รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แจงเครือข่ายหญิงไทยในยุโรปและชาวไทยในสหราชอาณาจักรไม่ต้องห่วงสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย
การเดินทางเยือนยุโรปอย่างเป็นทางการครั้งแรก ของนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 1-10 มิ.ย.2551 เพื่อกระชับความสัมพันธ์หลังจากมีการระงับไปตั้งแต่มีการปฏิรูปการปกครองเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ที่ผ่านมา ซึ่งเริ่มเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรก โดยนายนพดล และคณะได้เดินทางมาที่วัดไทยพุทธปทีป ณ.กรุงลอนดอน เพื่อกราบนมัสการพระราชภาวนาวิมล เจ้าอาวาสฯ เมื่อเวลา 14.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่วัดจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความรู้กับบุตร หลานของชาวไทยตั้งแต่ชั้นอนุบาล
ไปจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เกิดในสหราชอาณาจักร และชาวต่างประเทศที่มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา โดยมีการสอนให้อ่านและเขียนภาษาไทยให้ถูกต้อง จากนั้น นายนพดล พร้อมด้วยนายกิตติ วะสีนนท์ เอกอัครราชฑูต ณ.กรุงลอนลอนได้เข้าหารือและพบปะกับเครือข่ายหญิงไทยในยุโรป และในสหราชอาณาจักรประมาณ 30 คน นำโดยนางชุมศรี อาร์โนลด์ ประธานชมรมฯ ในโอกาสที่ได้มีการจัดประชุมเครือข่ายหญิงไทยซึ่งจัดการประชุมขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มาจัดที่ กรุงลอนดอน สหรราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม นายนพดล ได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยว่า อยากบอกไปถึงชาวต่างชาติว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแล้ว เราอยากเห็นความปรองดองของชาติ ซึ่งประเทศไทยมีรัฐบาลใหม่ แต่ก็ยังมีกลุ่มพันธมิตร 5 คน ที่ออกมาชุมนุมเคลื่อนขบวนเข้าล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจล็อคเอาไว้ จึงยึดถนนราชดำเนิน ซึ่งพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร อ้างว่าที่ต้องปิดถนนราชดำเนินเพราะถูกเจ้าหน้าที่ล็อคเอาไว้ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นหรือไม่ เพราะนายกรัฐมนตรีเองก็บอกว่าอยากให้ไปชุมนุมที่อื่น ไม่ได้ต้องการสลายการชุมนุม เพราะขนาดเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังต้องเสด็จเลี่ยงเส้นทางไปใช้เส้นทางอื่น ดังนั้นผู้ชุมนุมอยากจะชุมนุมก็ไม่ว่าแต่ขอให้ไปชุมนุมที่อื่น เพราะไม่อยากให้ขวางเส้นทางจราจร เนื่องจากขณะนี้มีหลายประเทศกำลังลังเลที่จะเข้ามาลงทุนในไทย
นายนพดล ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้รัฐบาลกำลังจะทำประชามติ หากประชาชนต้องการให้แก้ก็จะแก้ไข แต่หากไม่ต้องการก็จะไม่แก้ไข อีกทั้งพ,ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้พบกับพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีแล้ว ในงานศพของมารดาผบ.ทบ. ซึ่งทำให้เห็นว่า ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมีความเข้าใจกันมากขึ้น อีกทั้งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แม้จะอายุถึง 72 ปีแล้ว แต่ก็ยังแข็งแรง ทำกับข้าวกินเอง ไปจ่ายตลาดที่อตก.เหมือนเดิม เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ ดังนั้นท่านไม่ต้องเป็นห่วง บ้านเมืองเราไม่มีปัญหา ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานส่งเงินกลับประเทศ และขอให้มั่นใจว่าพวกเราจะดูแลบ้านเมืองอย่างดีให้มีความสงบเรียบร้อย
นายนพดล ยังกล่าวด้วยว่า การเดินทางมาเยือนกลุ่มประเทศยุโรปครั้งนี้ เพื่อต้องการสื่อให้คนไทยนำไปบอกคนต่างประเทศว่า ปัญหาเสถียรภาพของรัฐบาลไทยไม่มีความรุนแรง ยังหาความปรองดองได้ เพื่อที่จะเรียกความมั่นใจให้กับชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน โดยรัฐบาลเคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่ต้องแยกความเห็นต่างทางด้านการเมืองออกจากเสถียรภาพการเมือง ถ้าการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบปราศจากอาวุธจะชุมนุมอีก 10 ปี ก็ไม่เป็นไร แต่กลับมีการปิดถนนประท้วงซึ่งการที่บอกว่ารักประชาธิปไตยก็ต้องปฏิบัติให้เป็นประชาธิปไตยด้วย
ทั้งนี้จากการสอบถามความเห็นของเครือข่ายหญิงไทยที่เข้าพบปะกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพบว่าส่วนใหญ่แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์การเมืองไทย โดยนางจันทร พันธา เจ้าของร้านอาหารอีสานเขียวลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งรู้สึกเป็นห่วงประเทศชาติ และสงสารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงอยากให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้ง และอยากให้มีความสามัคคีกัน อย่าทำร้ายประเทศ
ด้านนายอดิศร พิมมาตร คนไทยที่มาทำงานในสหราชอาณาจักร ระบุว่า ควรเปิดให้รัฐบาลทำงานก่อน เพราะขณะนี้ประเทศถอยหลังไปมากแล้ว ขนาดประเทศเวียดนามก็จะแซงเราไปแล้ว จึงอยากใหคนไทยช่วยกันประคับประคองเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ โดยพร้อมที่จะเอาใจช่วย