“พล.ต.สนั่น” แฉยับ เงามืดทะมึน 3 ตัว แทรกกายเข้า กกต.-รวมใจไทยชาติพัฒนา และ เพื่อแผ่นดิน ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หนุนแก้ไข รธน. เฉพาะประเด็นที่มีผลให้บ้านเมืองวุ่นวาย ติง “สุเมธ” ผิดมารยาท กรณีชี้นำส่งคดียุบ ชท. ให้ศาล รธน.พิจารณา ทั้งที่ กกต. ยังไม่มีมติ ไล่ให้ลาออก
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะต้องส่งคดียุบพรรคชาติไทยไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าว ถือเป็นชี้นำและผิดมารยาทอย่างร้ายแรง เพราะ กกต. ยังไม่ได้ประชุมและมีมติออกมา หลังจากที่อนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้ได้เสนอผลมา ซึ่งการออกมาพูดเช่นนี้ ทำให้คนเห็นว่าพรรคชาติไทยผิดไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล เชื่อว่าการออกมาให้สัมภาษณ์ของนายสุเมธ มีเงามืดอย่างน้อย 3 คน ที่คอยบงการและสอดแทรกอยู่ใน กกต.
“ผมเริ่มจะเชื่อมากขึ้น หลังจากที่เขาบอกกันว่ามีเงาทะมึนอยู่เบื้องหลัง เพราะการปฏิบัติของท่านสุเมธมันเริ่มเพี้ยน ทำให้ประชาชนเข้าใจว่านี่ผิดแล้วน่ะ ที่ท่านนายกฯ สมัคร บอกว่ามีมือที่มองไม่เห็น แต่ของผมมองว่ามีคนที่อยู่ในเงามืดอย่างน้อย 3 คนที่คอยบงการคุณสุเมธหรือไม่ และที่คอยมาสอดแทรกใน กกต.อยู่ ซึ่งผมก็ติดตามคน ๆ หนึ่งมาตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว เพราะเข้าไปแทรกในเพื่อแผ่นดิน รวมใจไทยชาติพัฒนา ไปแทรกเขาทุกพรรค ผมขอร้องทั้ง 3 ท่าน บ้านเมืองมันจะเกิดอะไรก็ต้องให้เป็นไปตามครรลอง” พล.ต.สนั่น กล่าว
ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวด้วยว่า พฤติกรรมของนายสุเมธไม่สมควรมีตำแหน่งในบ้านเมือง ดังนั้น หากรู้ว่าตัวเองทำผิดไปแล้ว ก็ควรออกมาขอโทษ หรือไม่ก็ลาออกจากการเป็น กกต.ไปเลย เพราะถือว่าทำผิดอย่างร้ายแรง “ก็เห็นใจว่าอายุมาก เกิน 70 ปีแล้ว ดังนั้น ควรจะออกก่อนที่จะถูกไล่จะดีกว่า เพราะถ้าไปตัดสินใครแล้วศาลบอกว่าหมดอายุไปแล้ว ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาได้”
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เสนอให้ยุบสภาฯ ก่อนที่พรรคการเมืองจะถูกยุบ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ถึงแม้จะยุบสภาฯ หากมีธงว่าจะยุบพรรคการเมือง ก็ตามไปยุบได้ ดังนั้น อย่าไปเส้นตื้น ขณะนี้แกนนำพรรคพลังประชาชน และนายกรัฐมนตรี บอกแล้ววว่าไม่มีเรื่องยุบสภาฯ เป็นความเห็นส่วนตัว แต่อยากย้ำว่า สิ่งที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องพิจารณาคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยต้องดูว่า มีประเด็นใดบ้างที่ส่งผลกระทบทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย แต่ไม่ได้หมายความว่าแก้เลอะเทอะ หรือแก้เพื่อตัวเอง เพียงแต่กรณีที่กรรมการบริหารพรรคทำผิด แต่พรรคหรือคนอื่นไม่ได้รู้เห็นแต่กลับจะต้องถูกยุบนั้น เป็นเรื่องที่ควรต้องแก้
พล.ต.สนั่น กล่าวยืนยันด้วยว่า ผู้ใหญ่ในพรรคไม่เคยคุยกันเรื่องการตั้งพรรคสำรอง เพราะไม่คิดว่าพรรคชาติไทยจะถูกยุบ เนื่องจากหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำผิดดังกล่าว
ด้านนายอรรคพล สรสุชาติ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสมาชิกพรรคชาติไทย กล่าวว่า ในฐานะที่ส่วนร่วมในการพิจารณร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้ง 3 ฉบับ ขอยืนยันว่าในขณะที่พิจารณาร่างกฎหมายนี้ ตามเจตนารมณ์ของผู้ร่างที่มาชี้แจงกับ สนช. ยืนยันชัดเจนและมีบันทึกไว้ว่ากรณีที่มีผู้สมัครของพรรคการเมืองใดทำผิด การจะพิจารณายุบพรรคหรือไม่ กกต.ต้องสอบสวนว่าความผิดนั้นเกี่ยวโยงกับหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ ซึ่ง กกต.ก็ทำตามขั้นตอนนี้ โดยการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีนายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน
“ผมมีข้อมูลว่า ผลการสอบระบุชัดเจนว่า หัวหน้าพรรคชาติไทยและกรรมการบริหารพรรคคนอื่นไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของนายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท พรรคชาติไทย และเป็นกรรมการบริหารพรรคที่ได้ใบแดง เท่ากับว่าผลวินิจฉัยออกมาแล้วว่า กรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคไม่รู้เห็น พรรคชาติไทยไม่ผิด” นายอรรคพล กล่าว.