ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล วาระหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ที่ประชุมเห็นชอบร่างแก้ไข พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับที่...) พ.ศ....โดยเหตุผล ในการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติ ิดังกล่าวระบุว่า เป็นการสมควรกำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยทุกคนต้องมี ีบัตรประจำตัวประชาชนตั้งแต่เกิด ไว้ใช้แสดงตนเพื่อประโยชน์ ในการเข้ารับบริการสาธารณะของรัฐ และปรับปรุงรายการ รวมทั้งหลักเกณฑ์ ์และวิธีการออกบัตร เพื่อให้สอดคล้องกับ การที่รัฐจะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการประชาชน ในด้านต่างๆ ผ่านทางบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อประโยชน์ของ ผู้ถือบัตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวจะต้องผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัต ิแห่งชาติ ต่อไป ซึ่งก็มีประเด็นที่น่าสังเกตว่า กฎหมายนี้จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประชาชนที่ยากจน กล่าวคือ ในส่วนของการเก็บค่าธรรมเนียมที่ร่างดังกล่าวระบุว่า
1. การออกบัตรใหม่หรือเปลี่ยนบัตร เสียค่าธรรมเนียมฉบับละ 500 บาท
2. การออกใบแทนใบรับ ฉบับละ 100 บาท
3.การขอคัดและรับรองสำเนาข้อมูลเกี่ยวกับบัตร ฉบับละ 50 บาท
นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ร่าง พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน กำหนดให้ผู้มีสัญชาติไทยทุกคนต้องมีบัตร และแก้ระยะเวลาการขอมีบัตร อายุของบัตรและเงื่อนไขในการขยาย เวลาการขอมีบัตร ขอมีบัตรใหม่หรือขอเปลี่ยนบัตร กำหนดตัวบุคคลมีหน้าที่ยื่นคำขอมีบัตร ขอมีบัตรใหม่ หรือขอเปลี่ยนบัตรให้แก่ผู้มีอายุไม่ถึง 15 ปี และกำหนดความผิดของบุคคลที่ไม่ทำหน้าที่จนพ้นกำหนดระยะเวลา ยื่นคำขอ นอกจากนี้การแก้ไขรายการในบัตร และกำหนดให้บัตรอาจมีหน่วยความจำเพื่อบันทึกข้อมูลของผู้ถือบัตร และเงื่อนไขในการเปิดเผยข้อมูล กำหนดเงื่อนไขการขอตรวจหลักฐาน รายการหรือข้อมูลที่เกี่ยวกับบัตร ของผู้มีส่วน ได้เสีย เป็นต้น
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ประชาชนผู้มีสัญชาติไทยย่อมได้รับสิทธิในการมีบัตรประจำตัว ประชาชน ตั้งแต่แรกเกิด โดยใช้ลายนิ้วมืออันเป็นลักษณะประจำตัวบุคคลเป็นหลัก และจะต้องต่ออายุบัตรทุก 10 ปี