ที่มา ประชาทรรศน์
ในส่วนของอดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชนนั้น ในวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้พากันเดินทางไปกรอกใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่อาคารชินวัตรไหมไทย ข้างวัดหัวลำโพงแยกสามย่านกันอย่างคึกคัก
โดยบุคคลที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษก็คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประธานคณะกรรมการ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) น้องสาวแท้ๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยื่นใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ หลังจากที่ก่อนหน้านั้นเคยมีข่าวว่า พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค
ทั้งนี้ มีรายงานว่าตลอดวันดังกล่าวได้มี ส.ส. ของพรรคพลังประชาชนเข้ามากรอกใบสมัครแล้ว 149 คน และจะทยอยมากรอกใบสมัครอีก ซึ่งน่าจะมีตัวเลขที่หัก ส.ส. ที่ถูกตัดสิทธิแล้วน่าจะมี 219 คน และยังมีรายงานข่าวด้วยว่าอาจจะมี ส.ส. จากบางพรรคการเมือง พากันเข้าพรรคเพื่อไทยด้วย
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย จะจัดการประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 4 ในวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และพิจารณาเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทน นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รักษาการ รมว.คลัง และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนเก่า ที่ได้ลาออกจากตำแหน่งไป
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีอดีต ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน และบุคคลที่มีความสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกล่าสุดขณะนี้ มีจำนวน 149 คน ซึ่งเชื่อว่าจะยังคงมีอดีตเพื่อนสมาชิกพรรคพลังประชาชนทยอยมาสมัครเป็นสมาชิกเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้ในวันที่ 7 ธันวาคม ทางพรรคจะจัดการประชุมใหญ่วิสามัญ ครั้งที่ 4 เพื่อทำการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ รวมถึงเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ด้วย
ขณะเดียวกัน พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 และ ส.ส. เขตนนทบุรี ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนใหม่ กล่าวว่า รู้สึกมีความอบอุ่นคล้ายกับตอนที่อยู่พรรคพลังประชาชน และเห็นว่าพรรคเพื่อไทยมีชื่อที่เป็นมงคล พร้อมเปิดเผยด้วยว่า ได้รับการติดต่อจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคสนใจที่จะเข้าร่วมพรรคเพื่อไทย ซึ่งเห็นว่า ส.ส.ทุกคนเป็นมิตรแท้และยินดีที่จะต้อนรับทุกคน เชื่อว่าน่าจะมีสมาชิกต่างพรรคเข้ามาเพิ่มเติม
ในส่วนของพรรคชาติไทยในวันเดียวกันนี้มีการประชุม ส.ส.ของพรรค และทำพิธีปิดพรรคชาติไทย โดยระหว่างทำพิธีปิด นายบรรหาร ศิลปอาชา กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนขอรับผิดแต่เพียงคนเดียวและขอโทษที่ไม่สามารถรักษาพรรคไว้ได้ โดยสมาชิกพรรคต่างน้ำตาคลอและกอดกันเพื่อให้กำลังใจ
“ผมขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวที่ไม่สามารถทำให้พรรคชาติไทยอยู่ไปตลอดรอดฝั่งได้ ซึ่งหากการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเป็นเพราะต้องการให้พันธมิตรฯ ออกจากสนามบิน ออกจากทำเนียบ พรรคชาติไทยก็ยอมรับในชะตากรรมอันนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนกัน และหลังจากนี้ 5 ปี แม้ผมจะอายุ 81 ปี ก็จะกลับมาเล่นการเมืองอีก”
ในตอนบ่าย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย เดินทางมาพร้อมกับสมาชิกพรรค นำช่อดอกไม้มอบให้กำลังใจนายบรรหาร พร้อมยืนยันว่า จะไม่เปลี่ยนขั้วการเมืองหรือย้ายพรรค โดยเชื่อว่าส.ส.ที่เหลืออีก 15 คน จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาทั้งหมด และเห็นว่านายชุมพล ศิลปอาชา เหมาะสมที่จะนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรค
ขณะเดียวกันนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตส.ส.สัดส่วน พรรคชาติไทย เดินทางนำแจกันดอกไม้มาแสดงความเสียใจ โดย นายจองชัย เที่ยงธรรม อดีตรองหัวหน้าพรรคชาติไทย มารับแจกันดอกไม้ พร้อมกล่าวว่า “วันนี้ไม่ใช่วันเสียใจ แต่เป็นวันช้ำใจ และเชื่อว่านายบรรหารจะให้อภัยและไม่ติดใจกับสิ่งที่ผ่านมา”
ทางด้านนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคร่วมรัฐบาลจะเปลี่ยนขั้วจัดตั้งรัฐบาลว่า ตนได้ยินข่าวเหมือนกัน แต่ยังไม่มีการพูดคุยที่ชัดเจน เพราะต้องยอมรับว่าพรรคมัชฌิมาธิปไตยมีเสียงน้อย
ทั้งนี้ ยืนยันว่ามีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมเสมอ ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตยยืนยันจะย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย และจะไม่ย้ายไปอยู่พรรคอื่น ส่วนคนที่จะเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยนั้น ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ส่วนตัวเห็นว่า การที่กฎหมายกำหนดโทษกับกรรมการบริหารพรรคไว้รุนแรง อาจทำให้คนมีชื่อเสียงไม่อยากมาเป็นกรรมการบริหารพรรค