WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, December 4, 2008

จำลอง ศรีเมือง กบฏและผู้นำการก่อการร้าย...ต้องโดนนนนน?!?

ที่มา ประชาทรรศน์

คอลัมน์ : ประชาทรรศน์วิชาการ

โดย วาทตะวัน สุพรรณเภษัช

...ถล่มทลาย เพราะแห่กันจองหนังสือเล่มสำคัญ ส่งท้ายปี พ.ศ.2551 ที่ชื่อ “นินทาประชาธิปัตย์ (ฝ่ายค้าน-ดักดาน)” จองซื้อได้ใน vattavan.com หรือ โทร 086-2593-939 ประเทืองทั้งปัญญาและอารมณ์ขัน ไม่ว่าท่านจะอยู่ข้างฝ่ายค้านหรือรัฐบาล...

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2551 หลังจากที่แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ทำการยึดสนามบินภาคใต้ ก่อความเดือดร้อนให้นักท่องเที่ยว ผู้คนตระหนกตกใจ ผมได้เขียนลงในประชาทรรศน์ ใช้ชื่อบทความว่า
“ประชาธิปัตย์จงฟัง อย่าให้คนเขาลือกันว่าเป็น...พรรคก่อการร้าย!!!”
ตอนหนึ่งได้เขียนเอาไว้ ดังนี้...

...การเดินเกมการเมืองนอกสภาของพรรคประชาธิปัตย์ ดังที่ได้แจงให้ฟังกันนี้ ได้ก่อให้เกิดความปั่นป่วนขึ้นมาในบ้านเมืองนั้น ยังไม่ร้ายกาจเท่ากับเสียงร่ำลือกันหนาหู เรื่องพรรคเก่าแก่นี้ ตกเป็นที่ต้องสงสัยของผู้คนว่า
อยู่เบื้องหลัง...การยึดสนามบินที่ภาคใต้ของประเทศ!

นี่เป็นเรื่องใหญ่โตมโหฬาร แต่มาถึงวันนี้ ผู้คนบ้านเราพูดถึงราวกับว่า มันเป็นเรื่องไม่ใหญ่ และไม่แตกต่างอะไรกับการกระทำความผิดของบรรดาสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 8 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในการบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์ NBT

เรื่องอย่างนี้ ฝรั่งต่างด้าวท้าวต่างแดนถือว่า "เป็นเรื่องใหญ่นัก ยอมกันไม่ได้!" เพราะการใช้กำลังเข้ายึด "สนามบิน-นานาชาติ" นั้น สังคมระหว่างประเทศเขาถือว่าเป็นการ "ก่อการร้าย!" หรือพูดให้เต็มยศ คือ "การก่อการร้ายสากล!!"

เดิมประเทศของเรานั้นก็ไม่ได้มีบทบัญญัติในเรื่องนี้เป็นพิเศษ แต่ปัจจุบันนี้ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1 บัญญัติให้การกระทำลักษณะนี้ เป็นการ "ก่อการร้าย" เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ

ดังนั้น หากการสอบสวนอย่างจริงจัง แล้วข้อเท็จจริงฟังได้ว่าการยึดสนามบินครั้งนี้ หากมีพรรคการเมืองใดๆ ไม่ว่าจะเป็นก๊วนเก่าแก่ หรือกลุ่มการเมืองใหม่ที่ไหนก็ตาม ดันไปหนุนหลัง การกระทำเช่นว่านั้นเข้าแล้ว แม้คนไทยจะให้ความสำคัญน้อย
...แต่โลกอารยะ ยอมรับไม่ได้เด็ดขาด!

นี่จึงเป็นเรื่องที่ใหญ่มหึมาและมีความสำคัญมาก จึงต้องขอแจ้งเตือนไปยังบรรดาสมาชิกพรรคของนายอภิสิทธิ์ให้รับทราบทั่วกันว่า

ประเทศมหาอำนาจมีหน่วยงานข่าวกรองที่ทรงประสิทธิภาพยิ่ง นึกหรือว่าพวกเขาจะไม่รู้เลยเชียวหรือว่า
นักการเมือง พรรคการเมืองใด ที่อยู่เบื้องหลังการยึดสนามบิน!?
นั่นเป็นข้อความที่ผมได้เขียนเอาไว้ แต่ไม่รู้ว่าจนบัดนี้ “นายมาร์ค-มุกควาย”
จะรู้หรือยัง ถ้าไม่รู้ให้ถามมา...จะตอบให้ทั้งชื่อ นามสุกล และพรรคที่สังกัด!

ขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า เพราะความที่ในใจตัวเองนั้น กริ่งเกรงมาตลอดว่า หากฝ่ายบ้านเมืองอ่อนแอ เหล่าพันธุ์มารมันจะต้องเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิแน่แท้

ผู้เขียนจึงเป็นคนแรก ที่ได้ยกกฎหมายมาตราสำคัญนี้ในข้อเขียนของตัวเอง เพื่อปลุกเร้าเพื่อนพ้องผู้รักษากฎหมายของบ้านเมืองให้ได้มองเห็นถึงข้อกฎหมายซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่เราจะใช้กำราบปราบปรามผู้ก่อการร้ายที่ก่อกรรมทำเข็ญให้กับชาติบ้านเมือง แต่สิ่งที่ผมหวั่นใจก็เกิดขึ้น

เมื่อผู้ก่อการร้ายซึ่งมี นายพลจำลอง ศรีเมือง เป็นผู้บัญชากองกำลังเข้ายึดสุวรรณภูมิ ก่อความพินาศ ฉิบหายใหญ่หลวงให้กับบ้านเมืองของเรา!
ขอเรียนว่า

ผมเข้าใจเรื่องการก่อการร้ายค่อนข้างดี เพราะร่ำเรียนมาทางด้านนี้พอสมควร อีกทั้งใฝ่ใจในการศึกษามาตลอด เมื่อประมาณกว่า 20 ปีมาแล้ว ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติได้เชิญทีมของหน่วยปราบปรามผู้ก่อการร้ายเยอรมนี มาให้การฝึกอบรมให้กับข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และนายทหารระดับผู้บังคับการกรม มารับการฝึกอบรม ผมเป็นเจ้าหน้าที่ไทยเพียงคนเดียว ได้รับเชิญเข้าร่วมกับทีมของเยอรมนีในการฝึกอบรมครั้งนั้น

ดังนั้น เมื่อมีเหตุการณ์การกบฏและการก่อการร้าย ตั้งแต่เริ่มยึดสะพานมัฆวานฯ ปิดถนนราชดำเนิน ได้พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่ต่างๆ แนะนำให้ดำเนินการสลายเสียแต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะการชุมนุมวันแรกๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่ทีการดำเนินการให้เบ็ดเสร็จไปเสียแต่ต้นมือ จึงทำให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลายมาจนถึงทุกวันนี้

แม้นายพลจำลองจะมีทักษะในการดำเนินกลยุทธ์ประท้วงบนท้องถนนได้อย่างเชี่ยวชาญ แต่เชื่อว่านอกจากผู้เขียนแล้ว ก็ยังมีเจ้าหน้าที่ซึ่งมีประสบการณ์อีกหลายคน ที่สามารถอ่านเกมนายพลจำลองฯ ได้ขาดอย่างไม่ยากเย็น จึงได้บอกกับเพื่อนฝูงว่า

ให้คอยดูว่าแต้มเดินต่อไปของอดีตนายทหารหัวหน้าผู้ก่อการร้ายสำคัญรายนี้ คือการบีบคั้น ต่อรองให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายบ้านเมืองอื่นๆ ไม่เอาผิดทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งในความระยำอัปรีย์ทั้งปวงที่เขากับพวกได้ย่ำยีประเทศชาติ และก็เป็นจริงไปตามคาด
เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ต้องบอกตรงไปตรงมาว่า...“ยอมไม่ได้เด็ดขาด!”

หากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองทำอย่างนั้น คืออ่อนข้อให้กับผู้ก่อการร้าย ผลที่จะเกิดกับตัวเจ้าหน้าที่เอง น่าจะเป็นความหายนะ ไม่เชื่อก็คอยดูกันไป!

ที่น่าแปลกใจมากก็คือ ภายหลังจากที่กองกำลังของฝ่ายกบฏก่อการร้ายแห่งประเทศไทย นำโดย นายพลจำลอง ศรีเมือง เข้ายึดสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง สื่อมวลชนในประเทศที่ส่วนใหญ่ล้วนแต่มีชนักติดหลัง กลัวถูกแฉต่อสังคม ไม่กล้ามีปากเสียง ออกมาต่อสู้พันตูกับฝ่ายก่อการร้ายอย่างจริงจัง
บางฉบับยังดันสนับสนุน และเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำของฝ่ายพันธุ์มารด้วยซ้ำไป!

สื่อต่างๆโดยเฉพาะสื่อในมือของฝ่ายทหาร ให้การประสานเสียง โจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่องยาวนาน และยังดำรงการไล่กระทืบรัฐบาลสม่ำเสมอ เมื่อมีปฏิบัติการของฝ่ายกบฏก่อการร้าย ยุแหย่ประชาชนให้ชิงชังการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ ที่เห็นชัดเจนที่สุดอย่างคลื่น Fm101 ซึ่งมีผู้ดำเนินรายการบางคนอยู่ทั้งคลื่นทหาร และสื่อของ ASTV ไม่ว่าจะเป็นวิทยุหรือโทรทัศน์

ทหารบางส่วนจึงถูกมองอย่างสงสัยว่า เป็นผู้สนับสนุนการปฏิบัติการของฝ่ายก่อการร้ายอย่างลับๆ แถมยังมีการออกมาเปิดเผยว่า มีทายาทของผู้นำเหล่าทัพเข้าไปร่วมอยู่ในการชุมนุมที่จัดขึ้นโดยฝ่ายกบฏด้วย

เมื่อมีการยึดสนามบิน ความเดือดร้อนได้แผ่ไพศาลไปทั่ว ฝ่ายสื่อต่างประเทศต่างๆ ยืนยันว่า ผู้สนับสนุนปฏิบัติการของฝ่ายกบฏก่อการร้ายอยู่ ทั้งแบบเปิดๆ และลับๆ นอกจากพ่อค้าวาณิชแล้ว ที่สำคัญคือกลุ่มพวกไฮโซหรือชนชั้นสูง ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่าพวก elite อ่าน “เอลีท” แต่สื่อไทยเขียนกันในข่าวสังคมว่า “อีลีท” แต่ปัจจุบันถูกชาวบ้านเรียกอย่างเย้ยหยันว่า “อีเลว” บ้าง “อีลวง” บ้าง ตามแต่จะถนัดปากของแต่ละคน
สุดท้าย...ได้ยินผู้คนเรียก...“อีแหลก!!!”

คนพวกนี้เริ่มมีความตระหนกตกใจ เพราะชาวบ้านตาดำๆ ที่มีรายได้ปานกลาง หรือรายได้น้อย หากินโดยสุจริต อาบเหงื่อต่างน้ำ ต้องได้รับความทุกข์ยากจากการยึดสนามบินนานาชาติของนายพลจำลอง หัวหน้าผู้ก่อการร้ายกับพวก โดยทั่วกันทั้งประเทศ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจของพวกเขา...หน้าถอดสีกันไปเลย!

น่าสงสารเพื่อนร่วมชาติยิ่งนัก เพราะหลายคนก็ต้องสูญเสียงาน สูญเสียรายได้ ธุรกิจล่มจมในพริบตา ความเดือดร้อนทุกข์ยากได้แผ่ขยายครอบคลุมประเทศและราษฎรชาวไทยที่ต้องรับเคราะห์กรรมที่ไอ้คนพวกนี้มันก่อขึ้น และยิ่งน่าเวทนามากขึ้นไปอีก เพราะไม่มีใครหันมาช่วยเหลือ ดับทุกข์ร้อน หรือแม้แต่จะพยายาม...เป็นไปได้อย่างไรประเทศนี้!

ดังนั้น เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความขมขื่นให้ประชาชนยิ่งนัก จึงไม่แปลกที่ผู้คนสั่งสมความเคียดแค้น ชิงชัง ต่อกลุ่มบุคคลที่ถือตนว่าเป็นชนชั้นสูง เหยียดหยามรากหญ้าของแผ่นดิน ขอให้พวกเราช่วยกันจำเอาไว้เป็นบทเรียน
ต่อไปอย่าได้ไว้ใจ...พวกมันอีกเป็นอันขาด !

ยังดีที่ความชั่วร้ายของฝ่ายกบฏก่อการร้าย แม้ไม่ค่อยถูกเผยแพร่ในสื่อสารมวลชนไทยที่มีตาขาวมากกว่าตาดำ (เพราะตาดำเหลือเท่า...หัวไม้ขีด) ได้ถูกนำไปเผยแพร่ในสื่อต่างประเทศ ทำให้ผู้คนที่ติดตามข่าวสารในโลกไซเบอร์ได้พบความเลวทรามต่ำช้าของฝ่ายก่อการร้าย จึงทำให้คนไทยเริ่มหูตาสว่าง เช่น
ชาวออสเตรเลียที่ติดอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ออกมาแฉอย่างถึงกึ๋นว่า
กลุ่มสาวกที่เข้าร่วมการก่อการร้ายครั้งนี้ ปฏิบัติการโดย...
“ใช้เด็กเป็น...โล่มนุษย์”

นายแม็ตต์ บาเคิล ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว Ninemsn ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางของออสเตรเลีย ได้เขียนรายงานเรื่อง ผู้ปกครองพาเด็กไปร่วมประท้วงเพื่อรับเงินค่าจ้างสดๆ โดยผู้ประท้วงยึดสนามบินในประเทศไทยได้ล่อใจพ่อแม่ผู้ปกครองที่พาเด็กไปม็อบด้วยเงิน อย่างน่าตกใจ!

สาวแดนจิงโจ้ ชื่อ Inga Vennell เปิดโปงพ่อแม่ผู้ปกครองที่นำเด็กมาร่วมม็อบเพื่อเป็นโล่มนุษย์จะได้รับเงินค่าจ้างจากพันธมิตรฯ
น่าทุเรศในสายตาของชาวโลกนัก!

ไม่น่าเชื่อว่า ในขณะที่พวกนักวิชาการ พ่อค้าขี้กลัวในเมืองไทย รู้ทั้งรู้พฤติกรรมที่กลุ่มกบฏที่ล่วงละเมิดกฎหมายหลายประการ แต่พวกเขาพร่ำพูดถึงแต่สันติวิธี การสมานฉันท์ที่ไร้สาระ แต่ชาวต่างประเทศอย่างนักกฎหมายชาวอังกฤษ จากสำนักงานกฎหมายฟูลไบรท์ แอนด์ ลอว์วอสกี้ แอล.พี.พี. (Steve Mille LLP, Fulbright & Laorski LLP) จากอังกฤษ กลับให้แนะนำว่า

การเอาผิดผู้สนับสนุนขึ้นศาลโลกนั้นไม่ยาก เพียงแต่รวบรวมรายชื่อประชาชนจำนวนหนึ่ง ยื่นสหประชาชาติ ยกเหตุผลว่า จะไม่ได้รับความยุติธรรม ถ้าดำเนินการในศาลของประเทศตนเองทาง ฟูลไบรท์ฯ ก็ยินดีให้ความช่วยเหลือรวบรวมหลักฐานให้อัยการ ส่งฟ้องศาลโลกที่กรุงเฮก สวิสเซอร์แลนด์ และสหประชาชาติก็จะสั่งอายัดทรัพย์ในธนาคารสวิสเซอร์แลนด์ของผู้สนับสนุนทันที

Fulbright & Laorski LLP เป็นสำนักงานกฎหมายระหว่างประเทศ ที่อยู่เบื้องหลังให้การช่วยเหลือประเทศต่างๆ นำนักการเมือง หรือผู้นำหลายประเทศ ที่เข้าข่ายเป็นผู้ก่อการร้ายสากลหรือผู้สนับสนุน จนก่อให้เกิดความเดือดร้อนเป็นภยันตรายกระทบกระเทือนมนุษยชาติ ขึ้นศาลโลกจนสำเร็จมาหลายรายแล้ว

ดูสิ!...ขนาดพวกเขาเป็นคนต่างด้าวท้าวต่างแดนแท้ๆ กลับเจ็บร้อนแทนคนไทย แต่ผู้ที่มีกำลังอำนาจอยู่ในมือ มีหน้าที่ต้องรักษาความมั่นคงของชาติ กลับไปสุมหัวกบาลกันแต่ในสนามกอล์ฟ รอเวลาหาโอกาสและจังหวะเหมาะ เพื่อเข้าฮอร์สกินรวบอำนาจตามสันดานเดิมที่เคยทำ โดยไม่ยินยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือดับทุกข์ร้อนให้ชาวบ้าน
แต่ไอ้คนพวกนี้ มันก็เสื่อมไปในสายตาของชาวบ้านทันที!

พอพูดถึงศาลโลกแล้ว ทำให้คิดถึงศาลไทยขึ้นมาทันที และที่ผู้คนในชาติข้องใจมากที่สุดก็คือ เมื่อผู้ก่อการร้ายอย่างนายพลจำลองกับพวก เข้ายึดทำเนียบรัฐบาล อันเป็นการกระทำเข้าข้อหากบฏ พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องบรรยายพฤติการณ์ของกลุ่มกบฏให้ศาลอาญาทราบ นำเสนอพยานหลักฐานพร้อมสรรพ เพื่อศาลจะได้พิจารณาอนุมัติออกหมายจับ

ได้ทราบจากพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ยืนยันว่า ผู้พิพากษาศาลอาญาจำนวน 12 ท่าน ได้เข้าร่วมประชุมพิจารณาการออกหมายจับ เท่านั้นยังไม่พอ ทางศาลอาญายังได้เชิญพิจารณาผู้พิพากษาอาวุโสมาร่วมพิจารณาด้วย

ผู้พิพากษาทั้ง 13 ท่าน มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ อนุมัติให้ออกหมายจับตัวนายพลจำลองกับพวก ในข้อหากบฏในราชอาณาจักร

เมื่อโดนข้อหากบฏนั้น เราจะเห็นว่านายพลจำลองกับพวก ก็เกิดความเกรงกลัวอย่างเห็นได้ชัด เพราะเอาแต่ฝังตัวอยู่ในทำเนียบจนได้ออกมาทดสอบกำลังในวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังจากที่ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์แล้ว
สิ่งที่ทำให้ผู้คนในบ้านในเมืองต้องตกตะลึง เพราะศาลอุทธรณ์ได้สั่งเพิกถอนหมายจับ!

ในคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ ท่านได้สั่งว่าข้อหากบฏที่คณะผู้พิพากษาศาลอาญามีมติให้ออกหมายจับนั้น “เลื่อนลอย” แต่ไม่ได้อรรถาธิบายว่าเลื่อนลอยอย่างไร และสิ่งหนึ่งที่ติดค้างคาใจผมอยู่มาจนทุกวันนี้ คือ
ทำไมพนักงานสอบสวน จึงไม่ยื่นฎีกา?...

ตรงนี้แหละครับที่เป็นการติดปีกให้กับพวกกบฏได้ทำให้สถานการณ์ของชาติบ้านเมืองเดินทางมาสู่ความเลวร้าย แล้วประเทศก็ถึงกาลวินาศสันตะโร เมื่อนายพลจำลองได้ยกระดับการปฏิบัติการไปสู่การเป็น...
ผู้ก่อร้ายสากลอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเข้ายึดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง!!!
ท่านผู้อ่านที่เคารพรักครับ
มาถึงวันนี้...

ต่อให้พันธุ์มารจะยุติการชุมนุมหรือไม่ อย่างไร ขอให้คนไทยเราทั้งปวง รวมทั้งเพื่อนสื่อมวลชนทั้งผองจะต้องรวมใจกันเป็นหนึ่ง ประณามการกระทำของนายพลจำลอง ผู้บัญชาการการก่อการร้ายกับแก๊งของเขา และกลับมาร่วมมือร่วมใจกัน สนับสนุนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ให้ดำเนินคดีในข้อหาก่อการร้ายตามที่ขณะนี้ได้มีการร้องทุกข์ไว้แล้ว...
...จนกว่าคดีจะถึงที่สุด!

การที่จะเคลื่อนไหวใดๆ ของฝ่ายรัฐตามขอบเขตของกฎหมาย เพื่อยุติความฮึกเหิมของนายพลจำลองกับแก๊งก่อการร้าย จะต้องเดินต่อไปอย่างไม่ลดละ และท้ายที่สุดขอให้พี่น้องประชาชนคนไทย ที่รักชาติรักประชาธิปไตย มั่นใจว่า

จำลอง ศรีเมือง กบฏและผู้นำการก่อการร้ายรายนี้...ต้องโดนนนนน?!!?