ได้หายใจเอาบรรยากาศ ประชาธิปไตย เข้าเต็มปอดซะที วันนี้ต้องถือเป็นวันเริ่มต้นชีวิตใหม่ของ ชาวประชาธิปไตย หลังจากได้ ส.ส.ใหม่ก็จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่คนที่ 25 แล้วก็ได้รัฐบาลใหม่ และมีนาคมปีหน้าก็จะได้ ส.ว.ใหม่
เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ
มีเงื่อนปมตรงไหนก็ค่อยๆช่วยกันแก้ เชื่อว่าประเทศไทยจะเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง สำคัญอยู่ที่ว่า ทุกคนจะต้องยึดกฎเกณฑ์กติกาอย่างเคร่งครัด
เลิกทะเลาะกันซะที
ผมก็เบื่อ คนไทยก็เบื่อ เผลอๆนักการเมืองเองก็เบื่อ ทะเลาะกันแล้วไม่ได้อะไร มีแต่ความหายนะมาเยือน ในพริบตาเดียวเท่านั้นเราถูกมองจากชาวโลกด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ
ผมเองก็ต้องรับสารภาพว่าเสียทั้งสุขภาพจิตและกำลังใจ ยิ่งรู้ข้อมูลมากก็ยิ่งทุกข์ เพียงแต่หวังว่าจะให้เกิดความถูกต้องและเป็นธรรมขึ้นในบ้านเมืองเท่านั้น
ไม่ได้มีอคติคิดร้ายกับบุคคลหรือสถาบันใดเป็นการส่วนตัว
วันนี้ผมขออนุญาตคัดลอกบทความจาก นิตยสารดิอิคอนอมิสต์ ที่ชื่อว่า ภัยทางการเมืองคุกคามทั่วโลก โดยลาซา เคคิค มา ให้อ่านกัน
"ขณะนี้มีสัญญาณว่า สิ่งต่างๆกำลังเปลี่ยนแปลงไป ภัยหรือความเสี่ยงทางการเมืองเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นในสายตาของผู้บริหารธุรกิจระดับสูง มีรายงานการสำรวจความเห็นนักธุรกิจปรากฏว่า ในระยะหลังนักธุรกิจเริ่มให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทางการเมืองมากขึ้นกว่าในอดีต รายงานการสำรวจความเห็นผู้บริหารระดับสูงทั่วโลก จัดทำโดยศูนย์วิจัยข้อมูล Economist Intelligence Unit ความวิตกกังวลจะมีมากในการลงทุนในประเทศที่จัดว่าเป็นตลาดกำลังเกิดใหม่"
"ภัยทางการเมืองในกลุ่มประเทศเหล่านี้ถือเป็นปัจจัยลบที่สำคัญต่อการลงทุนมาก ความเสี่ยงภัยทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการก่อเหตุรุนแรงจากการประท้วง การกีดกันการลงทุนจากต่างประเทศ ความตึงเครียดทางการเมืองในระดับภูมิภาค และความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาลมีมากขึ้น สำหรับประเทศที่ร่ำรวย ความกังวลที่มีเพิ่มขึ้นจากนโยบายการปกป้องธุรกิจในประเทศเพิ่มสูงขึ้น ภัยก่อการร้ายในสหรัฐฯและอังกฤษ ทำไมถึงมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเมืองมากขึ้น คำตอบคือส่วนหนึ่งอาจเป็นจิตวิทยา เป็นภาพสะท้อนทัศนคติที่ไม่ยอมรับความเสี่ยงแบบสุดกู่"
สุดท้ายยังได้จัดลำดับประเทศที่มีความเสี่ยงน้อยไปจนถึงเสี่ยงมาก จากสีเขียวอ่อนไปจนถึงสีดำ ปรากฏว่า ประเทศไทยติดอันดับ สีดำ Very high risk ซึ่งทั่วโลกมีอยู่สิบกว่าประเทศเท่านั้น
นี่กระมัง คงเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ผมเป็นห่วงอนาคตของประเทศอนาคตของลูกหลานที่จะตามมา ถ้าประเทศของเราถูกมองในภาพลักษณ์เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จะทำลายอนาคตประเทศไทยและคนไทยในที่สุด.