WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, March 25, 2008

แก้รัฐธรรมนูญ ต้องลดเงื่อนไขการเมือง?

การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 กำลังถูกนำมาโยงเป็นเกมการเมือง ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยให้มีการเสนอขอแก้ไข

โดยพยายามลากเกมการเมืองว่า ฝ่ายรัฐบาล โดยพรรคร่วมรัฐบาลอย่างน้อยๆ 2 พรรค ในขณะนี้กำลังถูกรุมเร้าจากซีกของฝ่าย “อำนาจเก่า” ที่เพิ่งจะพ้นจากตำแหน่ง แต่ทิ้งลูกสมุนเอาไว้ โดยพยายามเดินหมากเดินเกมทิ่มแทงฝ่ายประชาธิปไตย ในกรณีการยุบพรรค

ไม่วายที่มีเกมการเมืองจากฝ่ายพรรคเก่าแก่ ที่เล่นเกมสปิริตสูง หวังโยงให้ถึงเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” จากคดีความในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. ที่อุตส่าห์ชงเรื่องมาให้ แต่ถูกจับได้ไล่ทันว่า เกมสปิริตนี้เป็นเพียงฉากสร้างภาพทางการเมืองเท่านั้น ที่แท้ก็ “หวงเก้าอี้” เหมือนกัน ทั้งหมดเลยถูกโยงเป็นเกมการเมือง

โดยมองว่า การที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินบริเวณ “เขายายเที่ยง” นั้น คือเกมการตอบโต้จากรัฐบาล อย่างเด็ดสะระตี่ หวดทีเดียวถึงมือขวาอำมาตยาธิปไตย

โถ! กลเกมทางการเมืองแบบนี้ ว่าก็ว่า มีแต่เจ็บด้วยกันทุกฝ่าย

มันต้องมาดูถึงรากแก้วแห่งปัญหา จึงจะเห็นปัญญาในการทำให้ชาติบ้านเมืองมีความสงบสุขขึ้นมาได้ อย่ามาเล่นเกมนอกกติกานอกระบบแบบนี้อยู่ ไม่มีประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น

ปัญหาคือ รัฐธรรมนูญ 2550 นั้น ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญที่กลุ่ม “โจรกบฏและพรรคพวก” ได้สมคบคิดร่างกันขึ้นมา หลังจากทำการโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตย และฉีกรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 ที่ปวงประชามหาชนได้ร่วมกันร่างขึ้นมา

เราเห็นได้ว่า มันไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่เริ่มร่าง จึงกลายเป็นรัฐธรรมนูญฉบับ “หัวมังกุด ท้ายมังกร” มีการกล่าวหาแต่เริ่มแรกว่า เป็นรัฐธรรมนูญฉบับสนามกอล์ฟ เพราะเลขาธิการยกร่างชอบตีกอล์ฟ ไปขึ้นกรีน ในการไปยกร่างในต่างจังหวัด

ส่วนเนื้อหาภายในมีการเขียนข้อความที่ขัดหรือแย้งกันเองอย่างเห็นได้ชัด ในแต่ละหมวด และในแต่ละมาตรา ยิ่งอ่านลึกลงไปยิ่งสร้างความสับสนในเชิงประชาธิปไตย ที่คณะผู้ยกร่างไม่สามารถตอบคำถามจากสาธารณชนได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นที่มาของสมาชิกวุฒิสภา ไม่ว่าจะเป็นอำนาจของกรรมการในองค์กรอิสระที่ตั้งโดยคณะโจรปล้น

ประชาธิปไตย ผูกขาดเก้าอี้ไปอีก 6-8 ปี ไม่ว่าจะเป็นการให้สิทธิเสรีภาพประชาชนจนล้นแก้ว แต่ถูกจำกัดด้วยกฎหมายความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตรวจสอบนักการเมืองเสียจนไม่มีใครกล้าทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการนิรโทษกรรมให้คณะโจรปล้นประชาธิปไตย

รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นเรื่องที่ฝ่ายอำมาตยาธิปไตยได้พยายามผูกโยงเอาไว้เป็นเงื่อนตาย ในการทำให้การเมืองถึงทางตันหรือไม่ เป็นปัญหาที่น่าขบคิดก็จริงอยู่

แต่หากเราไม่เอาเกมการเมืองมาเป็นส่วนคิดอันสำคัญนี้ หรือนำมาตั้งเป็นโจทย์ใหญ่ ถามว่า เราควรจะแก้ไขหรือไม่
คำตอบทุกคนรู้แก่ใจ
นักวิชาการ (น้ำดี)
นักการเมือง (ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล)
องค์กรประชาชน หรือ เอ็นจีโอ (ที่เป็นประชาธิปไตยจริงๆ ไม่กลับกลอก)
สื่อสารมวลชน (ฝ่ายประชาธิปไตย)
ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน (ที่ไม่เอาโจรปล้นประชาธิปไตย)

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ อะไรเป็น ข้อด้อย ข้ออัปลักษณ์ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปสู่การบริหารจัดการประเทศ เพื่อให้ประชาชนผาสุข มีความอยู่ดีกินดี

หากฝ่ายบริหารไม่เข้มแข็ง แล้วเราจะหวังให้ประเทศเข้มแข็ง ให้ประชาชนเข้มแข็งได้อย่างไร การร่างรัฐธรรมนูญโดยมีอคติต่อนักการเมือง มีอคติต่อฝ่ายบริหารประเทศชาตินั้น มันจะทำให้เรายิ่งล้าหลังหรือไม่

ดังนั้น การแก้รัฐธรรมนูญต้องเอาเกมการเมืองออกไปจากระบบคิดก่อน เอาความจริงใจของทุกคน ทุกฝ่าย ที่ต้องการให้ชาติบ้านเมืองเจริญเติบโต มานั่งคิดอ่านกันอย่างบริสุทธิ์ใจ และ ปราศจากอคติ เอาความเป็นกลาง ความเป็นธรรม นึกถึงเวลาที่ตัวเราโดนบ้างจะเป็นอย่างไรมาคิดตรึกตรองกันด้วย

หากต้องการจะแก้รัฐธรรมนูญ เราต้องสลัดเงื่อนไขทางการเมืองออกไป ไม่อย่างนั้นประเทศไทยคงไปไม่ถึงฝั่งที่เราต้องการ นั่นคือจุดหมายของการมีประชาธิปไตย ที่ทุกคนอยากจะเห็น เพราะนั่นคือ ความผาสุกของประชาชนทุกผู้ตัวคน