ที่มา Thai E-News
โดย จอร์จ บางกะปิ
4 ธันวาคม 2551
ผมอเนจอนาถกับความคิดของคนบางกลุ่มที่ต้องการจะให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ด้วยเหตุผล ไม่ต้องการให้พันธมิตรกลับมาสร้างความวุ่นวายอีกครั้ง โดยหากให้ขั้วรัฐบาลเดิมที่มีพรรคพลังประชาชนในนามพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งคณะผู้บริหาร เกรงว่าปัญหาจะไม่จบ ส่วนใหญ่คนที่คิดแบบนี้จะเป็นพ่อค้านักธุรกิจที่เป็นปฏิปักษ์ต่อขั้วรัฐบาลเดิมอยู่แล้ว คนที่ออกมาโยนก้อนหินถามทางคนต่อมาคือ พลตรีสนั่น ขจรประสาท สังกัดพรรคชาติที่เพิ่งโดนยุบตามพลังประชาชนมาหมาดๆ ใครที่บอกว่าเสธ.หนั่นคบยากก็เห็นกันคราวนี้แหละ เจ้าของพรรคน้ำตาท่วมทั้งพ่อทั้งลูก แต่ตัวเองยังมีแก่ใจจะตั้งตัวเป็นผู้เพาะเลี้ยงงูเห่า และที่น่าเศร้าใจยิ่งไปกว่านั้น กลุ่มเพื่อนเนวินในพรรค พปช.เดิมก็ทำแบะท่าจะเข้าไปซบ ปชป.เพื่อจัดตั้งรัฐบาลแห่งความอัปยศ
ในสถานการณ์เลวร้ายขนาดนี้ ผมไม่เชื่อว่าจะยังมีคนคิดอะไรที่สุดอุบาทว์เช่นที่กล่าวไปข้างต้น
ผมไม่เถียง คนในพรรค พปช. (เพื่อไทย) ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ คนต่อไป อาจจะดูไม่ดีในสายตาของนักธุรกิจ คนชั้นกลางและชนชั้นสูง แต่เมื่อเอาไปเทียบกับกลุ่มพันธมิตรแล้ว พวกเขาดีกว่าล้านเท่า อย่างน้อย นักการเมืองเหล่านี้ก็ไม่เคยไปปิดสนามบินนานาชาติที่สร้างความเสียหายนับแสนล้านและการบินไทยต้องฟ้องร้องสูงถึงสองหมื่นล้าน พวกเขาไม่เคยสั่งให้สาวกบุกสถานที่ราชการ ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบ สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กระทรวงทบวงกรมต่างๆ ซึ่งนำมาซึ่งความจลาจลย่อยตามถนนหนทางต่างๆ มีการยิงปืนใส่ฝ่ายตรงข้ามกลางวันแสกๆ มีการทุบตีผู้ต้องสงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามจนปางตาย และก่อความโหดเหี้ยมต่างๆ นานา
เขียนมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะแย้งว่า นี่เขาจะตั้งรัฐบาลที่มี ปชป. เป็นแกนนำนะ ไม่ใช่ พันธมิตรฯ และหาก ปชป.เป็นรัฐบาล พันธมิตรฯก็จะไม่มารบกวนสังคมไทยอีก คนที่พูดแบบนี้ แน่ใจนะว่าเอาปากพูด!
พวกคุณลืมไปแล้วหรือ พันธมิตรฯ กับพรรค ปชป. มีความเชื่อมโยงกันแนบแน่นจนเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกัน อย่างน้อยที่สุด หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯที่จะต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาลแก่ประเทศชาติ เป็น สส.ของพรรคนี้!
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธมิตรฯ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม เขาไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะตำหนินายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์และสมาชิกคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมมหกรรมสังหารชาติกับพันธมิตร ทั้งๆที่ เขาควรจะแสดงความบริสุทธิ์ด้วยการเข้าไล่ สส.คนนี้ไปตั้งนานแล้ว นี่เป็นประเด็นเด่นชัดและเป็นรูปธรรมมากที่สุด และจนถึงบัดนี้ที่สังคมมองเห็นความเสียหายสุดพรรณนาโดยฝีมือของพันธมิตร นายอภิสิทธิ์ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาในประเด็นนี้ แล้วจะยังมีหน้าจะมาขอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีก จริยธรรมของนักการเมืองผู้นี้อยู่ในระดับติดลบ!
ในหลายประเทศ เมื่อสมาชิกพรรคไปก่อการร้ายถึงระดับนี้ เมื่อไม่สามารถไล่ใครได้ ตัวเองก็ต้องลาออก
เมื่อพรรคการเมืองหนึ่งมีส่วนร่วมกับการกระทำที่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อสังคม นั่นก็เท่ากับว่า ได้หมดความชอบธรรมที่จะมาเสนอหน้าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวในทางการเมือง ไม่ว่าจะด้วยตัวเองหรืออาศัยแนวร่วมเป็นคนชงขึ้นมา
ยิ่งมาบอกว่า ถ้าพรรคนี้ได้เป็นแกนนำรัฐบาล พันธมิตรจะหยุดความเคลื่อนไหว มันจึงเป็นตรรกะที่สุดเลวร้าย “เมื่อคุณกลัวโจรจะเข้าบ้านอีกครั้ง คุณก็เลยเอาพรรคพวกของโจรมาเป็นเจ้าของบ้าน” ดังนั้น บ้านนี้เมืองนี้จึงกลายเป็นของโจรไปโดยปริยาย และสิ่งที่โจรได้กระทำการลงไปทั้งหมด ก็จะกลายเป็นความชอบธรรม การบินไทยที่ฟ้องร้องพันธมิตรสองหมื่นล้าน นอกจากจะไม่ได้คืนสักบาทแล้ว คนฟ้องอาจจะโดนโจรจับขังไปเลยก็ได้ หมอเหวง หมอสันต์ที่ไปยื่นเรื่องต่อยูเอ็นและฟ้องพันธมิตรเป็นผู้ก่อการร้ายก็จะกลายเป็นผู้ผิดโดนจองจำไปจนตาย
เราต้องพิจารณาให้จงหนัก เรากำลังต่อสู้กับผู้การที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติหลายแสนล้านบาท ทั้งทรัพย์สินและภาพพจน์ และเราจะต้องทำทุกอย่างเพื่อจับโจรมาลงโทษเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยและคนทั่วโลกว่า สังคมเรายึดมั่นในความเป็นนิติรัฐ-นิติธรรม ทุกฝ่ายกำลังสำรวจความเสียหายเพื่อสรุปข้อกล่าวหาในการดำเนินคดีกับโจร แต่บางคนกลับมาบอกว่า ไม่เอาแล้วล่ะ โจรมันไปแล้วก็ปล่อยมันไป อย่าให้มันกลับมาอีก ฉะนั้น เอาพรรคพวกของโจรมาเป็นผู้นำ เผื่อมันจะเกรงใจไม่บุกเข้ามาเป็นครั้งที่สองที่สาม
บางคนที่ผมกำลังพูดถึง ถือว่าเป็นพวกขี้ขลาดตาขาว หรือไม่ก็เป็นพรรคพวกของโจรเช่นกัน ลำพัง ปชป. และกลุ่มพ่อค้าหน้าเลือด ผมยังทำใจได้ แต่ตัวแทนของเราบางกลุ่มกลับทำยึกยักจะโดดเข้าร่วมกระบวนการกับโจรด้วยนี่ซิ มันช้ำใจที่สุด
เพียงเพื่อการต่อรองอะไรบางอย่าง เพียงเพื่อคนที่จะเป็นนายกฯ ไม่ถูกใจท่าน ท่านก็จะยอมกลายร่างจากคนดีไปเป็นโจรเลยหรือ...อย่าให้เขาตราหน้าว่า นักการเมืองไทยมันก็เท่านี้ ผิดชอบชั่วดี ไม่สนใจ ขอแค่ได้สิ่งต้องการเป็นพอ
ในความคิดของผม นายกฯในสถานการณ์ที่เราจะต้องจับโจรมาลงโทษจะต้อง “กล้าและเก่ง” กล้าที่จะต่อสู้กับโจรที่มีเบื้องหลังที่น่าครั่นคร้าม และเก่งที่จะหาช่องหางเอาผิดกับพวกมันได้ ส่วนเรื่องความสามารถในทางเศรษฐกิจผมว่า น่าจะเป็นเรื่องรอง เพราะความเสียหายครั้งนี้ ยากจะแก้ไขได้ภายในสองสามเดือน เก่งแค่ไหนก็ทำอะไรไม่ได้มากนักเพราะมันเกินขีดความเลวร้ายที่สุดไปแล้ว อย่างดีก็แค่ประคองตัวไม่ให้ทรุดหนักเท่านั้น อีกประการหนึ่ง ความพินาศทางเศรษฐกิจเกิดจากพันธมิตรฯโดยตรง คุณจะต้องจัดการที่ “ต้นเหตุ” โดยการลดความน่าเชื่อถือของคนกลุ่มนี้ด้วยการดำเนินการทางกฎหมายอย่างเฉียบขาดก็น่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยอ้อมด้วย เพราะเมื่อพันธมิตรต้องคดีร้ายแรงมากมาย พวกเขาจะมีชนักติดหลังจนเคลื่อนไหวไม่สะดวก
อย่ามักง่ายคิดแต่ว่า เอาคนที่โจรต้องการหรือคนที่โจรเกรงใจมาเป็นผู้นำประเทศ มันไม่มีประโยชน์ใดๆ กับประเทศชาติหรอกครับ เพราะประเทศไทยไม่ใช่รัฐโจรที่จะยอมจำนนกับโจรอย่างง่ายดายเช่นนี้...คนไทยส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่โจรและยอมตายเสียดีกว่าที่จะถูกตราหน้าเป็นโจรหรือสนับสุนนพวกโจร แม้เราจะยากจนข้นเค้นขนาดไหน เราก็ไม่คบกับโจรเพียงเพื่อให้ตัวเองรอด
เราจะต้องสู้กับโจร จับโจรและขจัดโจร มิใช่ ยอมโจร เพราะหากยอมมันวันนี้ เราจะมีหลักประกันอะไรว่ามันจะไม่มาอีก
โจรมันไม่ทำมาหากินอะไร เมื่อมันหิวหรือมีความต้องการอะไรบางอย่างมันก็จะกลับมาใหม่
อย่างน้อยที่สุดจะต้องไม่ลืมว่า “สัจจะไม่มีในหมู่โจร”