ที่มา ประชาทรรศน์
บทบรรณาธิการ
“ปัญหาการเมือง ต้องแก้การเมือง” แต่ปัญหาชาติบ้านเมืองวันนี้ไม่ได้มีเฉพาะเจาะจงไปที่วงการการเมือง แต่รากเหง้าปัญหาคือการปลุก “ตุลาการภิวัตน์” มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขวิกฤตการณ์การเมือง จนทำให้ประเทศไทยมีปัญหาและเสียหายมาจนถึงทุกวันนี้ กระบวนการยุติธรรมไม่เป็นธรรมสำหรับคนส่วนใหญ่ของประเทศ
มหาชน ในที่นี้น่าจะหมายถึง คนส่วนใหญ่
กฎหมายมหาชน ในที่นี้จึงน่าจะหมายถึง กฎหมายที่สำหรับคนส่วนใหญ่ ใช้สำหรับโครงสร้างใหญ่ของประเทศ
เมื่อเป็นดังนี้ การใช้กฎหมายควรจะตอบสนองต่อโครงสร้างใหญ่ของประเทศ ความรู้สึกนึกคิดของคนส่วนใหญ่ของประเทศ ว่าเขาต้องการอะไรอย่างไร
“ตุลาการภิวัตน์” ที่คนไทยรู้และรับทราบกันนั้น ประกอบไปด้วย กระบวนการยุติธรรมชั้นต้น กระบวนการยุติธรรมระดับกลาง และ กระบวนการยุติธรรมชั้นบน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้มีเป้าหมายเพียงเพื่อ ทำร้าย ทำลาย กลุ่มคนที่เคยเกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทย ซึ่งคนส่วนใหญ่ในขณะนี้เชื่อว่านี่คือ “อคติ” ในการทำหน้าที่
“อคติ” ในการตัดสินคดีความ โดยเฉพาะคดีที่เป็นคดีมหาชน อันเกิดจากอัตตาแห่งบุคคลอันถือเป็นทางไปสู่ความวิบัติของสังคม ดังที่หลายๆ เหตุการณ์ ในโลกเกิดขึ้นมา
ไม่มีประเทศไหนในโลกนี้ที่จะนำ “ตุลาการ” มาเป็นเครื่องมือนำไปสู่ความเอนเอียงในสังคม โดยบุคคลที่มีทัศนคติเอนเอียงอย่างเห็นได้ชัดเช่นนี้ ไปถามเด็กมันยังรู้ว่าไอ้หมอนั่น ไอ้หมอนี่ หน้าตาแบบนี้ คือ คน ที่มี “อคติ” เข้ากลุ่ม เข้าสังกัด เข้าฝ่าย
เวลาตัดสินคดีความ เขียนกันเป็นความคิดเห็น คำสั่งสอน คำอบรม คำกระแทกแดกดัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ชื่นชมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยไม่ได้จับต้องหรือคำนึงในข้อเท็จจริงให้ปรากฏ ดังคำตัดสินคดีความปกติ
ทั้งที่พฤติกรรมเหมือนๆ กัน แต่ตัดสินไปเป็น 2-3 มาตรฐาน จนลูกเล็กเด็กแดง ดูออกว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
แบบนี้หรือคือสิ่งที่สังคมเราควรชื่นชมหรือยอมรับกับมัน
กฎหมายมหาชน กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายเฉพาะอื่นๆ ที่ใช้บังคับกับบุคคลทั่วบ้านทั่วเมือง ควรจะมีมาตรฐานในการบังคับใช้เช่นเดียวกับทุกระดับชั้นในสังคมไม่ว่าจะเป็นเศรษฐี คนชั้นกลาง และ ยาจก
ไม่ใช่พฤติกรรมเดียวกัน หรือใกล้เคียงกัน คนพวกหนึ่งผิด คนอีกพวกหนึ่งไม่ผิด
คนพวกหนึ่ง จับเงินซื้อเสียง 1 ล้าน ได้ใบเหลือง…คนอีกพวกได้ใบแดง
คนพวกหนึ่ง จับตั๋วดูหนัง จูงใจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ได้ใบขาว…คนอีกพวกถูกยุบพรรค
คนหนึ่งไปทำอาหารสอนผู้คนออกทีวี เปิดพจนานุกรมอีท่าไหนไม่รู้บอกว่าผิด เพราะได้รับค่าจ้าง...อีกคนหนึ่งไปสอน
หนังสือได้รับค่าจ้างเหมือนกันดันออกมาบอกว่าเป็นการไปอบรมสั่งสอนผู้คน จึงไม่ผิด...ไม่เห็นเปิดพจนานุกรม
วันนี้เราจะปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมของเมืองไทย มี 2 มาตรฐาน ใช่ไหม? ที่เขาเรียกว่า ตราชู ตราชั่ง เอียงกระเท่เร่!!! เป็นจุดอ่อนสำคัญที่ถูกนำไปวิพากษ์วิจารณ์ ว่า “กระบวนการยุติความเป็นธรรม” ? ดังคำที่ทั่วโลกเขาท่องเป็นคำขวัญขึ้นใจ...วันใดที่เสียงปืนดัง เสียงแห่งความยุติธรรมย่อมอ่อนลงไป