถึงมือศาล แล้วมีกระบวนการต่าง ๆเริ่มต้น ผมว่าประเด็นเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรม นูญจะมีการยื่นคำร้อง ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะเหมือนกับสมัย รสช.ที่มีคำสั่งให้ยึดทรัพย์ ซึ่งท้ายที่สุดศาลฎีกาวินิจฉัยออกมาว่ากระบวนการ ไม่ชอบด้วย รัฐธรรมนูญ
ทำให้คำสั่งยึดทรัพย์เป็นโมฆะโดยเฉพาะประกาศต่าง ๆ ของ คมช.ที่เกี่ยวเนื่องกับทุกคดีที่มีการกล่าวหา พ.ต.ท. ทักษิณ เราคิดว่าน่าจะมีปัญหาเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญและศาลฎีกาเคยวินิจฉัย ไว้แล้วว่าสิ่งใด ที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ' นายชูศักดิ์ กล่าว
ด้าน นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่ทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมยกปัญหาที่มาของคตส.ไม่ชอบรัฐธรรมนูญเข้าต่อสู้ในชั้นศาลว่า ยืนยันได้ว่า คตส.มีที่มาชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ทั้งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 309
อีกทั้งการทำงานของ คตส.ก็ไม่เหมือนคณะกรรมการยึดทรัพย์ชุด รสช. ที่สั่ง ยึดทรัพย์เลยโดยไม่ผ่านศาล ทำให้ศาลฎีกามีคำวินิจฉัยภายหลังให้คำสั่งยึดทรัพย์มิชอบ แต่การทำงานของ คตส. เป็นเพียงการตั้งกรรมการ สอบคดีต่าง ๆ ไม่ได้ตัดสินยึดทรัพย์หรือชี้ว่าใครผิดแต่จะส่งให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดีการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม.ว่า ในวันที่ 27 ธ.ค.นี้ คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้นัดทนายความของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน 1 ในผู้ถูกกล่าวหาเข้ายื่นรายชื่อพยานบุคคลพร้อมประเด็นที่จะให้คณะอนุกรรมการไต่สวนสอบเพิ่ม
แต่ถ้าทนายความจะขอเลื่อนออกไปอีกก็คงจะไม่ได้เพราะตามระเบียบจะให้เลื่อนได้ไม่เกิน 15 วัน และต้องมีเหตุผลควรเชื่อด้วย ทั้งนี้จากการอ่านคำชี้แจงของนายสมัคร อ้างเหตุผลหนึ่งว่าทำตามคำสั่ง ของกระทรวงมหาดไทย
'กรณีที่พรรคพลังประชาชนจะยุบ คตส. นั้นก็ดี ผมจะได้ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเครียด หากยุบจริงก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บางทีผมก็รู้สึกเซ็ง ๆ เพราะบรรยา กาศไม่ค่อยดีมันทำให้ไม่ค่อยกระฉับกระเฉง แต่ก็ไม่รู้สึกกลัวอะไรยังคงมุ่งหน้าทำงานตามปกติ การเปลี่ยนรัฐบาลไม่มีผลอะไรกับ คตส.'
ด้าน นายสมหมาย กู้ทรัพย์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากนายสมัคร ให้ดูแลคดีรถดับเพลิง เปิดเผยว่า เบื้องต้นทีมทนายอาจจะเข้ายื่นหนังสือต่อ คตส. เพื่อขอเลื่อนการส่งรายชื่อและประเด็นกลุ่มแรกที่จะให้ คตส.สอบเพิ่มเติมไปในช่วงหลังปีใหม่ เนื่องจากในช่วงใกล้ปีใหม่มีวันหยุดหลายวันทำให้ยากต่อการติดต่อบุคคลต่าง ๆ จากการประสานพยานบุคคลเบื้องต้นได้ให้การตอบรับว่าพร้อมให้ความร่วมมือแต่ต้องพูดคุยกันเพิ่มเติมก่อน
ส่วนที่โรงเรียนนายเรืออากาศ พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. กล่าวถึงการทำงานของคตส.ว่า คตส.เป็นหน่วยงานที่เราร้องขอให้ทุกท่านมาทำงานตามรัฐธรรมนูญปี 2549 เพื่อให้ เกิดความเรียบร้อยในบ้านเมือง ทุกท่านคงต้องปฏิบัติตามกฎหมายไม่มีอะไรที่เกินเลย ดังนั้นเมื่อกำหนดให้ คตส.สิ้นสุดการทำงานในเดือนมิ.ย. 51
คือสะสางทุกเรื่องให้เรียบร้อย การยุบคตส.ไม่ใช่จะยุบง่าย ๆ เพราะกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2550 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนมากกว่า 70% ที่ไปลงประชามติให้ผ่าน เพราะหากจะยุบก็ต้องมีเหตุผล และความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม เรื่องที่มีอยู่ คตส. จะส่งไปให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นไปตามระบบศาลยุติธรรม