WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, March 26, 2008

กลียุค-กาลีบ้าน-กาลีเมือง

เมื่อวานได้ไปนั่งฟังการเสวนาเรื่อง “ทุนนิยมสามานย์กับรัฐตำรวจ” วาดผีหรือเป็นจริง? โดยกลุ่มเพื่อนรัฐธรรมนูญ 40 ร่วมกับ นสพ.ประชาทรรศน์ จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งการจัดเสวนาเพื่อเสริมความรู้ให้กับผู้สนใจ ได้จัดขึ้นสัปดาห์เว้นสัปดาห์ หัวข้อที่จัดเสวนาขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในห้วงเวลานั้นๆ

อย่างเมื่อวันวานได้นำเรื่องที่มีการพูดถึงกันมากในสังคมเวลานี้ว่า ประเทศไทยตกอยู่ในระบบทุนสามานย์ และรัฐบาลชุดนี้กำลังจะรื้อฟื้นรัฐตำรวจขึ้นมา

เพื่อให้เกิดความกระจ่าง จึงได้เชิญ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปัจจุบันเป็นประธานชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ จำกัด เพราะตลอดระยะเวลาที่รับราชการตำรวจ นี่คือ ตำรวจอาชีพตัวจริงเสียงจริง

ผมคลุกคลีอยู่กับตำรวจมาทั้งชีวิต การทำงานสามารถเขียนไปโดยไม่เขินมือเลยว่า หากจะจัดอันดับตำรวจตงฉินสัก 10 อันดับ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ต้องติดอยู่ในจำนวน 10 คนนั้นแน่นอน

พล.ต.อ.อชิรวิทย์ จึงเป็นอาจารย์ที่ตำรวจให้ความเคารพนับถือทั้งต่อหน้าและลับหลัง จนมีการกล่าวติดตลกกันว่า การเป็นตำรวจควรเอาแบบอย่าง พล.ต.อ.อชิรวิทย์ แต่อย่าเอาเยี่ยงอย่าง

นั่นหมายความว่า ควรเอาแบบอย่างในการทำงาน แต่ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างในการปฏิเสธผลประโยชน์ที่ตำรวจโดยทั่วๆ ไปพึงมีพึงได้ ทั้งตามน้ำและทวนน้ำ

ด้วยเหตุนี้แหละครับ ทำให้การพูดของ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ มีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ เพราะท่านไม่ได้เข้าไปอยู่ในวังวนของผลประโยชน์ใดๆ ทำให้ไม่มีแผลใดๆ ให้ใครเปิดโปง

รัฐตำรวจที่ผมเขียนไปเมื่อวาน ก็ได้ฟังจาก พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ว่าไม่มีหรอกรัฐตำรวจ เป็นการกล่าวหาที่ไร้เหตุผล
และ...ที่ต้องย้ำกันไว้ตรงนี้ เพื่อให้ข้าราชการตำรวจที่ถูกปลุกระดมว่ารัฐบาลเข้าไปแทรกแซงองค์กรตำรวจและรังแกตำรวจ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ระบุว่า หลังจากการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ในรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีการเด้ง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แล้วตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ขึ้นมารักษาราชการแทน มีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจกันอุตลุดมากกว่า 7 พันนาย

สาเหตุที่ พล.อ.สุรยุทธ์ อ้างเพื่อให้สังคมมองว่าเป็นความชอบธรรม นั่นคือ ตำรวจไม่สามารถคลี่คลายคดีรอบวางระเบิด 9 จุดในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

วันนี้ พล.ต.อ.โกวิท ได้เกษียณอายุราชการแล้ว คดีระเบิด 9 จุดก็ยังไม่สามารถจับใครได้ และ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ประกาศยุติการสะสางคดีไปเรียบร้อยแล้ว

ผมก็ได้แต่รอว่าเมื่อไร พล.อ.สุรยุทธ์ จะลงมาจากเขายายเที่ยง มาขอโทษ พล.ต.อ.โกวิท สักครั้งก่อนตายจากกัน เพราะขนาดผู้ก่อความไม่สงบในภาคใต้ ท่านยังกล่าวคำขอโทษได้เลย

นับประสาอะไรกับตำรวจน้ำดีจากการประพฤติปฏิบัติตนมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

ไม่มีการสร้างภาพ ทำไมจะขอโทษไม่ได้ ที่ย้ายไปโดยไม่มีความผิด เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของบางคนบางกลุ่มเท่านั้น

นอกจากนั้น พล.ต.อ.อชิรวิทย์ ยังเปิดเผยว่า หลังจากที่มีการทำรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศเรียบร้อยแล้ว ได้มีการย้ายผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และบุรีรัมย์ และผลักดันให้ พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอัมพันธ์กุล เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ตำรวจที่เดินตามหลัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล มาตั้งแต่เป็นผู้ช่วยนายเวรของ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ

ผมเลยถึงบางอ้อ เมื่อทราบชื่อของผู้บังคับการตำรวจภูธรเชียงราย คือ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ น้องใหญ่ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล

ทำให้ต่อจิ๊กซอว์ได้ทันทีถึงที่มาใบแดงของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ในเมื่อผู้บังคับการและรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ที่เป็นหัวขบวนการสอบสวนการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งในจังหวัดเชียงราย เป็นน้องรักของหัวขบวนการของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

มิน่า เมื่อน้องรักคนหนึ่งให้มาช่วยราชการ อีกคนให้กลับไปทำงานที่เดิมที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

คนเป็นพี่จึงต้องระดมพล ออกแถลงการณ์ให้ดูน่ากลัวว่าบ้านเมืองจะเกิดกลียุค เมื่อมีการรื้อฟื้นรัฐตำรวจ

ผมจึงขออนุญาตนำคำพูดของ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ซึ่งพูดไว้ได้ถูกใจผมที่สุดในการเสวนาเมื่อวันวานที่ว่า

“บ้านเมืองจะกลียุคก็มาจากกาลีบ้านกาลีเมือง”


เอกฉัตร