ในที่สุดรายชื่อคณะรัฐมนตรี ชุดที่ 57 มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ประกาศออกมา
ประกอบด้วย 1.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงศึกษาธิการ 2.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ 3.นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง 4.นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกฯ 5.พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ
6.นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรม 7.นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 8.นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 9.นายสมัคร สุนทรเวช รมว.กลาโหม (อีกตำแหน่ง) 10.นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) กระทรวงการคลัง
11.ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง 12.นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ 13.นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 14.นายสุธา ชันแสง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 15.นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์
16.นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รมช.เกษตรและสหกรณ์ 17.นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ 18.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม 19.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม 20.นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม
21.นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 22.นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) 23.พล.ท.(หญิง) พูนภิรมณ์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน 24.นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ 25.พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์
26.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย 27.นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย 28.นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย 29.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม 30.นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน
31.นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม 32.นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 33.นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ 34.นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ 35.นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข 36.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข
น่าสังเกตเป็นอย่างยิ่งว่า รายชื่อที่ปรากฏส่วนใหญ่จะถูกต้องสอดคล้องกับกระแสข่าวที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะมีเสียงร้อง "ยี้" ดังลั่นหลังจากที่รู้ว่า รายชื่อบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้
ได้กลายเป็นรัฐมนตรีกันไปเป็นแถว
และจากรายชื่อที่ปรากฏ ทำให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้ได้รับฉายาก่อนที่จะได้ทำงานกันเสียอีก
ทั้งคณะรัฐมนตรีนอมินี คณะรัฐมนตรีต่างตอบแทน คณะรัฐมนตรีคู่สมรส และอื่นๆ
นอกจากนี้ ยังมีการปรามาสฝีไม้ลายมือรัฐมนตรีใหม่ในเรื่องความสามารถ
ที่สำคัญคือรัฐมนตรีแต่ละคนที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งครั้งนี้
หลายคนมีภาพลบ
หลายคนขึ้นมาเพราะเคยทำหน้าที่พิทักษ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยเดิม
อีกหลายคนไม่มีภาพของความเป็น "ตัวจริง"
ดังนั้น ทุนทางสังคมของรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช จึงติดลบ!
และดูเหมือนว่า สมาชิกในรัฐบาลชุดใหม่ก็รู้ตัวเองดี
นายสมัครตั้งใจว่าจะพูดดี
นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ขอโอกาสให้ ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ทำงานในหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิสูจน์ฝีมือ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาขอโทษที่เคยทำให้ประชาชนไม่สบายใจ โดยยืนยันว่าจะทำงานให้ดีที่สุด
พร้อมทั้งยืนยันว่า ลูกชายทั้ง 3 คน จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำงาน
นี่เป็นปฏิกิริยาของคณะรัฐมนตรีที่ตอบรับกระแส "ยี้" จากสังคม
สังคมที่ให้คุณค่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้ติดลบ
หนทางแห่งความอยู่รอดของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช คือการยึดพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานในวันถวายสัตย์
นั่นคือ
"ขอให้คณะรัฐมนตรีปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งอาจจะทำยาก แต่เชื่อว่าจะต้องทำได้ เพื่อให้ประเทศชาติไม่ผิดหวัง
"ถ้าทำด้วยความดีนั้น ที่จริงก็โก้ไม่หยอก รู้สึกโก้ดี ที่ทำเพื่อให้ประชาชนได้หวัง แล้วก็มองเห็นว่า นี่ขณะนี้เป็นรัฐมนตรีจะทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เมื่อท่านได้ปฏิญาณว่าท่านจะทำเพื่อส่วนรวม ท่านก็มีเกียรติไม่น้อย ฉะนั้น ก็ขอให้ท่านพยายามทำตามที่ท่านได้ปฏิญาณตน
"ทั้ง 35 คน บวกกับนายกฯ เป็น 36 คน ทำเพื่อคนเป็นจำนวนล้าน เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่สุด แล้วก็ท่านเองเมื่อรักษาความดี ความตั้งใจที่จะให้คณะของท่านอยู่เย็นเป็นสุข ประเทศชาติก็อยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ถ้าทำได้ดี ท่านก็มีเกียรติ แล้วก็คณะท่านก็มีเกียรติ ก็ขอให้ท่านทำสำเร็จ เพื่อเกียรติของคณะรัฐบาลไทย แล้วก็ของประเทศชาติ"
คือ การทำเพื่อประโยชน์คนส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อรับใช้ใครคนใดคนหนึ่ง
คือ การทำความดี มิใช่ทำความชั่ว
และคือการทำตามที่พูด
ดังนั้น พรรคพลังประชาชนเคยรับปากประชาชนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเช่นไร ก็ขอให้ทำตามที่พูด
คณะรัฐมนตรีให้คำสัตย์ปฏิญาณตนต่อเบื้องพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้เยี่ยงไร ก็ต้องทำตามนั้น
นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ลั่นวาจาจะปรับปรุงตัวในเรื่องไหน ก็ให้ทำตามที่ตัวเองได้พูด
หากทำเช่นนั้นได้ "เป็ดขี้เหร่" ก็จะกลายเป็น "หงส์" เหมือนที่นายสมัครคาดหวัง
คำสบประมาทที่เคยได้รับก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นคำชื่นชม
ทุนทางสังคมที่ติดลบอยู่ ก็จะพอกพูนขึ้น จนกลายเป็นคณะรัฐมนตรีในหัวใจชาวไทย
ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับตัวคณะรัฐมนตรีที่จะต้องทำตามที่พูด
และนี่คือหนทางกอบกู้ "ทุนทางสังคม" ของ ครม.ชุดที่ 57 ของประเทศไทย
ประกอบด้วย 1.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการ (รมว.) กระทรวงศึกษาธิการ 2.นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ 3.นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง 4.นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกฯ 5.พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ
6.นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกฯ และ รมว.อุตสาหกรรม 7.นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 8.นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี 9.นายสมัคร สุนทรเวช รมว.กลาโหม (อีกตำแหน่ง) 10.นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) กระทรวงการคลัง
11.ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง 12.นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ 13.นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 14.นายสุธา ชันแสง รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 15.นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์
16.นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร รมช.เกษตรและสหกรณ์ 17.นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ 18.นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม 19.นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม 20.นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รมช.คมนาคม
21.นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 22.นายมั่น พัธโนทัย รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) 23.พล.ท.(หญิง) พูนภิรมณ์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน 24.นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ 25.พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์
26.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย 27.นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย 28.นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ รมช.มหาดไทย 29.นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม 30.นางอุไรวรรณ เทียนทอง รมว.แรงงาน
31.นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รมว.วัฒนธรรม 32.นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 33.นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ 34.นายพงศกร อรรณนพพร รมช.ศึกษาธิการ 35.นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข 36.นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข
น่าสังเกตเป็นอย่างยิ่งว่า รายชื่อที่ปรากฏส่วนใหญ่จะถูกต้องสอดคล้องกับกระแสข่าวที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้
จึงไม่ใช่เรื่องแปลก หากจะมีเสียงร้อง "ยี้" ดังลั่นหลังจากที่รู้ว่า รายชื่อบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้
ได้กลายเป็นรัฐมนตรีกันไปเป็นแถว
และจากรายชื่อที่ปรากฏ ทำให้คณะรัฐมนตรีชุดนี้ได้รับฉายาก่อนที่จะได้ทำงานกันเสียอีก
ทั้งคณะรัฐมนตรีนอมินี คณะรัฐมนตรีต่างตอบแทน คณะรัฐมนตรีคู่สมรส และอื่นๆ
นอกจากนี้ ยังมีการปรามาสฝีไม้ลายมือรัฐมนตรีใหม่ในเรื่องความสามารถ
ที่สำคัญคือรัฐมนตรีแต่ละคนที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งครั้งนี้
หลายคนมีภาพลบ
หลายคนขึ้นมาเพราะเคยทำหน้าที่พิทักษ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และพรรคไทยรักไทยเดิม
อีกหลายคนไม่มีภาพของความเป็น "ตัวจริง"
ดังนั้น ทุนทางสังคมของรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช จึงติดลบ!
และดูเหมือนว่า สมาชิกในรัฐบาลชุดใหม่ก็รู้ตัวเองดี
นายสมัครตั้งใจว่าจะพูดดี
นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ขอโอกาสให้ ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี ทำงานในหน้าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อพิสูจน์ฝีมือ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาขอโทษที่เคยทำให้ประชาชนไม่สบายใจ โดยยืนยันว่าจะทำงานให้ดีที่สุด
พร้อมทั้งยืนยันว่า ลูกชายทั้ง 3 คน จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำงาน
นี่เป็นปฏิกิริยาของคณะรัฐมนตรีที่ตอบรับกระแส "ยี้" จากสังคม
สังคมที่ให้คุณค่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้ติดลบ
หนทางแห่งความอยู่รอดของรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช คือการยึดพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานในวันถวายสัตย์
นั่นคือ
"ขอให้คณะรัฐมนตรีปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ซึ่งอาจจะทำยาก แต่เชื่อว่าจะต้องทำได้ เพื่อให้ประเทศชาติไม่ผิดหวัง
"ถ้าทำด้วยความดีนั้น ที่จริงก็โก้ไม่หยอก รู้สึกโก้ดี ที่ทำเพื่อให้ประชาชนได้หวัง แล้วก็มองเห็นว่า นี่ขณะนี้เป็นรัฐมนตรีจะทำเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม เมื่อท่านได้ปฏิญาณว่าท่านจะทำเพื่อส่วนรวม ท่านก็มีเกียรติไม่น้อย ฉะนั้น ก็ขอให้ท่านพยายามทำตามที่ท่านได้ปฏิญาณตน
"ทั้ง 35 คน บวกกับนายกฯ เป็น 36 คน ทำเพื่อคนเป็นจำนวนล้าน เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่สุด แล้วก็ท่านเองเมื่อรักษาความดี ความตั้งใจที่จะให้คณะของท่านอยู่เย็นเป็นสุข ประเทศชาติก็อยู่เย็นเป็นสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ถ้าทำได้ดี ท่านก็มีเกียรติ แล้วก็คณะท่านก็มีเกียรติ ก็ขอให้ท่านทำสำเร็จ เพื่อเกียรติของคณะรัฐบาลไทย แล้วก็ของประเทศชาติ"
คือ การทำเพื่อประโยชน์คนส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อรับใช้ใครคนใดคนหนึ่ง
คือ การทำความดี มิใช่ทำความชั่ว
และคือการทำตามที่พูด
ดังนั้น พรรคพลังประชาชนเคยรับปากประชาชนในช่วงหาเสียงเลือกตั้งเช่นไร ก็ขอให้ทำตามที่พูด
คณะรัฐมนตรีให้คำสัตย์ปฏิญาณตนต่อเบื้องพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไว้เยี่ยงไร ก็ต้องทำตามนั้น
นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีที่ลั่นวาจาจะปรับปรุงตัวในเรื่องไหน ก็ให้ทำตามที่ตัวเองได้พูด
หากทำเช่นนั้นได้ "เป็ดขี้เหร่" ก็จะกลายเป็น "หงส์" เหมือนที่นายสมัครคาดหวัง
คำสบประมาทที่เคยได้รับก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นคำชื่นชม
ทุนทางสังคมที่ติดลบอยู่ ก็จะพอกพูนขึ้น จนกลายเป็นคณะรัฐมนตรีในหัวใจชาวไทย
ทุกอย่างจึงขึ้นอยู่กับตัวคณะรัฐมนตรีที่จะต้องทำตามที่พูด
และนี่คือหนทางกอบกู้ "ทุนทางสังคม" ของ ครม.ชุดที่ 57 ของประเทศไทย