นี่คือรายการเชือดไก่ให้ลิงดู
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งด่วน เด้ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ไปแขวนประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจ เป็นผู้รักษาราชการแทน
โทษฐานใส่เกียร์ว่าง ไม่เด็ดขาดกับม็อบ
แต่โดยนัยที่ลึกไปกว่านั้น รายการนี้เป็นสัญญาณที่ส่งกระทบชิ่งไปถึง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก
หัวแถวผู้นำกองทัพ กระทำการอารยะขัดขืน
ดื้อคำสั่งรัฐบาล
ทหารเฉย บิ๊กตำรวจไม่กล้า “สมชาย” ก็ต้องมีปฏิกิริยา เล่นบทดุชิ่งฉายา “รัฐบาลชายกระโปรง” ที่เก่งแต่ตีกรรเชียงเอาตัวรอดไปวันๆ
ที่แน่ๆเป็นที่รู้กัน นายกฯสมชายส่งมุกพร้อมหักดิบกับม็อบพันธมิตรฯ
สั่งตั้งแถวตำรวจ “หน่วยกล้าตาย” รอคำสั่งลุยยึดคืนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง
ตั้งท่าลุ้นเกมได้เสีย
ในสถานการณ์ที่รัฐบาลต้องรับศึกประชิดสองด้านพร้อมๆกัน
ล่าสุด ศาลรัฐธรรมนูญนัดพรรคมัชฌิมาธิปไตย พรรคชาติไทย และพรรคพลังประ�ชาชน แถลงปิดคดียุบพรรคด้วยวาจาในวันที่ 2 ธันวาคม เวลา 09.30 น.
รวดเร็วและช็อก
แต่อย่างไรก็ตาม โดยรูปการณ์ที่เตรียมการแก้เกมไว้ล่วงหน้าด้วยการให้รัฐมนตรี และ ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคพลังประชาชนที่เป็นกรรมการบริหารพรรคลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. เพื่อเปิดทางให้เลื่อนลำดับถัดไปขึ้นมาเป็น ส.ส.แทน รักษาจำนวนที่นั่งในสภาฯให้ได้ มากที่สุด
เพื่อความชัวร์ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
กับชื่อแถวสามที่สำรองไว้ไล่ตั้งแต่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ มือบริหารยังเหลือพอทำยา หรือนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ที่ “กลุ่มเพื่อนเนวิน” ดันสุดตัว
และก็เป็นไปได้ในสถานการณ์เปิดหน้ารบต้องใช้บริการพวก ฮาร์ดคอร์กล้าได้กล้าเสีย หวยอาจออกที่ “สารวัตรเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.สาธารณสุข
ไหนๆก็ไหนๆ วัดดวงกันไปเลย
แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ที่เบื้องต้นหากนายกฯสมชายและคณะรัฐมนตรีต้องมีอันเป็นไปจากคดี ยุบพรรค นาทีแรกก็ต้องเป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. มหาดไทย ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมหกรรมล้มโต๊ะนักเลือกตั้ง
ถูกวางตัวให้คุมเกมแลกหมัดกับม็อบพันธมิตรฯ
ถือดาบคุมเชิงแนวต้านรัฐบาล
ยื้อไม่ให้สถานการณ์ไหลเข้าสู่ภาวะสุญญากาศทางการเมือง เข้าทางเกมของอำมาตย์ที่วางกับดักไว้
รอให้สภาฯไม่มี ส.ส.เหลือแค่วุฒิสภา ส่งซิกบีบคณะกรรม-การการเลือกตั้ง (กกต.) ลาออก จัดเลือกตั้งไม่ได้
ต้องใช้บริการ “รัฐบาลพิเศษ”
ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีชื่อนำหน้าด้วย “พ”
และนั่นก็คือจุดจบที่แสนยาวนานของเหล่านักเลือกตั้ง โดยเฉพาะในเครือข่ายยี่ห้อ “ทักษิณ”
โดยเกมยื้อเดิมพันอนาคต แก้หมากกันแบบช็อตต่อช็อต เบื้องต้นนายกฯสมชายต้องเดินแต้ม ประคองสถานการณ์เพื่อให้ฝ่ายยุทธศาสตร์ของ “นายใหญ่” ได้มีเวลาอพยพลูกข่ายพรรคพลังประชาชนไปรวมตัวกันที่ค่ายใหม่พรรคเพื่อไทย
พร้อมสำหรับการลงสนามที่หวังผลล่วงหน้าได้
เลือกตั้งเมื่อไหร่คะแนนภาคเหนือกับภาคอีสาน และฐานเสียงรากหญ้าพร้อมเทแต้มให้ยี่ห้อ “ทักษิณ”
มันคือหนทางเดียว ที่จะยื้อเดิมพันอำนาจไว้ได้.
ที่มา ไทยรัฐ