WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, August 10, 2008

“พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ” เส้นทางชีวิตกับเก้าอี้ มท.1

คอลัมน์ : สะกิดกระบวนการยุติธรรม

การปรับคณะรัฐมนตรีสมัคร 2 เป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว และที่น่าจับตาที่สุดเห็นจะเป็น ชื่อของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีต ผบ.ตร. มานั่งควบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นที่เรียบร้อยไม่พลิกโผ แทน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ตกเก้าอี้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ไปเรียบร้อยโรงเรียนจีน

ถามว่าทำไม"สมัคร"ถึงเลือก “บิ๊กโก” มานั่งในตำแหน่งนี้แทน ร.ต.อ.เฉลิม ทั้งที่หลังเกษียณอายุราชการ พล.ต.อ.โกวิท เก็บตัวเงียบมาตลอดไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง คำตอบคงหนีไม่พ้นเพราะหวังภาพลักษณ์”มิสเตอร์คลีน” ของ พล.ต.อ.โกวิท จะเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลได้

ด้วยบุคคลิกที่ดูตรงไปตรงมา จริงจังกับการทำงาน ซื่อสัตย์สุจริต พูดน้อย ตรงกันข้ามกับบุคคลิกของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่เป็นคนพูดจาดุดัน รุนแรง ทำให้รัฐบาลนาวาสมัครจะสามารถลดแรงกดดันของของกลุ่ม”พันธมิตรฯ” ที่มีต่อรัฐบาลได้ไม่มากก็น้อย

และการไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหารช่วง 19 กันยายน 2549 ที่ผ่านมา ซึ่งลึกเข้าไปในหัวใจของ”บิ๊กโก”เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ พล.ต.อ.โกวิท “ถูกเลือก”ให้ร่วมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

หากมอง”ขั้วการเมือง” ของ พล.ต.อ.โกวิท แล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่มีขั้วการเมืองที่ชัดเจน ไม่ใช่คนกลุ่มพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือขั้วของคณะมนตรีความมั่นคง การดึง “บิ๊กโก” มาจึงลบภาพรัฐบาลนอมินีตามใบสั่ง “นายใหญ่” ได้

หากย้อนดูเส้นการเติบโตของ พล.ต.อ.โกวิท ที่ได้รับฉายาว่า “ตำรวจป่า” นั้นไม่ธรรมดา ช่วงขึ้นนั่งตำแหน่ง”เจ้ากรมปทุมวัน”นั้นมีคู่แข่งสำคัญ คือ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ นรต.รุ่น 23 ที่มีความสนิทแนบแน่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างมาก จนถูกโยกตัวกลับจาก สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ปปส. มานั่งรอง ผบ.ตร. เพื่อรอจัดคิวขึ้นนั่งตำแหน่ง ผบ.ตร. แทน พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รักษาการ ผบ.ตร. ในขณะนั้น

จุดประสงค์หลักก็เพื่อวางตัว พล.ต.อ.ชิดชัย ให้มาคุมทัพสีกากีเพื่อดูแลฐานอำนาจระหว่างที่พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ พล.ต.อ.โกวิท ขณะนั้นซึ่งรั้งอาวุโสอันดับหนึ่งที่จะได้นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. แข็งพอที่จะไม่ยอมง่ายๆ แสดงเจตจำนงจะฟ้องศาลปกครองหากมีการข้ามอาวุโสให้ พล.ต.อ.ชิดชัย ขึ้นเป็น ผบ.ตร.

ทำให้ คณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ต.ช. ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธาน ต้องมีมติให้ “บิ๊กโก” ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. นานถึง 3 ปีเต็ม จนเกษียณอายุราชการในปี 2550 ผลที่ตามมาทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องมอบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีให้ พล.ต.อ.ชิดชัย เป็นการปลอบใจแทน

ระหว่างที่นั่งในตำแหน่ง ผบ.ตร. นั้น พล.ต.อ.โกวิท ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด แม้จะไม่มีผลงานที่โดดเด่นให้เป็นที่จดจำมากนัก

จนกระทั่งวันที่ 19 กันยายน 2549 เกิดเหตุปฏิวัติรัฐประหาร โดยมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีต ผบ.ทบ. เป็นหัวหน้าคณะปฎิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ขณะนั้น พล.ต.อ.โกวิท ได้ดำรงตำแหน่ง รองหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ และดำรงตำแหน่งสมาชิก คมช. โดยไม่เต็มใจนักเพราะส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการปฎิวัติครั้งนี้

ซึ่งสาเหตุนี้บวกกับหลายสาเหตุที่พล.ต.อ.โกวิทไม่เห็นด้วยทำให้ภายหลัง พล.ต.อ.โกวิท มีปัญหาแตกคอกับสมาชิกคมช. ทำให้สมัยพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่ง ย้าย พล.ต.อ.โกวิท จากตำแหน่ง ผบ.ตร.ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550

เท่านั่นไม่พอ วันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2550 พล.อ.สุรยุทธ์ ได้เซ็นต์คำสั่งให้ พล.ต.อ.โกวิท พ้นจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

สร้างความเจ็บปวดให้กับ พล.ต.อ.โกวิท อย่างสุดซึ้ง ถึงความไม่เป็นธรรม จึงยื่นฟ้องศาลปกครอง ซึ่งภายหลังศาลปกครองได้วินิจฉัยว่า คำสั่ง พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นเหตุให้ต้องยกเลิกคำสั่งดังกล่าวในที่สุด ส่งผลให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ สามารถดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จนครบวาระเกษียนอายุราชการ ในวันที่ 30 กันยายน 2550 รักษาเกียรติยศชื่อเสียงของตนเองไว้ได้

และนี่คือที่มาและเกียรติประวัติของ นายตำรวจป่า ที่ชื่อ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ที่มีพฤติกรรมความซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ใสสะอาด การันตี จะทำให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า จะทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลดูดีขึ้นและลดแรงกดดันของสังคมได้อย่างที่รัฐบาลคาดหวังหรือไม่กับตำแหน่ง มท.1 ที่มีอำนาจควบคุมข้าราชการฝ่ายปกครอง ท่ามกลางบรรยากาศการเผชิญหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมสองฝ่ายที่มีความเห็นขัดแย้งทางความคิด และดูจะลุกลามไปในทางรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นบทพิสูจน์ที่ พล.ต.อ.โกวิท ต้องทำการบ้านอย่างหนัก

ประวัติ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ
พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนจะเกษียณอายุราชการเมื่อกันยายน ปี 2550 ที่ผ่านมา เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2490 เป็นชาว อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของ นายเกษม วัฒนะ อดีตข้าราชการครู และนายอำเภอผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา กับ นางสวง วัฒนะ สมรสกับ พ.ญ.วันทนีย ศรีอุทารวงค์ มีบุตร 2 คน

เข้าศึกษาชั้นประถมที่ โรงเรียนเทพประสิทธิ์วิทยา โรงเรียนผักไห่สุทธาประมุข โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจบจากโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 6 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 22 รับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดนมาตลอด เป็นเวลากว่า 27 ปี เคยปฏิบัติราชการรับใช้สมเด็จพระ ศรีนครินทราบรมราชชนนี
ชีวิตรับราชการ

เริ่มติดดาวบนบ่า ยศ ร.ต.ต. เมื่อ 1 เมษายน 2512 ประจำกองบัญชาการตำรวจนครบาล ช่วงปี 2513-2518 ย้ายไปสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งขณะนั้นสถานการณ์รบสู้กับคอมมิวนิสต์อยู่ในขั้นรุนแรง ร.ต.ต.โกวิท ในฐานะผบ.กองร้อยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดน ออกปราบปรามในพื้นที่ภาคเหนือตามแนวตะเข็บชายแดนไทย-พม่า คุ้มครองการก่อสร้างเส้นทางในพื้นที่อันตราย โดยเฉพาะเขต อ.อุ้มผาง จ.ตาก รวมระยะทาง 120 กิโลเมตร

นอกจากนี้ ระหว่างที่เป็น ผบก.ตชด.ภาค 3 ซึ่งรับผิดชอบภาคเหนือทั้งหมด ยังมีผลงานการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ปะทะต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายร่วม 50 ครั้ง จนสถานการณ์คลี่คลายลงได้รับความดีความชอบขึ้นเป็นรอง ผกก.1 บก.กฝ. (ค่ายพระรามหก อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี) แล้วขยับเป็น ผกก.1 บก.กฝ. ในวัยเพียง 32 ปี เป็นผู้กำกับที่หนุ่มที่สุดขณะนั้น

ต่อมาได้รับพิจารณาเลื่อนตำแหน่งขึ้น เป็นรอง ผบก.กฝ.(กองการฝึก) แล้วโยกมาเป็นรอง ผบก.ตชด. ภาค 3 และถูกโยกย้ายสลับตำแหน่ง เป็นรอง ผบก.ตชด.ภาค 1

ปี พ.ศ.2530 ติดยศ พล.ต.ต. ตำแหน่ง ผบก.ตชด.ภาค 3 คุมพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด ปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ

ปี พ.ศ.2537 ขยับนั่งเก้าอี้ ผบช. ตชด.

ปี พ.ศ.2543 ขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. รับผิดชอบงานบริหาร ก่อนเป็นรอง ผบ.ตร. คุมพื้นที่ชายแดนภาคใต้

ปี พ.ศ.2547 เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

พ.วิพากษ์