ที่มา ไทยรัฐ
วิกฤติซ้อนวิกฤติ ที่ทำให้ประเทศไทยอึมครึมเหมือนอยู่ในแดนสนธยา เวลานี้ไม่ใช่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติแต่มาจากทิฐิของคน อันที่จริงมีอะไรซุกซ่อนอยู่ใน คดียุบพรรคการเมือง พอสมควร ควันหลงความเสียหายจากผู้ ชุมนุมประท้วงที่บุกเข้าไปยึดสนามบิน นอกจากความเสียหายที่คำนวณได้เป็นเงินแล้ว ยังจะส่งผลถึงความเชื่อมั่นอย่างแรง
ไปพลิกอนุสัญญาว่าด้วยการปราบปรามการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมาย ต่อความปลอดภัยของการบินพลเรือน การบุกเข้ายึดสนามบินถือว่าเป็นการกระทำความผิดอย่างร้ายแรงในระดับสากลเลยทีเดียว
อะไรเป็นอะไร ผมว่าคนที่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาโดยตลอดคงจะรู้แก่ใจกันดี เพราะทุกฝ่ายก็เปิดหน้าไพ่กันชัดเจน มีโครงข่ายเครือข่ายเชื่อมโยงกันอย่างไร ผมคงไม่ต้องอธิบายให้เมื่อยตุ้ม ชาวบ้านธรรมดาสามัญยังรู้ดีกว่าผมอีก
เพราะฉะนั้น ความพยายามที่จะเปลี่ยนขั้วรัฐบาล หรือลามไปจนถึงจำเป็นจะต้องมีการยุบสภา หรือการที่พันธมิตรฯจะออกมาชุมนุมกันอีกกี่ครั้ง ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของวิกฤติการเมืองไทย
ความลับย่อมไม่มีในโลก
สักวันก็ต้องฉาวโฉ่ขึ้นมา การจะเรียกร้องอะไรก็ตาม ต่อไปนี้ผมว่าควรคำนึงถึงคนส่วนใหญ่และความฉิบหายที่จะตามมาด้วย ทางที่ดีที่สุดคืออย่าให้หลุดกรอบของกฎกติกาในระบอบประชาธิปไตย
ออกมาสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองแล้วก็มีคนออกมารับลูกให้สลับขั้วเอา ประชาธิปัตย์ มาเป็นรัฐบาล หรือให้ ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ขึ้นมา
เป็นความเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย
หรือขั้วรัฐบาลเองอยู่ในยามวิกฤติย่ำแย่ ยังมีจิตใจออกมาต่อรองช่วงชิงอำนาจทางการเมือง ฉวยโอกาสวิกฤติเรียกร้องผลประโยชน์
ก็ยิ่งเห็นแก่ตัวเข้าไปใหญ่
บ้านเมืองที่วุ่นวายอยู่ทุกวันนี้สาเหตุมีอยู่นิดเดียวคือความรู้สึกส่วนตัว ซึ่งไม่ว่าจะปลุกปล้ำกันอย่างไร สุดท้ายก็ได้คนจากขั้วอำนาจเดิมมาเป็นนายกฯ อยู่ดี ยึดอำนาจก็แล้ว ออกมาไล่ก็แล้ว ใช้อำนาจสารพัด
ก็ยังไม่ชนะ
เห็นว่านักข่าวต่างประเทศ โทร.ไปสัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถามถึงการยุบพรรคพลังประชาชน ได้รับคำตอบเป็นเสียงหัวเราะหึๆ การเมืองไทยหนีไม่พ้นถึงจุดแตกหักที่ต้องฉีกรัฐธรรมนูญ
วนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์.
“หมัดเหล็ก”