นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงแคมเปญหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งว่า แถลงแคมเปญหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งว่า พปช.จะนำเสนอการให้ข้อมูลเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจในช่วงโค้งสุดท้ายหลายรูปแบบ โดยวันที่ 17 ธันวาคม จะทำเป็นโฆษณาลงหนังสือพิมพ์ต่างๆ จนตลอดสัปดาห์ โดยเป็นข้อความ "หมดเวลาทะเลาะกัน เลือกเกินครึ่ง เศรษฐกิจจะฟื้นแน่"
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า เนื้อหาจะแสดงให้เห็นถึง 3 ส่วน คือ 1.หมดเวลาทะเลาะกัน 2.เลือก พปช.เกินครึ่ง และ 3.เศรษฐกิจจะฟื้นแน่ จะทำเป็นกระดาษไปปิดทับป้ายหาเสียงเดิมให้เหมือนกันทั่วประเทศ เพื่อจะบอกกับประชาชนว่าหมดเวลาแล้วที่จะมาทะเลาะกันเอง ขอให้เลือก พปช.มาเกินครึ่ง เพื่อจะบอกว่าวันนี้ประเทศชาติบอบช้ำแล้ว นักการเมือง พรรคการเมืองและทุกๆ คน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหันมาเน้นความสามัคคี และไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันอีก เพราะเป็นหน้าที่ของนักการเมืองทุกคน และทุกพรรคที่จะมาร่วมใจกัน แล้วแต่ละคนทำหน้าที่ บทบาทของตัวเองให้ดีที่สุด ทั้งหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน โดยไม่มุ่งทำลายล้างให้ประเทศชาติบอบช้ำและเสียหายหนักกว่านี้
"ที่เราเน้นว่าให้เลือกเกินครึ่ง เพราะวันนี้เริ่มมีการพูดในลักษณะที่ว่า ถึงแม้จะไม่ได้รับเสียงความไว้วางใจจากประชาชนเป็นอันดับหนึ่ง ก็จะพยายามจับมือรวมๆ กันหลายๆ พรรค เพื่อแย่งกันจัดตั้งรัฐบาล ที่จะทำให้เห็นบรรยากาศเก่า โดยเฉพาะในคืนวันเลือกตั้ง ตอนห้าทุ่มหรือเที่ยงคืน จะมีการแย่งชิงกัน จับกลุ่มคุยเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่เราไม่ได้เห็นมากว่า 10 ปีแล้ว เพราะในภาวะที่มีระบอบประชาธิปไตยที่เอื้ออำนวยให้มีพรรค การเมืองที่เข้มแข็ง มีรัฐบาลเข้มแข็ง เราจะได้เห็นฉันทานุมัติของประชาชนที่ได้มอบให้พรรคการเมืองที่มีเสียงอันดับหนึ่งก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างชัดเจน เปิดเผยไม่ต้องแย่งชิงกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล แต่วันนี้ท่าทีที่ออกมาว่าจะมีการรวมกลุ่มแย่งชิง เป็นท่าทีที่น่าห่วงใย เพราะสุดท้ายการจัดตั้งรัฐบาลจะขึ้นอยู่กับการต่อรองผลประโยชน์ ที่เป็นเก้าอี้ใน ครม." นพ.สุรพงษ์กล่าว
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ถ้าประชาชนต้องการให้ พปช. ไปกู้วิกฤตเศรษฐกิจหนทางเดียวที่จะทำให้ พปช.ทำได้อย่างนั้นก็ต้องเลือกให้เกินครึ่งหรือเกิน 240 เสียง เพื่อจะได้ไม่ต้องไปแย่งชิงในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ พปช. ไม่ได้คิดว่าจะเป็นรัฐบาลเพียงพรรคเดียว เพราะเสถียร ภาพของรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากรัฐบาลเข้มแข็งมีเสถียรภาพ โดยมี ส.ส.สนับสนุนมากเพียงพอ การแก้ปัญหาก็เป็นไปได้ง่ายมากนั้น
นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า ได้พูดตลอดว่า พปช.สามารถร่วมทำงานได้ทุกพรรคที่มีแนวนโยบายที่ทำงานร่วมกันได้ แม้จะเป็นการทำงานต่างบทบาทก็ต้องการที่จะทำงานร่วมกัน ในส่วนของพรรคฝ่ายค้านเดิมในอดีตที่มีอยู่หลายพรรค แม้บางพรรคจะไม่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน แต่ไม่ใช่ว่าจะทำงานร่วมกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคชาติไทยน่าสนใจชวนมาร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า พรรคชาติไทยในอดีตก็เคยทำงานร่วมกันมา ผู้บริหารพรรคชาติไทยหลายคนก็มีประสิทธิภาพและอุดมการณ์ ในการทำงาน ส่วนพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาที่ออกมาบอกว่าพร้อมทำงานร่วมกับ พปช.นั้นก็ต้องขอบคุณ ที่พยายามที่จะส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือกันทุกฝ่าย ซึ่ง พปช.พร้อมจะร่วมมือกับทุกฝ่ายที่จะได้กู้วิกฤตของประเทศ
"วันที่ 20 ธันวาคม เวลา 13.00-16.00 น. นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค จะพูดเรื่อง นโยบายระบบจราจรโดยใช้หัวข้อ "การสนทนาปัญหาระบบจราจรและเรื่องนครสุวรรณภูมิ" ที่ห้องประชุม เอดิทอเรียน ชั้น 6 ศูนย์สรรพสินค้าดิ เอ็มโพเรียม" นพ.สุรพงษ์กล่าว
นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน พร้อมด้วยแกนนำ หาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.หนองคาย โดยนายสมัครให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนออกแคมเปญหาเสียงลอตใหม่ โดยชูประเด็นเลือกพลังประชาชนเกินครึ่งว่า พลังประชาชนเสนอ ชูในเรื่องความปรองดองเลิกทะเลาะกันมานานแล้ว แม้ว่าจะได้เสียงเกินครึ่ง 240 พรรคพลังประชาชนก็พร้อมเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองอื่นมาร่วมงาน หากเสียงเกิน 300 ก็ดี การบริหารงานของรัฐบาลมีความมั่นคง ขณะนี้มีพรรคการเมืองที่อยากร่วมงานกับเรา แต่ยังไม่อยากเอ่ยชื่อเพราะสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ สามารถพูดได้