WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, March 25, 2008

รัฐบาลต้องนำร่อง [25 มี.ค. 51 - 18:03]

แผนเร่งด่วนแก้ไขวิกฤติแดนใต้ ที่รัฐบาล ศอ.บต.และฝ่ายความมั่นคงเห็นชอบให้ประกาศเป็นแผนปฏิบัติการ “สูตร 9-3-3-5”

โดยแยกเป็นแผนพัฒนาเศรษฐกิจ 9 ด้าน แผนพัฒนาสังคม 3 ด้าน แผนพัฒนาทรัพยากร 3 ด้าน และแผนพัฒนาการเมืองอีก 5 ด้าน

หลักการก็คือ การพัฒนาเศรษฐกิจที่เหมาะสมจะช่วยลดความไม่สงบที่เกิดขึ้น!!

ดูในภาพรวมก็ไม่แตกต่างจากแนวทางรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลสุรยุทธ์ ที่เคยประกาศนโยบายมาในช่วงแรกๆ

ยกเว้น...กำหนดเป้าหมาย อนุมัติงบประมาณ ผู้รับผิดชอบ และระยะเวลาดำเนินการแต่ละด้านชัดเจนมากขึ้น

“แม่ลูกจันทร์” หวังว่าจะมีการนำแผนเร่งด่วน “สูตร 9-3-3-5” ไปเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ การลงทุนใน 3 จังหวัดภาคใต้อย่างจริงจัง

เพราะ 3 ปีที่ผ่านไป 3 จังหวัดภาคใต้ กลายเป็น “พื้นที่ตายซาก”!!

ไม่มีการลงทุนใหม่ ไม่มีการขยายธุรกิจ ไม่มีการท่องเที่ยว แม้แต่โครงการก่อสร้างต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชนก็หยุดชะงักเหี้ยนเต้

พี่น้องประชาชนเดือดร้อนทำมาหากินอะไรก็ไม่ได้

ถ้าขืนปล่อยไปอย่างนี้ก็เจ๊งสนิทน่ะซีพระคุณท่าน

“แม่ลูกจันทร์” จึงเห็นด้วยที่รัฐบาลจะเป็นฝ่ายลงทุนสร้างธุรกิจขนาดใหญ่นำร่อง โดยเฉพาะโครงการจัดตั้งศูนย์กลางอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลส่ง ออกครบวงจรให้กองทัพเป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายผลิต เชิญภาคธุรกิจเอกชน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดเข้ามาถือหุ้น

และใช้แรงงานจากคนในพื้นที่

เพราะถ้าจะให้ฝ่ายเอกชนลงทุนเองทั้งหมด ก็เท่ากับให้เอกชนแบกรับความเสี่ยงไปทั้งดุ้น!!

ข้อสำคัญ...ในอดีตเรามีโรงงานอุตสาหกรรมผลิตอาหารของกองทัพ เช่น อาหารกระป๋องตราสามทหาร หรืออาหารสำเร็จรูปของ อสร. ที่เคยสร้างชื่อเสียงไว้อย่างยอดเยี่ยม

นอกจากศูนย์ผลิตอาหารฮาลาล ยังมีอุตสาหกรรมยางครบวงจร และโรงงานผลิตปาล์มน้ำมันเป็นพลังงานทดแทน อยู่ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจด้วย

ถ้ารัฐบาลเป็นตัวนำร่องอุตสาหกรรมทั้ง 3 ด้าน จะสามารถฟื้นฟู 3 จังหวัดภาคใต้ให้พ้นจกสภาวะตายซาก

ส่วนยุทธศาสตร์ และยุทธวิธีในการรับมือกับโจรก่อการร้าย และรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ต้องปล่อยให้ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งมี ผบ.ทบ. “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” และ ผบ.กอ.รมน. ภาค 4 เป็นผู้รับผิดชอบ

ฝ่ายการเมืองไม่ควรเข้าไปล้วงลูกให้วุ่นวายขายปลาช่อน

ถึงขณะนี้เหตุความรุนแรงรายวันยังเกิดขึ้น แต่แนวโน้มชี้ชัดว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง

เพราะชาวบ้านก็เบื่อเซ็งกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้เกิดความสงบสุขกลับสู่ชายแดนใต้ และร่วมมือแจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวของโจรแบ่งแยกดินแดนมากขึ้น

การใช้มาตรการเชิงรุก ปิดล้อมตรวจค้น พื้นที่เป้าหมายแบบเอกซเรย์ จนสามารถจับกุมแกนนำ และกองกำลังอาร์เคเค ก็ประสบความสำเร็จเกินคาด

ความล้มเหลวในอดีตเป็นบทเรียนทำให้เจ้าหน้าที่ปรับยุทธวิธีในการ รับมือกับโจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โจรมันจะขยับทางไหน ก็เริ่มดักทางได้ ดีขึ้น

“แม่ลูกจันทร์” มองโลกในแง่ดีว่า ภายในสิ้นปีนี้ สถานการณ์ชายแดนใต้จะลดความรุนแรงลงอย่างมาก

และภายใน 5 ปีข้างหน้า วิกฤติไฟใต้ อาจจะดับมอด??

แต่ในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่นิ่ง รัฐบาลไม่ควรผลีผลามเปิดการเจรจากับฝ่ายใดทั้งสิ้น

เพราะจะทำให้ปัญหาภายในของไทยถูกขยายผลเป็นปัญหาระหว่างประเทศ!!

รัฐบาลก่อนเคยเจรจาผิดตัวมาแล้ว เสียรังวัดไปบานแห้ว

เราต้องรัดกุมเอาไว้ก่อน...เพราะถ้าพลาดแล้วแก้ยาก.

“แม่ลูกจันทร์”

คอลัมน์ สำนักข่าวหัวเขียว